“โคคา-โคล่า” จับมือ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” นำ “โค้ก® คัพ” คืนสนามสู่ลีกเยาวชน U-17

“โคคา-โคล่า” จับมือ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์”  นำ “โค้ก® คัพ” คืนสนามสู่ลีกเยาวชน U-17

โคคา-โคล่า ร่วมมือกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศนำ “โค้ก® คัพ” กลับมาอีกครั้ง โดยการแข่งขันจะจัดในรูปแบบใหม่เป็นลีกเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17)

โคคา-โคล่า ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (FAT) เตรียมนำ “โค้ก® คัพ” กลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในปี พ.ศ. 2569 ในรูปแบบใหม่ คือการจัดการแข่งขันในลีกเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี หรือ U-17 เปิดโอกาสให้นักฟุตบอลไทยรุ่นใหม่ได้มีโอกาสฝึกฝนและแข่งขัน เพื่อสานฝันสู่การเป็นตัวแทนนักกีฬาฟุตบอลไทยในการแข่งขันระดับโลก

ความร่วมมือครั้งนี้ สะท้อนความเป็นมาอย่างยาวนานในการสนับสนุนฟุตบอลไทยของโคคา-โคล่า ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522 ในโครงการ “โค้ก โก ฟอร์ โกล” ต่อเนื่องมาถึงการเปิดตัว “โค้ก® คัพ” ในปี พ.ศ. 2524 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนระดับประเทศที่จัดต่อเนื่องมาอีกร่วมสี่ทศวรรษ และกลายเป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลเยาวชนที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย

“โคคา-โคล่า” จับมือ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์”  นำ “โค้ก® คัพ” คืนสนามสู่ลีกเยาวชน U-17 เซลแมน คาเรกา ประธานภูมิภาคอาเซียนและแปซิฟิกตอนใต้ เดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี กล่าวว่า “โคคา-โคล่า ภูมิใจที่ได้สนับสนุนกีฬาฟุตบอลมาอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับประเทศและระดับโลก สำหรับประเทศไทย ฟุตบอลถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่คนไทยหลงใหลมาทุกยุคทุกสมัย ความร่วมมือกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในครั้งนี้จึงตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนนักกีฬาเยาวชนและวงการฟุตบอลเยาวชนไทย ด้วยการนำ “โค้ก® คัพ” ลีกเยาวชน U-17 คืนสนามกลับมาอีกครั้งในปีหน้า เราดีใจที่ได้มีส่วนพัฒนานักกีฬาฟุตบอลไทยรุ่นใหม่และเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพ เพื่อทำตามความฝันของตนเองได้อย่างเต็มที่”

“โคคา-โคล่า” จับมือ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์”  นำ “โค้ก® คัพ” คืนสนามสู่ลีกเยาวชน U-17 นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับโคคา-โคล่า ประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการฟุตบอลไทย โดยเฉพาะในระดับเยาวชน สำหรับ รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เป็นหนึ่งในรุ่นที่สมาคมฯ ให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะนอกจากเป็นช่วงอายุ ที่นักกีฬามีโอกาสเข้าสู่เส้นทางความฝัน คือ การเป็นนักกีฬาอาชีพแล้ว ยังสอดคล้องกับในระดับนานาชาติ หลังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ปรับให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ขึ้นต่อเนื่องในทุกปี การกลับมาของ “โค้ก®  คัพ” ในรูปแบบใหม่ จึงถือเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญ ในเรื่องทรัพยากรของนักกีฬา และเป็นประตูสู่โอกาสไปฟุตบอลโลก ของ ทีมชาติไทย มากยิ่งขึ้น”

“โค้ก® คัพ” ลีกเยาวชน U-17 เป็นมากกว่าทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน แต่ออกแบบมาเพื่อพัฒนานักเตะเยาวชนอย่างแท้จริง โดยผสมผสานการแข่งขันที่เข้มข้นเข้ากับการฝึกซ้อมระดับมืออาชีพ เพื่อยกระดับทักษะและศักยภาพของเยาวชนที่เข้าร่วม และมีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อให้นักเตะเยาวชนไทยประสบความสำเร็จในระดับโลก โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการก้าวสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก U-17 

“โคคา-โคล่า” จับมือ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์”  นำ “โค้ก® คัพ” คืนสนามสู่ลีกเยาวชน U-17

ความร่วมมือในโครงการนี้มีระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2569 ถึง 2571 โดยในปี พ.ศ. 2569 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะจัดการแข่งขันรวม 195 นัด ประกอบด้วยทีมที่ผ่านการคัดเลือก 192 ทีมจาก 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งคัดเลือกจากโรงเรียนและสถาบันที่ได้รับการรับรองจากสมาคมฯ เพื่อให้มั่นใจว่าเยาวชนที่มีความสามารถจะเข้าถึงการแข่งขันได้อย่างทั่วถึง โดย “โค้ก® คัพ” โฉมใหม่จะเริ่มจัดการแข่งขันระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมปี พ.ศ. 2569 ทีมที่ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท นอกจากนี้ ตลอดทั้งการแข่งขันจะมีการเฟ้นหานักเตะฝีเท้าดีเพื่อคัดเลือกเข้าสู่ทีมชาติ ซึ่งกระบวนการคัดเลือกจะใช้โมเดล T+MASC ของสมาคมฯ เพื่อติดตามผลงานและสนับสนุนการพัฒนาผู้เล่น โดยโครงการตั้งเป้าหมายที่จะพาทีมเข้ารอบในการแข่งขันเอเชียนคัพ และฟุตบอลโลก U-17 ในที่สุด 

“โคคา-โคล่า” จับมือ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์”  นำ “โค้ก® คัพ” คืนสนามสู่ลีกเยาวชน U-17

ทั้งนี้ โคคา-โคล่า ประเทศไทย จะจะเป็นผู้สนับสนุนหลัก ส่วนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะดำเนินงานด้านการบริหารจัดการลีกโดยรวม ซึ่งรวมถึงส่วนสำคัญคือการคัดเลือกและพัฒนานักเตะดาวรุ่งสำหรับทีมชาติไทย U-17