Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

'Plastique Tiara' Drag Queen ชาวเวียดนามผู้เชื่อมโลกด้วยศิลปะ LGBTQ+ จากเวียดนามสู่เวที RuPaul’s Drag Race ภาพแทนของความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์เอเชีย

KEY

POINTS

  • จากเด็กในครอบครัวเคร่งศาสนา สู่ศิลปิน Drag Queen ผู้เป็นกระบอกเสียงให้ชาว LGBTQ+ ทั่วโลก
  • ใช้ศิลปะ Drag เยียวยาตัวตน เชื่อมโยงรากเหง้าวัฒนธรรมเวียดนาม และฟื้นสายสัมพันธ์กับครอบครัว
  • ตัวแทนชาวเอเชียใน RuPaul’s Drag Race กับภารกิจสร้างพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจให้คนรุ่นใหม่

“ฉันรู้ตัวมาตลอดว่าฉันแตกต่าง แต่ฉันรักคุณตาคุณยายมาก ๆ และไม่อยากทำให้ท่านเสียใจ ฉันเลยเลือกที่จะซ่อนตัวเองไว้ เก็บทุกอย่างไว้ในใจ และพยายามตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด” 

Plastique Tiara แดร็กควีนชาวเวียดนาม ในวัย 28 ปี มีผู้ติดตามกว่า 11.9 ล้านคน บน TikTok เผยถึงชีวิตวัยเด็ก

คลิปวิดีโอของเธอสร้างปรากฎการณ์คนรับชมคลิปอึ้งจนตาค้าง หลังจากเห็นเธอแต่งชายก็หล่อปานเทพบุตร แต่งหญิงก็สวยราวกับนางฟ้า หรือจะอยู่ในลุคสบาย ๆ ก็ทำให้คนเผลอยิ้มกับความน่ารักของเธอโดยไม่รู้ตัว แต่กว่าจะเธอคนนี้จะมีผู้ติดตามนับสิบล้านคน เธอเองก็เคยผ่านเหตุการณ์ที่ชาว LGBTQ+ หรือเควียร์ทั่วโลกต่างเคยเผชิญ

นั่นคือ การปฏิเสธตัวเอง เพราะเกรงว่าจะไม่ถูกยอมรับ

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

“ในฐานะผู้อพยพ เราอยากกลมกลืนให้ได้มากที่สุดในสังคมใหม่ พยายามก้มหน้า เดินเร็ว ๆ ไม่อยากเป็นที่รู้จัก” 

เธอย้อนความหลังถึงช่วงที่ย้ายจากเวียดนามไปอยู่สหรัฐอเมริกา ดินแดนโลกเสรีที่เด็กวัย 10 ขวบอย่างเธอไม่เข้าใจนัก 

แต่ระหว่างไปเที่ยวกับ สตีเฟน แฟนหนุ่มที่คบหากันนาน 3 ปี ก่อนจะตัดสินใจสวมแหวนหมั้นไปเมื่อเดือนมีนาคม 2025 เธอกลับแปลกใจที่เห็นว่าเวียดนามเปลี่ยนไปมาก และวัฒนธรรมแดร็กกำลังเฟื่องฟู

“ตอนนั้นแหละที่ฉันรู้ว่า ‘ว้าว โลกนี้มันเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ เราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวเพื่อเอาตัวรอดอีกต่อไป ฉันสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ และยังได้รับการเฉลิมฉลองอีกด้วย’ ฉันเข้าใจเลยว่าสิ่งที่ฉันทำ มันใหญ่กว่าตัวฉันมาก และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ คนอื่นกล้าเป็นตัวเองและใช้ชีวิตอย่างแท้จริง การที่ฉันเป็นคนเวียดนาม การที่ฉันเป็นคนเอเชีย คือส่วนสำคัญของตัวฉัน และสิ่งที่ฉันทำมันมีความหมายจริง ๆ”

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

นับแต่นั้น เธอจึงพยายามใส่ความเป็นวัฒนธรรมเวียดนามลงไปในทุกสิ่งที่เธอทำในแดร็ก “ทุกวันนี้ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันพยายามเป็นตัวแทนของบ้านเกิดให้ได้เสมอ”

Plastique Tiara เคยเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ RuPaul’s Drag Race ซีซัน 11 และเข้าร่วมรายการในซีซัน 9 ของ RuPaul’s Drag Race All Stars เพื่อชิงเงินรางวัล 200,000 ดอลลาร์ เงินรางวัลก้อนใหญ่ที่เธอตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกว่า หากชนะเธอจะมอบให้กับมูลนิธิเพื่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย (The Asian American Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียม สร้างความเข้าใจ และสนับสนุนชุมชนชาวเอเชียน-อเมริกันในหลากหลายด้าน ทั้งการศึกษา การเป็นตัวแทนในสื่อ และการต่อสู้กับอคติทางเชื้อชาติ

