30 พ.ย. 2567 | 16:30 น.
น้ำท่วมหนักจากมรสุมในภาคใต้ของไทยส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 267,000 คน โดย 29% ของผู้ประสบภัยเป็นเด็ก โรงเรียนกว่า 70 แห่งถูกปิด เด็กหลายคนต้องหยุดเรียน อยู่ในสภาวะเครียด และบางคนพลัดหลงจากครอบครัว เซฟ เดอะ ชิลเดรน ไทยแลนด์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อประสานงานและเก็บข้อมูลเบื้องต้น พร้อมเตรียมการประเมินความต้องการเร่งด่วนเพื่อนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมให้เร็วที่สุด
เซฟ เดอะ ชิลเดรน ไทยแลนด์ (Save the Children Thailand หรือมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ประเทศไทย) ได้ประเมินว่ามีจำนวนผู้ประสบภัยจากมรสุมในภาคใต้กว่า 267,000 คน ซึ่งในจำนวนผู้ประสบภัยนี้เป็นเด็กมากกว่า 77,000 คน หรือคิดเป็นประมาณ 29% ของผู้ประสบภัยทั้งหมด ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากต้องเผชิญกับการหยุดชะงักทางการศึกษา เนื่องจากโรงเรียนกว่า 70 แห่งในพื้นที่ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสต้องปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด
เด็กหลายพันคนถูกบังคับให้หยุดเรียนโดยไม่ทราบว่าจะสามารถกลับไปเรียนได้เมื่อไร ในขณะเดียวกัน เด็กจำนวนมากต้องอยู่ในสถานการณ์เครียด บางคนไม่มีผู้ปกครองดูแล และอาจตกอยู่ในความเสี่ยงเพิ่มเติม รวมถึงอันตรายจากการเล่นในน้ำท่วมที่อาจปนเปื้อนสิ่งสกปรกและกระแสไฟฟ้ารั่ว
เซฟ เดอะ ชิลเดรน ขอแนะนำผู้ปกครองและชุมชนให้ดูแลเด็กในสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของเด็ก ๆ โดยควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้เด็กเล่นในน้ำท่วมอย่างเด็ดขาด เนื่องจากน้ำอาจปนเปื้อนเชื้อโรค สารเคมี หรือกระแสไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง สำหรับเด็กที่อยู่บ้านไม่ได้ไปโรงเรียน ผู้ปกครองควรสร้างความรู้สึกมั่นคงให้กับเด็ก แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่มีทรัพยากรที่จำกัด ด้วยการพูดคุยอธิบายสถานการณ์ปัจจุบันให้เข้าใจง่าย สร้างกิจกรรมง่าย ๆ เช่น เล่านิทาน เล่นเกมเดาคำ หรือพูดคำคล้องจอง เพื่อช่วยลดความเครียดและทำให้เด็กไม่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างยากลำบาก และเพื่อให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัยและมั่นใจว่าครอบครัวยังคงอยู่เคียงข้างในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
ในกรณีที่เด็กพลัดหลง ควรแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ เช่น ศูนย์พักพิง พร้อมเตรียมข้อมูลสำคัญ เช่น รูปถ่ายเด็ก ชื่อ-สกุล และข้อมูลติดต่อ เพื่อช่วยในการติดตาม หลังน้ำลด ควรตรวจสอบบ้านให้ปลอดภัยทั้งระบบไฟฟ้าและน้ำประปา รวมถึงฆ่าเชื้อสิ่งของที่เด็กต้องสัมผัส เช่น ของเล่นหรือเสื้อผ้า เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ
กีโยม ราชู ผู้อำนวยการบริหาร เซฟ เดอะ ชิลเดรน ไทยแลยด์ กล่าวว่า “แม้ว่าจะมีคาดการณ์ว่าน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม แต่การเกิดน้ำท่วมครั้งนี้ที่มาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงหนึ่งเดือน เป็นสัญญาณเตือนถึงผลกระทบที่รุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความผิดปกติของช่วงเวลานี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปกป้องเด็ก ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว เราขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยของเด็กๆ และเยาวชนที่เป็นผู้ประสบภัยด้วย เจ้าหน้าที่ของเราเราเองก็ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วมครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน บางคนต้องอพยพออกจากบ้าน และบางคนยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เรากำลังเตรียมการประเมินความต้องการอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยอาศัยประสบการณ์จากการตอบสนองภัยพิบัติที่ผ่านมา ที่เราเคยให้การช่วยเหลือทั้งในภาคใต้ในทุกๆ ปี รวมถึงภัยพิบัติในภาคเหนือที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมด้วย เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่เข้าไปสนับสนุนชุมชนที่เปราะบางที่สุดในช่วงเวลาสำคัญนี้ี้”
เซฟ เดอะ ชิลเดรน ได้ตอบสนองต่อสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ของไทย โดยกำลังส่งเจ้าหน้าที่ไปยังพื้นที่เพื่อประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นในการรวบรวมและประเมินความต้องการเร่งด่วน โดยมีชุดสุขอนามัยสำหรับเด็กและทารกที่จัดเตรียมพร้อมไว้แล้ว
นอกจากนี้ทาง เซฟ เดอะ ชิลเดรน ยังคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและมุ่งหวังจะที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการปกป้องและสนับสนุนอย่างทันท่วงที และเปิดรับบริจาค เพื่อให้เด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้รับความช่วยเหลือและการดูแลที่เหมาะสมผ่าน https:/savethechildren.or.th/