read
social
16 มิ.ย. 2565 | 16:00 น.
The 7th Thailand 420: “Legalaew!?” : ชวนคุยเรื่อง ‘เสรี’ ในงาน ‘กัญชา’
Play
Loading...
“ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ”
ถ้อยคำดังกล่าวถูกใช้บ่อยครั้งเพื่อย้ำเตือนใครก็ตามที่กำลังท้ออยู่ให้ลุกขึ้นสู้ เพราะหากผ่านอุปสรรคที่ตั้งขวางอยู่ภายหน้าไปได้ เราก็จะพบเจอกับสิ่งที่เรามุ่งหวังเอง
ไม่เพียงแค่ถ้อยคำดังกล่าวเป็นตัวแทนความรู้สึกของสิ่งที่พี่น้องสายเขียวหลายคนรู้สึกหลังจากที่ต่อสู้ขับเคลื่อนเรื่อง ‘เสรีกัญชา’ มานาน จนเดินทางถึงเป้าหมายในวันที่ดอกของกัญชาได้ถูกปลดล็อกจากยาเสพติด และสามารถปลูกได้อย่างเสรีเป็นที่เรียบร้อย แต่ถ้อยคำนั้นยังเกิดขึ้นจริงในวันแรกของงาน
The 7th Thailand 420: “Legalaew!?”
ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 - 12 มิถุนายน พ.ศ. 2565
เหตุเพราะก่อนจะเริ่มงาน เมฆสีเทาก็เริ่มปกคลุมบริเวณหาดทรายขาวจังหวัดนครปฐมซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ยังไม่ทันที่งานจะเริ่มอย่างจริงจัง ฝนปริมาณมากที่มาพร้อมกับลมที่วิ่งผ่านต้นสนที่เห็นอยู่ลิบ ๆ จนปลิวไสวก็กระหน่ำลงมา จนผู้เข้ามาร่วมงานหลายคนที่กำลังซื้อตั๋ว กำลังเข้างาน หรือเพิ่งจะลงจากรถต้องรีบรุดหน้าไปหาบริเวณร่ม ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องเปียก
ราวครึ่งชั่วโมงผ่านไป ฝนเหล่านั้นก็เริ่มซาลง ผู้คนที่มาเฝ้ารอเข้าร่วมงานต่างทยอยเดินเข้าไปยังหาดทรายขาว พร้อม ๆ กับแสงแดดยามเย็นของฟ้าหลังฝนที่สาดส่องเข้ามาจนเกิดเป็นภาพที่สวยงามไม่ต่างจากชายหาดยามเย็นในแคลิฟอร์เนีย
หากมองในมุมหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวก็ดูเหมือนอุปสรรคที่ทำให้เสื้อผ้าเปียก รองเท้าเละ หรือว่ายืนรอนาน แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง มันก็เปรียบเสมือนตัวแทนเส้นทางการต่อสู้ของผู้คนที่ฝ่าฟันเพื่อให้ ‘กัญชาเสรี’ แล้วงาน Thailand 420 ครั้งที่ 7 ที่จัดโดย Highland นี้ ก็เปรียบดั่งปาร์ตี้เฉลิมฉลองความสำเร็จที่เกิดขึ้น
ก่อนที่การเฉลิมฉลองครั้งนี้จะเริ่มขึ้น The People จึงเดินเข้าไปชวนคุยเรื่อง ‘
เสรี
’ ในงาน ‘
กัญชา
’
ไมเคิล
“
ใช้มานานเท่าไรแล้วน่ะเหรอ? ตอบยากเหมือนกันนะ
“
56 ปีแล้ว ก็แทบจะทั้งชีวิตแหละนะ
”
ชาวอเมริกันผมสีเทาวัย 72 ปีนามว่า ‘
ไมเคิล
’ กล่าว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงชีวิตของตัวเขาและความสัมพันธ์ที่มีต่อพืชอันเป็นที่รัก เราจึงเอ่ยถามต่อว่าจากประสบการณ์กว่าครึ่งศตวรรษที่เขามีให้กับกัญชา เขาได้อะไรจากมันไปบ้าง
“บางทีผมก็คิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนะ
