06 ก.ย. 2568 | 19:00 น.
KEY
POINTS
หลายปีแล้วที่เราได้ยินคำว่า ‘สังคมคนโสด’ ดังแว่วอยู่ในบทสนทนาของสังคม ที่คนรุ่นใหม่เลือกจะอยู่กับตัวเองมากกว่าการหาคู่ชีวิตที่อยู่กินและร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน และออกลูกออกหลานตามค่านิยมดั้งเดิมของสังคม
คนบางคน หรือแม้กระทั่งคุณเองก็อาจเคยหวั่นไหวกับการจะต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีคู่ครอง แต่ในความเป็นจริง เราอาจไม่ได้ถูกลิขิตมาในฐานะคนรักของใคร เราเพียงแต่อยากใช้ชีวิตโดยรู้แค่ว่า…วันนี้ เราอยากให้หน้าตาความสุขของเราเป็นยังไงก็พอแล้ว
เช่นเดียวกับ โดโรธี ฟิเดลี (Dorothy Fideli) ที่ถึงแม้จะอายุ 77 ปี เธอก็เลือกที่จะทำตามหัวใจตัวเองโดยการสวมชุดเจ้าสาว และเข้าพิธีวิวาห์กับคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน และเข้าใจตัวเธอมากที่สุด…นั่นคือการแต่งงานกับ ‘ตัวเอง’ ที่บ้านพักผู้สูงอายุในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา
ด็อตตี้ฝันมาโดยตลอดว่าอยากสวมชุดเจ้าสาวในงานแต่งงานที่ใหญ่โตสักครั้งในชีวิต เธอแต่งงานครั้งแรกในปี 1965 ทว่าครั้งนั้นเธอไม่ได้สวมชุดเจ้าสาวอย่างที่ควรจะเป็น เธอสวมเพียงชุดเดรสสีดำ และมีเพียงการจดทะเบียนกับกล่าวคำสาบานที่ศาลเท่านั้น เมื่อพิธีการเสร็จสิ้น สามีของเธอก็ต้องรีบไปทำงาน ส่วนด็อตตี้เองก็กลับบ้านตามลำพัง เธออยู่กินกับสามีและมีลูกด้วยกันถึงสามคนก่อนจะหย่าร้างในอีก 9 ปีต่อมา
“ฉันดันใส่ชุดดำไป ก็เลยพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม” ด็อตตี้พูดถึงงานวิวาห์ครั้งแรกอย่างติดตลก แต่เชื่อเถอะว่านั่นคงไม่ใช่ภาพที่สวยงามในความทรงจำของเธอเท่าไรนัก
ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่า มันคงสายเกินไปสำหรับเธอที่จะใส่ชุดแต่งงานเป็นเจ้าสาวอย่างที่ใจปรารถนา
กระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนบ้านของด็อตตี้เล่าให้ฟังว่าเคยดูรายการทีวีซึ่งมีคนจัดพิธีแต่งงานกับตัวเอง เมื่อเธอได้ยินเรื่องราวการแต่งงานที่แหวกแนวนี้ทำเอาเธอตื่นเต้นไม่น้อย เธอคิดว่าตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เธอได้มอบเวลาอันล้ำค่าให้กับลูกทั้งสามคนและหลาน ๆ ที่เธอรักสุดหัวใจ ในวันนี้ เธอจึงอยากทำบางสิ่งที่พิเศษเพื่อตัวเองบ้าง
เมื่อด็อตตี้เล่าให้ดอนน่า เพนนิงตัน ซึ่งเป็นลูกสาวของเธอฟังด้วยความตื่นเต้นว่าอยากแต่งงานกับตัวเอง และดอนน่าก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ลงมือจัดเตรียมทุกอย่างให้แม่ด้วยความรักและความใส่ใจ เธอจัดเตรียมตั้งแต่ชุดเจ้าสาว ช่อดอกไม้ เค้กแต่งงาน ไปจนถึงอาหารและขนมสำหรับเลี้ยงแขก รวมถึงการตกแต่งสถานที่สำหรับพิธีแต่งงานอย่างครบถ้วน
และแล้ววันที่ด็อตตี้เฝ้ารอก็มาถึง 13 พฤษภาคม 2023 ณ บ้านพักโอแบนนอน เทอเรส ชุดเจ้าสาวที่เธอสวมคือเดรสแขนยาวสีขาวประดับลูกไม้ ตามด้วยผ้าคลุมผมแบบคาดศีรษะ และเข็มขัดสีเงินคาดเอว มือของเธอถือช่อดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งด็อตตี้ตั้งใจให้เป็นสัญลักษณ์ของการปลูกฝังความรักในตัวเอง
แม้จะประหม่าอยู่บ้าง แต่ความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาไม่แพ้กันคือความสุขและตื่นเต้นที่ตัวเองจะได้ทำในสิ่งที่ฝันไว้มาเนิ่นนาน โดยที่มีดอนน่า ผู้เป็นลูกสาวจัดเตรียมพิธี และร็อบ ไกเกอร์ ผู้จัดการบ้านพักมาทำให้งานแต่งสมบูรณ์ดั่งฝัน
“ฉันเดินเข้ามาในห้องแล้วบอกกับร็อบว่า ‘ร็อบ เธอต้องแต่งงานกับฉันนะ’ แล้วเขาก็ตอบว่า ‘อะไรนะ?!’” ด็อตตี้เล่าถึงพรสวรรค์การเล่นมุกอย่างชำนิชำนาญ
เมื่อด็อตตี้บอกว่าเธออยากทำอะไร ร็อบตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เพราะไม่อยากพลาดโอกาสที่เขาได้รับเกียรติจากผู้หญิงคนนี้ คนที่สร้างรอยยิ้มให้กับคนรอบข้างเสมอมา
ด็อตตี้อยากสร้างความหมายและส่งต่อความรักไปให้แขกเหรื่อที่มาเข้าร่วมในพิธีด้วยการเปรียบเปรยความสุขของมนุษย์กับดอกลิลลี่ แล้วกล่าวออกมาเป็นสุนทรพจน์ว่า “เรามักจะมองความงดงามของดอกลิลลี่แค่ภายนอก แล้วก็ใช้ชีวิตไปโดยคิดว่าตัวเองมีความสุข และคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปเสียหมด แต่เราอาจไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น กลีบดอกเล็ก ๆ ข้างในนั่นแหละคือสิ่งสำคัญ” คุณยายกล่าว
เรื่องราวของโดโรธี ฟิเดลี ได้สร้างพลังและความหมายของ “การรักตัวเอง” ว่าเป็นความรักที่เรียบง่าย แต่กล้าหาญและงดงามที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะมีได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรหรืออยู่ในสถานะใด เธอขอเลือกความรักเป็นตัวนำทางช่วงสุดท้ายของชีวิตซึ่งจะอยู่กับเธอไปชั่วนิรันดร์
“ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดบนโลกใบนี้ หากคุณรักพระเจ้าและรักตัวเองอย่างแท้จริง โลกทั้งใบจะแปรเปลี่ยนเป็นสวนกุหลาบที่งดงาม”
เรื่อง: นุศรา นภาวัฒนากูล
อ้างอิง