‘เฌอเอม’ กับเรื่องราวบนเวทีประกวดนางงาม จากมิสยูนิเวิร์สถึงมิสแกรนด์

‘เฌอเอม’ กับเรื่องราวบนเวทีประกวดนางงาม จากมิสยูนิเวิร์สถึงมิสแกรนด์

ชื่อของ ‘เฌอเอม’ ชญาธนุส ศรทัตต์ กลายเป็นกระแสอีกครั้ง จากดราม่าครั้งล่าสุดระหว่างการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ซึ่งเจ้าตัวหมายมั่นปั้นมือจะคว้ามงกุฎมาครองให้ได้ หลังจากเคยพลาดหวังมาแล้วจากการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

  • #เฌอเอม กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย จากกรณีที่เจ้าตัวไม่ยอมดูดวงโดยให้เหตุผลว่า “ไม่สะดวกใจ เพราะนับถือศาสนาคริสต์” จน ‘บอส’ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ต้องสอนยาว
  • ก่อนจะเป็นตัวเต็งในการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เฌอเอมเคยเป็นตัวเต็งในการประกวดมิสยูนิเวิร์สมาแล้ว จากการตอบคำถามทางการเมืองที่ชาญฉลาด

#เฌอเอม กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย จากดราม่าระหว่าง ‘บอส’ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล และ ‘เฌอเอม’ ชญาธนุส ศรทัตต์ มิสแกรนด์ลำพูน ที่ไม่ยอมดูดวงกับ ‘หมอแพม’ โดยตัวแทนสาวงามจากจังหวัดลำพูนให้เหตุผลว่า “ไม่สะดวกใจ เพราะนับถือศาสนาคริสต์” 

งานนี้ทำให้ ‘บอสณวัฒน์’ ต้องพูดสอนเรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคม และติงว่ากรอบความคิดของเฌอเอมอาจเป็นอุปสรรคในการรับงานของเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเชื่อเยอะมาก

“พี่ให้ข้อคิดเอากลับไปคิดว่า ศาสนาจะทำให้เราเจริญหรือถอยหลัง มันไม่ใช่ มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้ายังติดกับดักตัวเองแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะว่าทุกคนยินดีที่จะต้อนรับ ถ้าหนูไม่ต้อนรับเขาก็ไม่มีประโยชน์ นี่คือคำสอน เป็นความรู้สึกของผู้ใหญ่คนหนึ่ง” 

หลังจากนั้นเฌอเอมก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ขอโอกาสพูดสักครั้ง เพราะว่าจะไม่มีโอกาสพูดแล้ว” แต่บอสณวัฒน์บอกว่า “นี่เป็นกติกา จะไม่มีสิทธิ์เหนือคนอื่น ถ้าหากวันนี้คุณขึ้นประกวดแล้วบอกว่าไม่อยากเดินบนเวที แล้วให้คนอื่นมาขึ้นแทน แบบนี้ไม่ได้”

แล้วเฌอเอมก็ตัดสินใจบอกไปว่า “หนูขออนุญาตคืนไมค์” ก่อนจะเดินออกไป ทำให้ทางกองประกวดต้องจับสลากให้มิสแกรนด์คนอื่นขึ้นมาจับสลากดูดวงต่อ 

เหตุการณ์นี้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเฌอเอม ส่วนที่เข้าใจเฌอเอมมองว่าความเชื่อทางศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน บอสณวัฒน์ควรเคารพสิทธิส่วนบุคคล ส่วนที่เข้าใจบอสณวัฒน์มองว่าเฌอเอมควรทำตามกติกาของกองประกวด

เรื่องราวดูจะไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อบอสณวัฒน์โพสต์คลิปถามหมอแพมลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งหมอแพมพูดว่า ก่อนหน้านี้เฌอเอมเคยดูดวงกับตนมาแล้ว เมื่อปี 2020 ดูไพ่สำรับนี้เลย จำได้ว่าดูที่เนชั่น 

“วันนี้ที่ไม่ดูก็ไม่เข้าใจ อาจไม่อยากให้ใครรู้หรือเปล่า อยากให้รู้แค่เรา” 

หลังจากนั้นบอสก็โพสต์รัว ๆ มีทั้งที่บอกว่า “คำพูดวันแรก ๆ ที่เก็บตัวเต็มก้อง 2 หู บอสจะให้ทำอะไร จะให้ปรับอะไร จะทำให้หมด” รวมถึง “ที่นี่เป็นที่หาคนเพื่อมาทำงานให้องค์กรในทุกรูปแบบ ไม่ใช่ที่ระบายความแค้นของใคร” 