“แต่คุณรู้ไหม ผมไม่เคยปล่อยให้มัน (กัญชา) มามีอิทธิพลเหนือชีวิตผมเลยนะ คือถ้าคุณไม่ระวัง มันจะควบคุมคุณไง เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องรู้ลิมิตของตัวเอง มันสำคัญมาก ๆ ที่จะมีขอบเขต
“แล้วหลังจากที่คุณสามารถปฏิบัติตามนี้ได้นะ คุณก็สามารถเต้นรำไปพร้อม ๆ กับมันได้อย่างบันเทิงเริงรมย์เลยละ”
แม้จะเป็นผู้ที่ใช้กัญชามาเป็นเวลานาน แต่สิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่ไมเคิลตระหนักเสมอคือการรู้จักขอบเขตในการบริโภคสิ่งนั้น แล้วไม่ให้มันทำลายชีวิตคุณ เพราะฉะนั้นกฎเหล็กสำคัญที่ต้องกำชับและจำให้ขึ้นใจคือเราต้อง ‘
รู้จักใช้
’ ไม่อย่างนั้นข้อเสียอีกมากมายจะกลบทับข้อดีต่าง ๆ จนไม่เหลืออีกเลย
กิ๊บและเจสัน
“ความรู้สึกต่อเสรีกัญชาเหรอ? มีสองคำที่พุ่งเข้ามาในหัวผม ‘
ตื่นเต้น
’ (Excited) และ ‘
หวาดกลัว’
(Terrified)”
กิ๊บและเจสัน คู่สามีภรรยาชาวอเมริกันและไทยผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกัญชาที่สหรัฐอเมริกามามากมายหลายปี โดยทั้งคู่ได้มาจัดเวิร์กชอปในงานนี้ด้วย เจสันได้กล่าวบรรยายความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกฎหมายที่ทำให้กัญชาเสรีออกมาสองคำ เราจึงถามต่อเพื่อให้เจสันได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกเช่นนั้น
“เอาส่วนที่ว่าทำไมผมตื่นเต้นก่อนแล้วกันนะ มันคือการเปิดประตูเข้าสู่ยุคใหม่ มันจะเปิดโอกาสทางธุรกิจให้ผู้คนอีกมากมายสามารถทำมาหากินได้
“ส่วนที่ว่าทำไมถึงหวาดกลัว ผมกลัวว่าความโลภของนายทุนจะเข้ามากลืนกินอุตสาหกรรมนี้ เราหวังว่าอย่างน้อยสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางการแพทย์นี้จะอยู่ข้างประชาชน ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่”
นอกจากนั้นกิ๊บจึงกล่าวเสริมว่าเหตุที่ทั้งคู่ตื่นเต้นก็เป็นเพราะเมื่อดอกของกัญชาปลดล็อกจะทำให้อุตสาหกรรมครึกครื้นไปด้วยการแข่งขัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นหากมองในภาพรวมของอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกัน ดังเช่นเจสันได้กล่าวว่าก็มีความกังวลที่แพ็กติดมาด้วย เพราะทั้งคู่ไม่อยากให้เกิดการผูกขาดขึ้นเหมือนในสหรัฐอเมริกาที่กัญชาตกลงไปอยู่ในมือของนายทุนใหญ่เสียหมด
เพราะหากในอนาคตอุตสาหกรรมกัญชาในไทยพัฒนาไปเป็นเหมือนสหรัฐอเมริกา ธุรกิจของคนตัวเล็ก ๆ ก็จะถูกปลาใหญ่อย่างนายทุนต่าง ๆ กวาดกินเรียบเสียหมด แล้วหากเป็นเช่นนั้น กัญชา ในฐานะสมุนไพรทางการแพทย์อาจตกถึงมือคนที่ต้องการเช่นผู้ป่วยยากกว่าเดิมด้วยราคาที่สูงขึ้น
เพื่อจะให้เห็นภาพของการที่กัญชาสร้างโอกาสให้ชัดขึ้น เจสันก็ได้ยกตัวอย่างจากกรณีของชีวิตคู่ของเขาและภรรยาว่า กัญชาทำให้เขามีโอกาสได้ทำมาหากินเพื่อจุนเจือคนในครอบครัว แถมยังมีโอกาสได้ยื่นมือไปช่วยคนอื่นที่ต้องการอีกด้วย
