ชิน คย็อก-โฮ:คนที่มองข้ามความขัดแย้งของสองชาติ เจ้าของอาณาจักร LOTTE

ชิน คย็อก-โฮ:คนที่มองข้ามความขัดแย้งของสองชาติ เจ้าของอาณาจักร LOTTE

ทุกวันนี้น้อยคนจะไม่รู้จัก LOTTE Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท (Conglomerate) ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของเกาหลีใต้ และทำธุรกิจเยอะเหลือเกินชนิดที่เรียกว่า ‘สากกะเบือยันเรือรบ’

แต่ความยิ่งใหญ่ขององค์กรนี้ที่เราเห็นในปัจจุบัน กลับมีจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายถ่อมตน โดยชายที่ชื่อว่า ‘ชิน คย็อก-โฮ’ (Shin Kyuk-Ho) นี่คือนักธุรกิจรุ่นบุกเบิกชาวเกาหลีใต้ที่สร้างความสำเร็จขึ้นด้วยตัวเอง และสถานที่แรกที่แจ้งเกิดความสำเร็จกลับไม่ใช่เกาหลีใต้ แต่เป็นที่…ญี่ปุ่น

เด็กน้อยชิน คย็อก-โฮที่ไม่เคยได้แสดงศักยภาพ

ชิน คย็อก-โฮ เกิดที่เมืองอุลซัน (Ulsan) ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 1921 เป็นลูกคนโตสุดของพี่น้องนับสิบชีวิตในตระกูลคนธรรมดาที่ไม่ได้ร่ำรวยแต่อย่างใด ในแต่ละวัน เขาต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรเพื่อไปโรงเรียน แต่เขาก็ฉายแววเป็นคนหัวดีและ ‘กล้าเสี่ยง’ ในการทำสิ่งใหม่ ๆ มาตั้งแต่เด็ก 

อย่างไรก็ตาม เมืองที่เขาอาศัยอยู่มีสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม ไม่มีสถาบันการศึกษาที่มีมาตรฐาน และไม่มีโอกาสทางธุรกิจหรือแหล่งงานเมื่อเรียนจบ ทำให้เมื่อเขาย่างก้าวสู่วัย 20 ปี ได้ตัดสินใจลงเรือเที่ยวเดียวเพื่อมุ่งหน้าไป…ญี่ปุ่น โดยมีความฝันคือการเป็น ‘นักเขียน’

ดินแดนแห่งโอกาสที่ญี่ปุ่น

ด้วยพื้นฐานเป็นคนหัวดี ทำให้เขามีโอกาสได้เข้าเรียนภาควิชากลางคืนด้านวิศวกรรมเคมีที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ (Waseda University) แต่ชีวิตก็ไม่ง่ายนัก เขาต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยโดยการขี่จักรยาน ‘ส่งนมและหนังสือพิมพ์’ 

ในยุคนั้น ญี่ปุ่นยังยึดครองเกาหลีอยู่ ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่า ชิน คย็อก-โฮ ถูกเหยียดเชื้อชาติและถูกปฏิบัติเสมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง ไม่ว่าจะทางคำพูดหรือแววตา อย่างไรก็ตาม เขาเลือกแล้วที่จะจากบ้านเกิดมา การเดินถอยหลังจึงไม่อยู่ในทางเลือก เขากลับทำงานหนักขึ้นเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้คนท้องถิ่น ‘ยอมรับ’ ในตัวเขาให้ได้ ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก ชิน คย็อก-โฮ จะส่งมอบสิ่งของได้ ‘ตรงเวลา’ เสมอ ซึ่งเรารู้ดีว่าความตรงต่อเวลาเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่คนญี่ปุ่นซีเรียสเอามาก ๆ

นอกจากนี้ ชิน คย็อก-โฮ ถึงกับ ‘ตั้งชื่อญี่ปุ่น’ ให้ตัวเอง โดยชื่อว่า ‘ทาเคโอะ ชิเกมิซึ’ (Takeo Shigemitsu) เพื่อให้คนญี่ปุ่นเรียกแล้วรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน บ่งบอกว่าเขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อมุ่งหน้าไปต่อ

และแล้ววันหนึ่ง ความเพียรพยายามของเขาก็เริ่มออกดอกออกผล

 

#สัมผัสแรกของการเป็นผู้ประกอบการ

.

ในที่สุด ความอุตสาหะและเที่ยงตรงในการทำงานของชิน คย็อก-โฮ ก็ได้รับการมองเห็นจากเจ้าของโรงรับจำนำแห่งหนึ่งในละแวกที่เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ผ่านไปมาแทบทุกวัน เจ้าของคนนี้ได้แนะนำให้ชิน คย็อก-โฮ ลองเริ่มต้น ‘ทำธุรกิจ’ ของตัวเอง โดยยินดีให้ยืมเงิน 60,000 เยน เขานำเงินก้อนตรงนี้ไปก่อตั้งบริษัทผลิต ‘หม้อหุงข้าว’

.

