04 ก.พ. 2565 | 11:55 น.

‘K9 - Arlo’ สุนัขตำรวจและดาว TikTok ปลดเกษียณหลังฟื้นตัวจากการถูกยิงขณะปฏิบัติหน้าที่

‘K9’ หรือ กองกำกับการสุนัขตำรวจ คือเหล่า ‘ฮีโร่สี่ขา’ ที่คอยทำภารกิจเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาระเบิด ยาเสพติด ผู้รอดชีวิต ผู้สูญหาย รวมไปถึงอารักขา และสะกดรอย แต่เหตุไม่คาดฝันก็มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขเหล่านี้ เพราะพวกมันเป็นหนึ่งในด่านแรกที่ต้องคอยรับความเสี่ยงอยู่เสมอ บนท้องถนนยามค่ำคืนบริเวณทัมวอเตอร์ (Tumwater) รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ชายวัย 25 ปี ขับรถโดยประมาทหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเธิร์สตันเคาน์ตี้ (Thurston County) เป็นเหตุให้ ‘Arlo’ (อาร์โล) สุนัขตำรวจสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) วัย 3 ปีถูกยิงที่ไหล่ใกล้กระดูกสันหลัง และขาหลังด้านขวา ก่อนจะถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัด

หลังเกิดเหตุ ไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่า Arlo ถูกยิงโดยผู้ต้องสงสัยหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากปืนของผู้ต้องสงสัยไม่มีกระสุน และไม่พบปลอกกระสุนปืนของเขาในที่เกิดเหตุ พบแต่เพียงกระสุนที่ยิงจากฝั่งตำรวจ 6 นายเท่านั้น (รายงานจาก The Intercept) หลังจากที่ Arlo ถูกยิง ‘The Thurston County Deputy Sheriff’s Foundation’ ได้เปิดระดมทุนเพื่อหาค่ารักษาพยาบาลให้กับ Arlo ผ่านทาง ‘GoFundMe’ ซึ่งได้มาทั้งหมด 73,000 ดอลลาร์ (ราว 2,423,125 บาท) ในคืนเกิดเหตุมีเสียงปืนดังขึ้น 7 วินาที ผู้ต้องสงสัยถูกตำรวจกราดยิง กระสุนพุ่งเข้าตัว 3 นัด คือที่ท้อง ข้อมือ และต้นขา เขาถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลและมีรายงานจากพยาบาลว่า เขาคิดจะฆ่าตัวตาย ก่อนถูกส่งเข้ารับโทษที่คุกเธิร์สตันเคาน์ตี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 นายที่เกี่ยวข้องถูกสั่งพักงาน เพื่อรอสอบสวนเรื่องการใช้กำลังจับกุมที่อาจส่งผลต่อชีวิต อย่างไรก็ตาม หลายสื่อรวมถึง ‘The Olympian’ รายงานว่า เป็นฝั่งผู้บังคับใช้กฎหมายที่ยิง Arlo เองโดยไม่ตั้งใจ แต่ทางการไม่ยอมให้คำตอบเรื่องนี้อย่างชัดเจน ส่วนโพสต์ที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นคนยิง Arlo ได้ถูกลบออกไปแล้ว

ปัจจุบัน Arlo ออกจากโรงพยาบาลและออกจากหน้าที่ราชการก่อนกำหนดเป็นที่เรียบร้อย จากเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิต Arlo แขวนอยู่บนเส้นด้าย ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างเข้ามาให้กำลังใจอย่างล้นหลามจน TikTok ของ Arlo มีผู้ติดตามมากถึง 3.2 ล้านคน และเรื่องราวของ Arlo ก็ถือเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์อย่างดีให้กับเจ้าหน้าที่และคนทั่วโลกด้วย