ปัจจุบันไม่ว่า Plastique Tiara จะลงคลิปอะไร เธอก็กลายเป็นไวรัลนับครั้งไม่ถ้วนจากลุคต่าง ๆ แม้แต่นักร้องสาวระดับโลกอย่าง ‘อารีอานนา กรานเด’ (Ariana Grande) ก็เข้ามารีโพสต์คลิปวิดีโอของเธอ แฟนคลับถึงกับหาตัวว่าใครกันทำให้นักร้องสาวชื่นชอบถึงขั้นกดรีโพสต์ให้ในแอคเคาท์ส่วนตัว 

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

ซึ่งศิลปะที่ Plastique Tiara เลือกนำมาเสนอ ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากบ้านเกิดของเธอที่เวียดนาม แม้ว่าช่วงแรกเธอจะมองว่าแดร็กควีนเป็นเพียง ‘โล่กำบัง’ แต่เมื่อได้ลองเข้ามาสู่โลกใบนี้ กลับค้นพบว่านี่ไม่ใช่โล่ แต่คือตัวตนของเธอที่อยากให้คนทั้งโลกเห็น

"เมื่อคุณเป็นแดร็กควีน คุณจะไม่มีอคติใด ๆ คุณไม่เป็นที่รู้จักในชื่อของคุณ หน้าตาของคุณในชีวิตจริงเป็นอย่างไร หรืออาชีพของคุณ คุณเป็นตัวละครที่ไม่มีใครแตะต้องได้" 

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

และแน่นอนว่าบุคลิกนี้ทำให้เธอมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แม้จะไม่แต่งแดร็กควีน เธอเสริมว่า "รูพอล (RuPaul) มักพูดเสมอว่า ‘พลังที่ฉันมีตอนเป็นแดร็กก็คือพลังเดียวกันที่ฉันมีเวลาที่ไม่ได้เป็น’ และคำนี้มีพลังมากสำหรับฉัน พอฉันตระหนักว่าฉันเองก็มีพลังนั้นเหมือนกันไม่ว่าจะอยู่ในแดร็กหรือไม่ มันเหมือนโลกทั้งใบพลิกไปเลย”

แต่ก่อนที่เธอจะกลายเป็น Plastique Tiara ชื่อก้องโลกอย่างในทุกวันนี้ เมื่อก่อนเธอเป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าเกย์ หรือเควียร์คืออะไร 

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

เธอใช้ชีวิตในชื่อ ‘ดุก เจิ่น เหงียน’ (Duc Tran Nguyen) มาโดยตลอด หากถามว่าตอนเด็ก ๆ เธอเป็นยังไง เธอมักจะเล่าให้ฟังติดตลกว่า อันที่จริงเธอเป็นแค่เด็กเรียนนั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จา เติบโตในครอบครัวเคร่งศาสนา โดยมีคุณตาคุณยายคอยให้ความรักอยู่ไม่ห่าง และเพราะความรักนี้เองทำให้เธอรู้สึกว่า ไม่อยากทำให้พวกท่านเสียใจ การเรียนให้เก่งจึงเป็นหนทางเดียวในการตอบแทนความรักพวกท่าน เท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้

“ฉันรักคุณตาคุณยายมาก ๆ และไม่อยากทำให้ท่านเสียใจ ฉันเลยเลือกที่จะซ่อนทุกอย่างเอาไว้ เก็บทุกอย่างไว้ในใจ และจมอยู่กับการเรียน” 

เพราะในเวลานั้น แทบไม่มีอิทธิพลจากชุมชน LGBTQ+ ให้เห็นในเวียดนามเลย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘การเป็นเกย์’ หมายถึงอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีชุมชนเควียร์หรือแดร็กเลย เธอไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าการชอบผู้ชาย ชอบแต่งตัวไม่ตรงอัตลักษณ์ทางเพศจะสร้างความเจ็บปวดให้ครอบครัวถึงเพียงนี้ จนกระทั่งเธอย้ายมาอยู่สหรัฐฯ ตอนอายุ 10 ขวบ

“พอฉันรู้ว่าฉันมีพลังแบบเดียวกันทั้งตอนแต่งแดร็กและไม่ได้แต่ง มันเหมือนโลกทั้งใบสั่นสะเทือนเลย”

นั่นคือช่วงที่เธอค้นพบรายการ RuPaul’s Drag Race และจากนั้น Plastique Tiara ก็ถือกำเนิดขึ้น

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

“ฉันดูรายการทางช่อง Logo ทุกสัปดาห์ตอน 5 ทุ่ม ตอนที่แม่หลับแล้ว มันทำให้ฉันเริ่มรู้สึกว่า ‘เฮ้ย การที่ฉันเป็นแบบนี้มันก็โอเคนะ’ แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเลย”