ในขณะนี้ทั้งคู่มีแพลนจะสานต่อแพสชันของตัวเองให้ไปไกลกว่าเดิมผ่านการเปิดคลินิกกัญชาที่ไม่เพียงใช้กัญชามารักษาทางการแพทย์เพียงเท่านั้น แต่ยังตั้งเป้าว่าอยากมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ
ส้ม 420 Forest Park
โหลใส่ดอกกัญชาตั้งเรียงที่บูธหนึ่งในงาน ข้างหน้ามีแถวผู้คนเรียงยาวเพื่อรอต่อคิวซื้อผลผลิตจาก 420 Forest Park วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชาผู้เคยขาดทุนกับอุตสาหกรรมนี้ เหตุเพราะดอกของกัญชายังผิดกฎหมายอยู่ แต่ในวันนี้มันไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว
เราจึงเดินเข้าไปร่วมต่อคิวเพื่อรอถามความคิดเห็นของ ‘
ส้ม
’ ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชา แถมยังเป็นผู้นำเสนอความรู้ผ่าน YouTube ช่อง ‘
420 Forest Park Channel
’ เพื่อถามถึงความคิดเห็นของเธอต่อประเด็นที่กัญชาเสรีแล้ว
“เมื่อก่อนนี้ดอกมันขายไม่ได้ เกษตรกรขาดทุน แต่ ณ ปัจจุบันกัญชาเราเสรีแล้วเพราะพี่ขายดอกได้
“พี่สามารถทำส่งออกได้ด้วยค่ะ พอมันเปิดกว้างทางธุรกิจแบบนี้ก็ทำให้ราคาของมันสูงขึ้น เกษตรกรก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น”
สายเชีย วงศ์วิโรจน์
“ก็ไม่มีอะไรนะ ผมก็คิดว่ามันดีอยู่แล้ว
“เอาจริง ๆ ผมก็เป็นคนใช้คนหนึ่ง ใช้มาตั้งนานแล้ว มันเป็นสิ่งที่ลดความรุนแรง ทำให้คนคิดดีได้มากกว่านะ ส่วนที่เสียมีน้อยกว่า คือบางทีที่เห็นมีอาการคลั่งหรืออะไรทำนองนี้มันไม่ใช่กัญชาหรอก”
นักแสดงลุคโหดนามว่า
สายเชีย วงศ์วิโรจน์
กล่าวเมื่อเราได้ถามถึงความเห็นที่มีต่อการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด
“พี่คิดว่ามันมีเคมีชนิดอื่นเข้ามาปะปน อาจจะเป็นเรื่องของแอลกอฮอล์ หรือแอมเฟตามีน (สารเสพติดชนิดหนึ่งมีฤทธิ์หลอนประสาท) เข้ามาประสม เพราะถ้าหากเป็นกัญชาอย่างเดียวเนี่ย ไม่มีสารที่ทำอันตรายต่อมนุษย์ เพียงแต่ว่าคนที่ทดลองใช้ในครั้งแรกต้องรู้จักใช้ ไม่ใช่ว่าใช้เกินกว่าปริมาณที่เหมาะสม
“เพราะมันเป็นยา ก็มีปริมาณที่ควรใช้อยู่ ขนาดกินยาปกติเกินขนาดยังมีหน้าบวมเลย อย่างกัญชาเองก็มีเหมือนกันนะ แต่เวลายาออกฤทธิ์ ผลไม่เหมือนกัน ฉะนั้นก่อนจะใช้ก็ควรศึกษาให้ดีก่อน”
ในฐานะที่สายเชียก็เป็นสายเขียวคนหนึ่ง เราจึงถามต่อว่ากัญชาให้อะไรกับชีวิตเขาบ้าง?
“ความจริงมันให้ความอดทนกับเรานะ สามารถทำให้เรารู้จักรอคอยได้ แบบคุณจะใจเย็นได้ เรื่องเลวร้ายมันก็ไม่เกิด มันทำให้เราได้มีเวลาไตร่ตรองก่อนจะทำอะไรขึ้นมา”
ท้ายที่สุดเราจึงถามคำถามสุดท้ายก่อนจะจากกันไป
“ชอบกัญชาพันธุ์ไหนที่สุด?”