เราไม่อาจรู้ได้ว่าธุรกิจแรกของเขาจะสำเร็จหรือไม่ เพราะเมื่อธุรกิจเริ่มทำไปได้ไม่นาน สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ปะทุขึ้น รู้ตัวอีกทีเครื่องบินทิ้งระเบิดก็บินอยู่เหนือกรุงโตเกียวพร้อมลูกระเบิดที่ปล่อยถล่มลงมา หลายพื้นที่ของเมืองพังพินาศ ซึ่งนั่นรวมถึงโรงงานของชิน คย็อก-โฮ ด้วยที่ถูกระเบิดทำลายล้างจนราบเป็นหน้ากลองในปี 1944

.

#ชินที่แปลว่าใหม่ในภาษาญี่ปุ่น 

.

ดังที่กล่าวไป เขาซื้อตั๋วเที่ยวเดียวมา การยอมแพ้จึงไม่อยู่ในตัวเลือก ชิน คย็อก-โฮ พยายามเก็บหอมรอมริบและหาแหล่งเงินกู้ใหม่จนมาเริ่มต้นอีกครั้งในปี 1946 ด้วยธุรกิจด้านความงาม โดยมีผลิตภัณฑ์หลักอย่างเช่น สบู่และครีมทาหน้า

.

ไทม์ไลน์ในยุคนั้น บริษัทชิเซโด้ที่ทำเครื่องสำอางได้เริ่มส่งสัญญาณแห่งความสำเร็จของธุรกิจนี้แล้วเช่นกัน ซึ่งชิน คย็อก-โฮ ก็มองขาดไม่ผิด เพราะธุรกิจใหม่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่ใช่แค่จ่ายหนี้ที่มีอยู่เท่านั้น แต่เขาสามารถ ‘สร้างเนื้อสร้างตัว’ กลายเป็นคนมีเงินได้เลยทีเดียว

.

หลังจากนั้น เขานำเงินทุนตรงนี้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า ‘LOTTE’ ขึ้นมาในปี 1948 ซึ่งมีผลิตภัณฑ์แรก ๆ อย่าง ‘หมากฝรั่ง’ และบรรดาขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ เมื่อเส้นทางชีวิตมาถึงจุดนี้ ความฝันเดิมของเขาในการเป็นนักเขียนคงไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้แล้ว แต่เขาก็ได้นำแรงบันดาลใจมาใส่อยู่ในชื่อบริษัท โดยชื่อ LOTTE มาจาก ‘Charlotte’ ชื่อตัวละครในหนังสือโปรดของเขา ‘The Sorrows of Young Werther’ นั่นเอง

.

LOTTE ประสบความสำเร็จอย่างมาก เรียกว่ามากกว่าธุรกิจก่อนหน้าซะอีก โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็น ‘เด็ก’ ที่ต่อแถวรอซื้อหมากฝรั่งและขนมหวาน ความสำเร็จมากพอที่เขาสามารถนำ LOTTE ขยายสู่ธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่น จนขึ้นแท่นเศรษฐีแถวหน้าในประเทศญี่ปุ่น ถือว่ามีชาวเกาหลีเพียงไม่กี่คนที่ขึ้นมาสู่ระดับนี้ได้

.

แต่ใครจะไปคิดว่าตั๋วเที่ยวเดียวที่เขาซื้อมาเพื่ออยู่ยาวในญี่ปุ่น วันหนึ่ง…จะต้องซื้อตั๋วเพื่อกลับไปบ้านเกิด

.

#กลับมาแจ้งเกิดที่บ้านเกิด

.

ปี 1965 รัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีการเซ็นสนธิสัญญาพื้นฐานว่าด้วยการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลี (Treaty on Basic Relations between Japan and Republic of Korea) ซึ่งเป็นสัญญาณบวกในภาคธุรกิจ

.

โดยเฉพาะเกาหลีเองก็พยายามเฟ้นหานักธุรกิจของตนที่ไปสำเร็จยังต่างแดน ก่อนจะโน้มน้าวเพื่อ ‘ดึงตัว’ กลับมาพัฒนาประเทศ เพราะต้องการองค์ความรู้และทักษะการบริหารจัดการธุรกิจ และแล้วเกาหลีใต้ก็ไม่ผิดหวัง เพราะในปี 1967 ชิน คย็อก-โฮ เป็นนักธุรกิจรายแรก ๆ ที่รีบกระโดดคว้าโอกาสนี้และเข้ามาลงทุนในเกาหลีใต้ โดยมี LOTTE เป็นเรือธง

.