เมื่ออายุ 18 เธอเริ่มประกวดแดร็กในบาร์เล็ก ๆ ที่ดัลลัส และตอนอายุ 21 เธอก็ออดิชันจนได้เข้าร่วมการแข่งขันในซีซัน 11 ของ RuPaul’s Drag Race แม้จะตกรอบค่อนข้างเร็ว แต่ชื่อเสียงของเธอบนโซเชียลก็พุ่งทะยาน

เมื่อได้กลับไปเวียดนามเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี หลังโควิดผ่านพ้นไป หลายคนในชุมชนชาวเอเชียน-อเมริกันเคยเล่าถึงประสบการณ์ ‘ตื่นรู้’ ว่าตนเองมีรากเหง้าและมีคุณค่า หลังจากเคยหลีกหนีสิ่งเหล่านั้นมานาน สำหรับ Plastique Tiara มันเหมือนกับฉากแปลงร่างใน Sailor Moon เลยทีเดียว

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

Plastique Tiara รู้ดีถึงพลังของแดร็กที่สามารถท้าทายกรอบเพศแบบเดิม ๆ และทำให้ชุมชน LGBTQ+ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่มีพื้นที่และตัวแทนที่มองเห็นได้ชัดเจน แต่ในชีวิตของเธอเอง แดร็กยังช่วยเชื่อมโยงกับครอบครัวด้วย

“ตอนฉันพยายามจะออกมาเปิดเผยตัวตน มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังเลย

“พอฉันอายุ 18–19 ฉันก็ออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง ไม่ติดต่อครอบครัวอีก จนกว่าฉันจะสร้างชื่อให้ตัวเองได้ ตอนนั้นแหละที่พวกเขาเริ่มเข้าใจว่า สิ่งที่ฉันเป็น ไม่ใช่เพราะฉันเลือก แต่เพราะฉันถูกสร้างมาแบบนี้”

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

วันนี้ ครอบครัวของเธอเริ่มเข้าใจในตัวเธอ และเห็นคุณค่าความสำเร็จที่เธอสร้าง

“ความสัมพันธ์ของฉันกับครอบครัวเกือบจะดีขึ้นเต็มที่แล้วก็เพราะแดร็กนี่แหละ มีรอบนึงฉันชนะการแข่ง ยายก็ส่งข้อความมาหาเลยว่า ‘เห็นหนูชนะในรายการด้วย ยินดีด้วยนะ!’ การที่ครอบครัวภูมิใจในตัวฉันที่ทำแดร็ก เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ”

นั่นแหละคือความงดงามของความหลากหลาย มันสามารถทำให้ผู้คนทั่วโลก แม้แต่คนในครอบครัวของคุณเอง เข้าใจตัวคุณและตัวตนของคุณได้ดียิ่งขึ้น สำหรับ Plastique Tiara แล้วการที่เธอสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ มันคือโลกทั้งใบ โลกที่พร้อมทลายอคติทางเพศและโอมรับตัวตนของเธอ ไม่ว่าจะแต่งเป็นชายหรือหญิงก็ตาม 

Plastique Tiara : Drag Queen ชาวเวียดนาม ผู้เชื่อมโลกผ่านศิลปะ LGBTQ+ จนเป็นที่รักของคนเอเชียและคนทั้งโลก

ส่วนในชีวิตรักของเธอก็มีความสุขไม่แพ้กัน เพราะหลังจากเจอกับแฟนหนุ่มเมื่อ 3 ปีก่อน ผ่านแอปพลิเคชัน Tinder วันเวลานับจากนั้นก็กลายเป็นของขวัญสุดพิเศษที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกเลย “คืนแรกที่เราเจอกัน ฉันจำได้ว่าเราคุยกันจนพระอาทิตย์ขึ้น ฉันคิดในใจ นี่แหละคือบ้าน และฉันเจอคนของฉันแล้ว

“ฉันรู้สึกว่าเขามีพลังบางอย่างที่ทำให้ฉันสบายใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันมักจะทำให้คนอื่นรู้สึก แต่เขาทำให้ฉันรู้สึกแบบนั้นกลับมา เราค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่แค่ในฐานะคู่รัก แต่เป็นคนสองคนที่เติบโตเคียงข้างกัน และที่สำคัญตายายก็รักสตีเฟน”

 

เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง

ภาพ : PlastiqueTiara /TikTok

 

อ้างอิง

Plastique Tiara spills 'All Stars' secrets, talks bestie Naomi Smalls and her obsession with Minh Tuyết

How Drag Helped Plastique Tiara Reconnect With Her Vietnamese Family

Our Love Story | Plastique’s Engaged, Vietnam Trip, Pitstop & The Proposal 🤍