เจสส์ ชเวเดอร์ ผู้เริ่มต้น Samsonite จากร้านขายของสู่แบรนด์กระเป๋าเดินทางชั้นนำอายุ 112 ปี

เจสส์ ชเวเดอร์ ผู้เริ่มต้น Samsonite จากร้านขายของสู่แบรนด์กระเป๋าเดินทางชั้นนำอายุ 112 ปี

จากเจ้าของร้านขายของเล็กๆ อะไรที่ทำให้ ‘เจสส์ ชเวเดอร์’ สร้างแบรนด์ Samsonite ให้กลายเป็นกระเป๋าเดินทางชั้นนำของโลกที่มีประวัติยาวนานถึง 112 ปี

  • Samsonite เป็นแบรนด์กระเป๋าเดินทางที่ ‘เจสส์ ชเวเดอร์’ (Jesse Shwayder) เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาในปีค.ศ.1910

  • ชื่อแบรนด์เป็นการแปลงมาจาก ‘Samson’ จอมพลังในคัมภีร์ไบเบิ้ล

  • ปัจจุบัน Samsonite มีอายุ 112 ปี จดทะเบียนใตลาดทรัพย์ฮ่องกง และเป็นเจ้าของ American Tourister, Tumi, Gregory, High Sierra, Kamiliant, Lipault ฯลฯ

ช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ที่จะได้หยุดยาวแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับบ้านตามถิ่นฐานของตัวเองไว้อย่างแน่นอน และเมื่อนึกถึงการเดินทางแล้ว สิ่งที่ตามมาก็หนีไม่พ้นกระเป๋าเดินทาง

ซึ่ง Samsonite ถือเป็นหนึ่งแบรนด์กระเป๋าเดินทางที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง โดยเป็นแบรนด์ที่มี ‘เจสส์ ชเวเดอร์’ (Jesse Shwayder) เป็นผู้เริ่มต้นความสำเร็จ และมีประวัติยาวนานถึง 112 ปี 

เจสส์ ชเวเดอร์ เกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 1882 ณ เมืองแบล็กฮอว์ก มลรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ต่อมาครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอยู่เมืองเดนเวอร์แล้วได้เปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ ที่เมืองแห่งนี้

เขาทำงานที่ร้านของครอบครัว กระทั่งอายุ 28 ปี เขาได้ใช้เงินเก็บ 3,500 ดอลลาร์เปิดร้านของตัวเอง ด้วยการขายกระเป๋าเดินทางให้กับผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Seward Trunk and Bag Company

กระทั่งปี ค.ศ. 1903 เจสส์ ชเวเดอร์ตัดสินใจตั้งบริษัทผลิตกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาที่ห้องหลังร้านนี้ ใช้ชื่อว่า Shwayder Trunk Manufacturing และชักชวนพี่น้องอีก 4 คนให้เข้ามาช่วยกันเดินหน้าธุรกิจ

ช่วงเริ่มต้นบริษัทเขาผลิตเป็นหีบใส่ของ (trunk) สำหรับเดินทาง จุดขายคือเน้นความแข็งแรงและทนทาน โดยเขาและพี่น้องอีก 4 คนขึ้นไปยืนอยู่บนไม้กระดานที่รองด้วยหีบใส่ของที่เขาผลิตเพียงใบเดียว

แน่นอนด้วยการทดสอบให้เห็นความทนทานกันแบบนี้ ทำให้คนให้ความสนใจเข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก จนสามารถขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น และก้าวสู่บริษัทผู้ผลิตกระเป๋าเดินทางในรูปแบบต่าง ๆ

ในปี ค.ศ. 1910 เขาได้ตั้งแบรนด์ Samsonite ขึ้นมา โดยชื่อนี้เป็นการแปลงมาจาก ‘Samson’ จอมพลังในคัมภีร์ไบเบิล ผู้ที่ได้รับพลังอันแข็งแกร่งเหนือมนุษย์จากพระเจ้า เพราะกระเป๋าของ เจสส์ ชเวเดอร์ ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแกร่งและทนทานไม่ต่างจาก Samson นั่นเอง

แต่ความสำเร็จของ Samsonite ไม่เพียงอยู่ที่ความทนทานเท่านั้น แต่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งดีไซน์ และการนำเทคโนโลยีกับนวัตกรรมเข้ามาสร้างสรรค์ เพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น

ปี ค.ศ. 1941 ได้เปิดตัวรุ่น Streamlite ไลน์กระเป๋าเดินทางที่ผลิตโดยหุ้มโครงไม้ด้วยไฟเบอร์วัลคาไนซ์ เพิ่มความทนทาน ปี ค.ศ. 1956 เปลี่ยนโครงสร้างกล่องไม้มาใช้วัสดุแมกนีเซียมและ ABS ที่มีน้ำหนักเบากว่าเดิม, เปิดตัวรุ่น Silhouette กระเป๋าเดินทางที่มีล้อใบแรก เพื่อความสะดวกสบายสำหรับนักเดินทาง ฯลฯ

เจสส์ ชเวเดอร์ ได้วางมือจากตำแหน่งผู้บริหาร Samsonite ในปี ค.ศ. 1961 (เขาเสียชีวิตเมื่อ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1970 ในวัย 88 ปี) และขายกิจการต่อให้กับ CVC Capital Partners Ltd. ก่อนจะถูกเปลี่ยนมืออีกหลายครั้ง

โดยตอนนี้ Samsonite ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศฮ่องกง ภายใต้ชื่อ บริษัท แซมโซไนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เอส.เอ. (Samsonite International S.A.) ตั้งแต่มิถุนายน ปี ค.ศ. 2011 โดยมีแบรนด์ในมือ เช่น American Tourister อดีตคู่แข่งที่ Samsonite เข้าซื้อกิจการเมื่อ ค.ศ. 1993

รวมถึงยังได้ซื้อกิจการกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเอกสาร และกระเป๋าเป้อีกหลายแห่ง เพื่อขยายฐานตลาดและกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น Tumi, Gregory, High Sierra, Kamiliant, Lipault, Hartmann เป็นต้น

ที่ผ่านมาบริษัท Samsonite ถือว่ามีการเติบโตที่ดี โดยปี 2016 ทำรายได้ไป 90,950 ล้านบาท เติบโต 16% ปี 2017 มีรายได้ 112,964 ล้านบาท เติบโต 24% ปี 2018 มีรายได้ 122,870 ล้านบาท เติบโต 8%  

ทว่าช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ก็ได้รับผลกระทบจากพิษของโควิด-19 ไม่ต่างจากบริษัทอื่น และอาจจะแย่กว่า เพราะคนแทบจะไม่เดินทาง ทำให้ยอดซื้อกระเป๋าเดินทางลดลงไปจนรายได้และกำไรของ Samsonite ลดลงเป็นอย่างมาก

แต่มาถึงตอนนี้เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ผู้คนเริ่มเดินทาง ก็เชื่อว่าเส้นทางของ Samsonite น่าจะกลับมาสดใสอีกครั้ง

.

ภาพ : Samsonite, Getty Images

.

อ้างอิง

samsonite

corporate.samsonite

nytimes

finance.yahoo