“
พี่ชอบ ‘พันลำ’
”
และนั่นคือบทสนทนาบางส่วนที่เราได้มีกับสายเชีย เจ้าของหาดทรายขาวที่ใช้จัดงานในครั้งนี้
Exotic Quixotic
“ตอนนี้เราคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมาก สำหรับคนตัวเล็ก ๆ ที่สนใจในเรื่องของกัญชา ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของธุรกิจ หรือแง่ของการแพทย์เอง แม้กระทั่งการใช้เพื่อความบันเทิง เรารู้สึกว่ามันเป็นโอกาสใหม่ ๆ ที่พวกเขาจะได้ลองอะไรใหม่ ๆ แบบนี้ อย่างในเรื่องของการแพทย์นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญมากเลยนะ เพราะผู้ป่วยบางรายจะได้สามารถเข้าถึงตัวยาได้มากขึ้นด้วย อย่างตอนนี้ก็มี ‘น้ำมันกัญชา เมตตาโอสถ กับ การุณย์โอสถ’ ที่มาช่วยในเรื่องของผู้ป่วยมะเร็ง”
หนึ่งในสมาชิกของ Exotic Quixotic กล่าว เมื่อถามถึงมุมมองแนวคิดที่มีต่อการปลดล็อกกัญชา
เราจึงถามต่อถึงความเห็นว่าชีวิตของผู้คนกับกัญชาสัมพันธ์กันอย่างไร
“สำหรับเราคิดว่า กัญชามันก็เป็นแค่ตัวเลือกในการบริโภครูปแบบหนึ่งของคนทั่วไป มันไม่ใช่ของที่แบบทุกคนจะชอบ หรือทุกคนจะต้องใช้โดยความจำเป็นนะ แต่ในแง่ทางการแพทย์ที่เราบอกไปก่อนหน้านั้นมันจำเป็นอย่างมาก เช่น เราเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา แล้วเราต้องใช้มันก็สามารถเข้าถึงตัวยาได้ง่ายขึ้น อนาคตเราเองก็คิดว่าคนจะได้ใช้ตัวยากัญชาได้มากขึ้น แต่คนไม่ใช้มันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเขาด้วย
“ปกติผมไม่ได้ใช้เลยครับ แต่ก็เห็นคนที่ใช้เพื่อความบันเทิงด้วย กับคนที่เขาใช้เพื่อการรักษาทางการแพทย์ แล้วเราก็เห็นว่าเมื่อเขาใช้ มันช่วยให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนะ”
แม้ว่าเจ้าตัวไม่ได้เป็นผู้ใช้กัญชา แต่ก็มีมุมมองว่ามันสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้
ชานนท์ เรืองศรี
“ส่วนตัวผมมองว่าในแง่ของธุรกิจ มันเป็นประโยชน์ที่สามารถต่อยอดไปได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ มันสามารถเอาไปใช้ได้”
ถ้อยความสั้นๆ อันได้ใจความของ
ชานนท์ เรืองศรี
แห่งรายการ
MasterChef Thailand Season 3
โดยเขายังพูดเสริมต่อในประเด็นเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมกัญชาว่า
“อันดับหนึ่งเลย มันคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ภาครัฐเองก็ควรจะควบคุมดูแลไม่ให้กัญชาเข้าถึงเยาวชนได้ง่ายเกินไป เพราะผมว่าถ้าควบคุมตรงนี้ได้มันก็สามารถช่วยเรื่องเศรษฐกิจได้ แล้วอีกอย่างเรื่องการใช้เพื่อผ่อนคลายมันก็สำคัญ หากเอาไปแปรรูปเป็นยา หรืออะไรต่าง ๆ
“ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ทำให้มันถูกกฎหมายขึ้นมา แต่ก่อนต้องหาจากแหล่งที่อยู่ใต้ดิน แม้แต่การส่งออกพืชพรรณออกไปต่างประเทศ ผมก็มองว่ามันน่าจะช่วยเศรษฐกิจของเราได้
”
ชานนท์ยังพูดเสริมกับเราอีกว่า
“อย่างผมเป็นคนทำอาหารเนอะ ผมก็คิดว่าจะนำส่วนต่าง ๆ เอาไปแปรรูปเป็นอาหารสักจานหนึ่ง หรือขนมสักชนิดหนึ่ง เท่าที่มันจะสามารถทำได้ แล้วมันสามารถสร้างรายได้ให้กับผมด้วย บางทีผมอาจจะเอาไปช่วยเรื่องการพักผ่อนกับทางครอบครัวครับ”