เขาได้หอบหิ้วทักษะและองค์ความรู้ที่ได้รับจากญี่ปุ่นกลับมาเต็ม ๆ เช่น การบริหารจัดการองค์กรแบบญี่ปุ่นที่เน้นความมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการมีหนี้เกินตัว การทำธุรกิจแบบมุ่งหวังกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาว ไม่ใช่โฟกัสแต่ให้ผลตอบแทนนักลงทุนในระยะสั้น การสร้างความไว้วางใจ กับซัพพลายเออร์และลูกค้าทุกระดับ หรือแม้แต่มารยาทการแต่งกายเมื่อเจรจาธุรกิจ

.

นัยหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่า ชิน คย็อก-โฮ ไม่ได้รีบกระโดดกลับมาลงทุนที่บ้านเกิดเพราะเหตุผลด้านธุรกิจเท่านั้น เป็นเพียงเหตุผลด้าน ‘ความรักในบ้านเกิด’ ด้วยเช่นกัน เพราะยุคนั้นเกาหลีใต้ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาซึ่งแทบไม่มีอุตสาหกรรมก้าวหน้าอะไรเลย

.

#อานิสงส์จากการเป็นผู้ถูกเลือก

.

อีกตัวแปรสำคัญที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจของ LOTTE ในเกาหลีใต้ช่วงยุคบุกเบิกคือการเป็น ‘ผู้ถูกเลือก’ จากรัฐบาล

.

กล่าวคือ เกาหลีใต้ตอนนั้นยังไม่ใช่ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรีเต็มตัว แต่รัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงกิจการ โดยเลือกธุรกิจบางประเภทที่มี ‘ศักยภาพในการเป็นหัวหอก’ (Picking the Winners) ก่อนให้การสนับสนุนด้านทรัพยากรเป็นพิเศษ จนในเวลาต่อมา บริษัทเหล่านี้ที่ได้รับสนับสนุนก็เติบใหญ่จนเกิดเป็นกลุ่มธุรกิจ ‘แชโบล’ อันทรงอิทธิพลในเวลาต่อมา ซึ่ง LOTTE ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลี

.

#สร้างอาณาจักรที่บ้านเกิด

เมื่อชิน คย็อก-โฮ นำธุรกิจลงหลักปักฐานที่บ้านเกิด ก็ได้มีการแผ่ขยายกิจการออกไปที่หลากหลายและซับซ้อนมาก ๆ เริ่มจากด้าน ‘อาหาร’ ที่ขยายสู่สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน และต้องการทำให้ครบลูปห่วงโซ่อุปทานทั้งเปิด ‘ซูเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์การค้า’ หรือการกระโดดเข้าสู่อุตสาหกรรม ‘ปิโตรเคมี’ ตามนโยบายภาครัฐที่ต้องการสร้างให้เกาหลีใต้เป็นชาติอุตสาหกรรมก้าวหน้า หรือการเข้าสู่ธุรกิจการเงินและการก่อสร้าง ไปจนถึงการขยายสู่ธุรกิจ‘อสังหาริมทรัพย์และโรงแรม’ ตามทิศทางประเทศที่เปิดรับการท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ ก็เปิดตัว ‘ดิวตี้ฟรี’ ร้านค้าปลอดภาษีเพื่อดึงเงินจากนักท่องเที่ยว

หลายทศวรรษผ่านไป LOTTE ได้ขยายกิจการออกไปหลากหลายธุรกิจมาก ๆ จนกลายเป็น LOTTE Group และขึ้นแท่นเป็นกลุ่มแชโบล (กลุ่มธุรกิจที่ทรงอิทธิพล) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเกาหลีใต้ และมีสินค้าบริการแบบ ‘สากกะเบือยันเรือรบ’ ครอบคลุมหลายเรื่องในชีวิตของเรา

และธุรกิจในเครือ LOTTE Group ที่เกาหลีใต้ในปัจจุบัน มีสัดส่วนที่ใหญ่แซงหน้าญี่ปุ่นไปมากแล้ว และทำให้ ชิน คย็อก-โฮ ก่อนจากไปในปี 2020 ร่ำรวยมีทรัพย์สินกว่า 280,000 ล้านบาท

และนี่ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อยของ ชิน คย็อก-โฮ ชายผู้มองข้ามความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ที่หยั่งรากลึกของสองชาติ และตัดสินใจมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น โดยมีความฝันคือการเป็น ‘นักเขียน’ แต่สุดท้ายได้สร้างอาณาจักร LOTTE ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน

.

อ้างอิง:

#ThePeople #Business #ชิน_คย็อก_โฮ #Shin_Kyuk_Ho #LOTTE