บอสยังไลฟ์สดถึงดราม่าที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ย้ำว่าต้องการคนทำงานที่มีเงื่อนไขน้อย ทั้งยังพูดด้วยว่า “กรุณาให้เกียรติผมและองค์กรด้วย” 

ฝั่งเฌอเอมเองก็ชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ยาวเหยียด ยืนยันว่าเป็นคริสต์ที่ไม่ดูดวง ขอยอมรับทุกการตัดสินใจขององค์กร พร้อมยอมรับว่าเคยดูดวงกับหมอแพมจริง ๆ แต่ไม่ได้เป็นไปด้วยความสมัครใจ หลังจากนั้นก็รู้สึกไม่ดีกับการตัดสินใจของตัวเอง จึงไม่ได้แตะไพ่ทาโรต์อีกเลย 

นอกจากนี้เธอยังโพสต์ทางไอจีเพื่อขอโทษบอสณวัฒน์และหมอแพม รวมถึงแฟนคลับทุกคนที่ไม่ควบคุมอารมณ์และสีหน้า 

“เอมไม่ขอแก้ตัวใด ๆ แต่เอมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก สิ่งที่บอสสอนเอมเมื่อวานเอมจะนำไปปรับปรุงตัวเองเพื่อทำให้เอมสามารถทำงานร่วมกับองค์กรมิสแกรนด์และผู้อื่นได้ค่ะ”

ย้อนรอยเฌอเอมบนเวทีมิสยูนิเวอร์ส

ก่อนที่ 'เฌอเอม ชญาธนุส สรทัตต์' จะคว้าตำแหน่งมิสแกรนด์ลำพูน และเพิ่งจะคว้าตำแหน่ง “ขวัญใจเชียงใหม่” ไปเมื่อคืนวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เธอโด่งดังเป็นพลุแตกจากทักษะการตอบคำถามบนเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 

ในรอบออดิชั่นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เธอตอบเรื่องที่พูดไม่ชัดว่า "เอมเป็นคนเดียวที่พูดไม่ชัด เพราะเอมมีรูปปากที่ผิดปกติมาตั้งแต่เกิด แต่เอมเชื่อว่าแม้เราจะเกิดมาด้วยข้อจำกัด แต่มันไม่ใช่ข้อจำกัดในความสามารถของเราค่ะ"

วันเดียวกันนั้น เฌอเอมยังแสดงความเห็นทางการเมืองเรียกเสียงฮือฮา เมื่อเจ้าตัวถูกถามว่า จะลงคะแนนเสียงให้แก่นักการเมืองผู้ชายที่นอกใจภรรยาตัวเองหรือไม่

"ความซื่อสัตย์ในพื้นฐานชีวิตคู่มันคือพื้นที่ของทุกอย่าง ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์กับเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะกับคนที่สำคัญกับเรามากที่สุดในชีวิต มันยากที่เราจะซื่อสัตย์กับคนที่เราจำเป็นต้องรับใช้ และหัวใจของนักการเมืองคือการรับใช้ประชาชน นั่นคือเกียรติภูมิของความเป็นนักการเมือง"

การตอบคำถามอย่างชาญฉลาดในประเด็นการเมือง ที่ไม่ค่อยปรากฏบนเวทีประกวดนางงามในประเทศไทย ทำให้สื่อหลายสำนักกระตือรือร้นที่จะนำเสนอเรื่องราวของเธอ

ไม่ว่าจะเป็นปมเรื่องการพูดไม่ชัด อาชีพนางแบบ มุมมองและทัศนคติที่มีต่อการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ฯลฯ การค้าประเวณี ความรุนแรงของการเหยียดในเชิงคำพูด นิยามของความงามที่แตกต่างหลากหลาย เสรีภาพทางการแสดงออกผ่านเสื้อผ้า การเคารพต่อนิยามความรักบนพื้นฐานความแตกต่างทางศาสนาและวัฒนธรรม ฯลฯ 

กระทั่งเฌอเอมกลายเป็นผู้เข้าประกวดที่น่าจับตามองและเป็นตัวเต็งของการประกวดครั้งนั้น รวมถึงเธอได้เปลี่ยนมุมมองของคนในสังคมที่มีต่อการประกวดนางงามจนทำให้มีหลายคนออกมายอมรับว่าเริ่มดูการประกวดนางงามเพราะเฌอเอม

ความก้าวหน้าทางความคิดไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผู้คนให้ความสนใจในตัวเฌอเอม แต่ยังมีเรื่องการแสดงออกทางกายภาพที่ดูผิดแผกแตกต่างจากความเป็นนางงามตามขนบ เฌอเอมไม่ได้ดูเรียบร้อยอ่อนหวาน เสื้อผ้าหน้าผมไม่ได้เป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว การจัดระเบียบร่างกายที่ดูไม่ใช่นางงามมืออาชีพ และทักษะการเดินหรือการหมุนตัวไม่ได้คล่องแคล่วกระฉับกระเฉง (แม้จะมีอาชีพเป็นนางแบบ)