กลุ่มผู้มาร่วมงาน
“ผมว่ามันทำให้คนรุ่นก่อน ที่ไม่ใช่คนรุ่นอย่างพวกเรา สามารถมองเห็นกัญชาในด้านดีมากกว่า”
“พวกคนรุ่นก่อนเขาเคยได้รับข้อมูลมาว่ามันคือสารเสพติด ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันเทคโนโลยีมันไปได้ไกลมากแล้ว กัญชาเอง ตอนนี้สามารถช่วยรักษาโรคคนได้ ผมว่าคนที่มีอำนาจจะได้ตระหนักถึงแล้วเข้าใจมากขึ้นนะ”
ประโยคดังกล่าวทำให้เรานึกย้อนไปในสมัยก่อนที่ชุดข้อมูลยังไม่สามารถเข้าถึงคนในหมู่มากได้เท่า ปัจจุบันมันก็คือความจริงที่ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในสังคมเป็นสิ่งที่เราคิดจากประโยคดังกล่าวของผู้เข้าร่วมงาน
ความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องเสรีกัญชา
“หลากหลายช่วงวัยสามารถใช้เพื่อการเรียนรู้ถึงประโยชน์จริง ๆ ตอนนี้หลายคนจะได้ไม่ต้องหลบซ่อนเวลาพบตำรวจ มันเหมือนกับว่าเราเป็นคนทำความผิดอะไรมาสักอย่าง แต่จริง ๆ เราแค่ใช้เพื่อความสุขของเราเองเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวาย เบียดเบียนชีวิตคนอื่น หรือสร้างปัญหาใด ๆ ให้ใคร
“จริง ๆ บางทีคนไม่ได้ใช้อาจจะสร้างปัญหามากกว่าคนที่ใช้เสียอีกค่ะ ในสังคมปัจจุบันของเรานะ”
ประโยคดังกล่าวทำให้เราตระหนักได้ว่า กัญชาก็คือพืชที่สามารถแปรรูปไปได้หลากหลายขึ้นอยู่กับการใช้งานมากกว่า ซึ่งบางทีก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล ควรใช้งานในปริมาณที่พอเหมาะ
“ผมเองก็ใช้มานานพอสมควรนะ”
หนึ่งในกลุ่มเพื่อน ๆ เริ่มบอกเล่าประสบการณ์การใช้กัญชาเพิ่มเติม
“หนึ่ง, คือเราใช้มันก็ไม่ได้มีผลกระทบกับงานที่เราทำอยู่ เราสามารถทำงานได้ปกติ สอง, เรายังเรียนหนังสือได้ปกติ
ซึ่งเรียนเข้าใจ
ได้มากขึ้นกว่าปกติด้วย สาม, ที่ผมคิดว่ามีประโยชน์ต่อตัวผมเลยก็คืออาการที่แสดงหลังใช้ มันไม่เหมือนกับเหล้าเบียร์ที่มันเหวี่ยง”
“เอาจริง ๆ ตั้งแต่ผมรู้จักกัญชามา เหล้าเบียร์แอลกอฮอล์ผมก็ไม่เคยแตะอีกเลย ถ้าถามว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่ไหม ถ้ากับบ้านเรา ผมว่ามันแปลกใหม่นะ สำหรับบางคนที่ไม่เคยใช้หรือรู้จัก แต่สำหรับคนที่ใช้อยู่นานแล้ว เขาเหล่านั้นก็สามารถใช้ได้อย่างสบายใจมากขึ้น ทำให้ประเทศนี้มีอะไรหลากหลายมากขึ้นจากเดิมที่กฎหมายว่า กัญชาคือยาเสพติด”
และนั่นก็เป็นบทสนทนาเบื้องต้นที่เราได้ไปถกถามต่อผู้มาร่วมงานในวันแรก ก่อนที่ความสนุกครั้งที่เจ็ดจะเริ่มขึ้น...
เรื่อง
:
ณัฐนันท์ วิจิตรบุญชูวงศ์ (The People Junior)
รัฐฐกรณ์ ศิริฤกษ์
ภาพ:
อภิวิชญ์ แสงโสภา
(The People Junior)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ตำแหน่งใหญ่ขณะอายุน้อย บารมีมาก เส้นทางสีกากีติดไฮสปีด
15 ก.ย. 2566
3516
ถอดรหัส ‘Naatu Naatu’ เพลงประกอบหนังอินเดียฉากร้อง-เต้นใน RRR ได้ออสการ์-Golden Globes
13 มี.ค. 2566
6952
‘เอมิลิโอ เฟอร์นันเดส’ ชายผู้เป็นต้นแบบของตุ๊กตารางวัล ‘ออสการ์’
12 มี.ค. 2566
829
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ThePeople
Social
420
cannabis
Highland
420Thailand