การแสดงออกของเฌอเอมเป็นไปอย่างขาด ๆ เกิน ๆ แต่นั่นคือความตั้งใจของเธอที่ต้องการจะสื่อสารออกไป ซึ่งสอดคล้องกับนิยามความสวยแบบใหม่ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบแบบที่เวทีมิสยูนิเวิร์สนำเสนอในช่วงหลังมานี้

"นางงามไม่ควรจะเหมือนกันหมด ผู้หญิงทุกคนไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเรามีตัวตนที่แตกต่าง ความสามารถที่แตกต่าง เราควรจะโชว์สิ่งนั้น แต่ทำให้คนดูสบายตาค่ะ"

ภาพของความพยายามปฏิวัติหรือนำเสนอนิยามความงามแบบใหม่ที่สอดคล้องกับค่านิยมสากลไม่เคยชัดเจนขนาดนี้มาก่อนในบ้านเรา เฌอเอมจึงไม่ใช่แค่เพียงผู้เข้าประกวด แต่ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ ที่มากกว่าบนเวทีนางงาม

ประกอบกับหลังจากที่บริษัท WME-IMG เข้ามาถือครองลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สในปี 2015 รูปแบบการประกวดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สัดส่วนของการเดินแบบทั้งในรอบชุดว่ายน้ำและชุดราตรีถูกลดน้อยลงเพื่อลดภาพลักษณ์ความสวยงามในอุดมคติที่สื่อผ่านเรือนร่าง

มีการเพิ่มรอบการพูดแนะนำตัวเองของผู้เข้ารอบ 20 คนเพื่อแสดงพลังของผู้หญิงเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจ และเพิ่มระดับความเข้มข้นของคำถามในรอบตอบคำถามโดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเมืองทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อแสดงภาพลักษณ์ของผู้หญิงทันสมัยที่ใส่ใจสิ่งรอบตัว

ความเป็นเฌอเอมจึงทำให้ใครหลายคนเชื่อมั่นว่าเธออาจจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่มงกุฎที่ 3 บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส

แต่แล้วกระแสชื่นชมและแรงเชียร์กลับแปรเปลี่ยนเป็นข้อสงสัยถึงความโปร่งใสในการเข้าร่วมประกวดของเธอ เมื่อกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ประกาศขอให้เฌอเอมถอนตัว เนื่องจากพี่เลี้ยงของเธอคือคนที่ทำงานเป็น 'วงใน' ของกองประกวดซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎเกณฑ์

เป็นเหตุให้เฌอเอมถูกตั้งข้อครหามากมายถึงความเก่งกาจและสติปัญญาของเธอที่อาจเกิดจากความได้เปรียบเรื่องพี่เลี้ยง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอุปนิสัย ความจริงใจ และพื้นฐานความซื่อสัตย์ นำมาสู่การขุดเอาคำพูดต่าง ๆ ที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ตามสื่อต่าง ๆ มาล้อเลียนและเสียดสี

เธอได้พยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามทัศนะของเธอและบ่ายเบี่ยงเรื่องการถอนตัวโดยยื่นสิทธิ์นั้นให้แก่กองประกวด แต่หลังจากที่มีหลักฐานอื่น ๆ (ที่ยังไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง) ได้รับการเผยแพร่ตามมา ในที่สุดกองประกวดก็ตัดสินใจถอนสิทธิ์การเข้าประกวดของเฌอเอมไปในวันที่ 30 กันยายน 2563

แน่นอนว่าสำหรับ ‘ด้อมลุงช่ำ’ ซึ่งเป็นแฟนคลับของเฌอเอม หรือแม้แต่ตัวเธอเอง ย่อมไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขณะที่แฟนนางงามทั้งประเทศกำลังจับตาว่าเฌอเอมจะไปได้ไกลอย่างที่เธอฝันบนเวทีนางงามแห่งประชาธิปไตยหรือไม่ 

 

อ้างอิง:

ปรากฏการณ์ 'เฌอเอม' กับเรื่องราวที่ดีที่ไม่อาจเกิดขึ้นจากความจริงประโยคเดียว. The People 

สรุปดราม่า 'เฌอเอม' ไม่ยอมดูดวง เพราะนับถือคริสต์ ด้าน 'ณวัฒน์' เดือด ซัดแหลก. คมชัดลึก 

ภาพ: Instagram cheraims