จอร์จิโอ บาโรเน: เชฟส่วนตัว ‘โรนัลโด’ ผู้กุมความลับอาหารทุกคำที่ทำให้ CR7 อายุ 36 ยังแจ๋ว

จอร์จิโอ บาโรเน: เชฟส่วนตัว ‘โรนัลโด’ ผู้กุมความลับอาหารทุกคำที่ทำให้ CR7 อายุ 36 ยังแจ๋ว
นักฟุตบอลทั่วไปจะเข้าสู่บั้นปลายอาชีพค้าแข้งเมื่ออายุเริ่มเข้าสู่วัย 30 ปี แต่ไม่ใช่นักเตะซูเปอร์สตาร์คนนี้ที่ชื่อ คริสเตียโน โรนัลโด ที่หลายทีมยังคงแย่งตัวไปร่วมทัพ แม้อายุจะใกล้หลัก 40 ปีเข้าไปทุกที เหตุผลที่หลายสโมสรอยากได้ตัวซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสผู้นี้ ไม่ใช่แค่ต้องการความดังไปขายเสื้อ หรือตั๋วเข้าชมการแข่งขัน แต่ยังรวมถึงความสามารถในสังเวียนลูกหนังซึ่งไม่เคยโรยรา และยังคงเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ในสนามต่อไปไม่หยุด โรนัลโดที่เพิ่งย้ายจากอิตาลี กลับมาทีมเก่าแมนฯ ยูไนเต็ด ในวัย 36 ปี ทำคนเดียว 2 ประตูให้โปรตุเกส คว้าชัยในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก พร้อมสร้างสถิติเป็นนักเตะที่ทำประตูในนามทีมชาติมากที่สุดตลอดกาลของโลก 111 ประตู เคล็ดลับความฟิตไม่เกี่ยงวัยของนักเตะฉายา CR7 นอกจากจะมาจากชื่อเสียงเรื่องวินัยในการฝึกซ้อม ยังมาจากวินัยด้านโภชนาการ และอาหารทุกคำที่โรนัลโดกินเข้าไปในวัยปลาย 30 ปี ระหว่างค้าแข้งในอิตาลี ล้วนมาจากฝีมือของเชฟชื่อดังผู้นี้นามว่า จอร์จิโอ บาโรเน (Giorgio Barone)   ไม่เน้นของแพงเน้นวัตถุดิบคุณภาพ “ไม่มีอาหารแพง นอกจากอาหารเพื่อสุขภาพ ผมใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติและออร์แกนิก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อลูกวัว (veal) ไข่ อะโวคาโด้ น้ำมันมะพร้าว และข้าวหอมนิล” จอร์จิโอ บาโรเน ลิสต์รายการวัตถุดิบหลักที่เขาใช้ปรุงอาหารให้โรนัลโดกินตลอด 3 ปีที่นักเตะค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 500,000 ปอนด์ (22 ล้านบาท) ผู้นี้ เดินทางไปค้าแข้งอยู่ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี กับสโมสรยูเวนตุส โรนัลโดเล่นให้ยูเวนตุส 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2018 - 2021 หรือในช่วงอายุ 33 - 36 ปี และตลอดช่วงเวลานี้ เขามีบาโรเนเป็นเชฟส่วนตัวคอยทำหน้าที่ดูแลอาหารทุกอย่างข้างกาย 24 ชม. ไม่ว่าจะที่บ้าน บนดาดฟ้าเรือยอชต์ หรือระหว่างพักตากอากาศกับครอบครัว บาโรเนเป็นเชฟชื่อดังชาวอิตาลีเขามีไร่องุ่นปลูกไวน์ยี่ห้อของตัวเอง และเป็นเจ้าของภัตตาคารบนเกาะซาร์ดิเนีย กลางทะเลเมดิเตอเรเนียน ในช่วงฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลลีก เขารับงานเชฟส่วนตัวให้กับนักเตะชื่อดังซีซันละคน เพื่อให้พวกเขาได้มีอาหารที่ทั้งโภชนาการดีและมีรสชาติอร่อยถูกปาก ก่อนมาร่วมงานกับโรนัลโด เชฟอิตาลีผู้นี้เคยดูแลนักเตะมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นจิอันลุยจิ บุฟฟ่อน ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลี อัลแบร์โต อควิลานี อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีของลิเวอร์พูล และเควิน ปรินซ์ บัวเต็ง อดีตมิดฟิลด์ของฟิออเรนตินา   กินนอนที่บ้านโรนัลโดและเรื่องของน้ำมันมะพร้าว หน้าที่เชฟส่วนตัวทำให้บาโรเนต้องเข้าไปกินอยู่หลับนอนที่บ้านของโรนัลโดและแฟนสาว จอร์จินา โรดริเกซ พร้อมลูก ๆ อีก 4 คน กิจวัตรประจำวันของเขา คือ การตื่นเช้าออกไปสรรหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดในท้องตลาดมาเตรียมอาหารให้กับนักเตะและครอบครัวตามเมนูที่ทุกคนต้องการ อาหารจานโปรดของดาวยิงชาวโปรตุเกส คือ เมนูซีฟู้ด ปลา โปรตีนไขมันต่ำ (ลีนโปรตีน) ธัญพืชไม่ขัดสี (โฮลเกรน) และสลัด ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้โรนัลโดยังฟิตเปรี๊ยะ ทั้งรูปร่างและฟอร์มการเล่น คือ การกินอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันมะพร้าวเป็นหลัก “ผมปรุงอาหารด้วยน้ำมันมะพร้าว สิ่งสำคัญยังอยู่ที่การดื่มน้ำเยอะ ๆ แต่ต้องเป็นน้ำเปล่า และดื่มบ่อย ๆ ด้วย” บาโรนี่เปิดเผยความลับในการดูแลนักเตะซูเปอร์สตาร์กับมิรเรอร์ สื่อของอังกฤษ เขาบอกว่า น้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยกรดลอริก ซึ่งช่วยเผาผลาญไขมัน และลดคอเลสเตอรอล เมื่อกินคู่กับโปรตีน ซึ่งมีประโยชน์ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และชะลอวัย จึงทำให้ร่างกายของโรนัลโดยังคงแข็งแรง ส่วนอาหารที่เขาหลีกเลี่ยงทำให้นักเตะวัย 36 ปี คือ เมนูที่มีคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และน้ำตาล พร้อมย้ำความสำคัญของการดื่มน้ำเปล่า ซึ่งอาจเป็นเหตุผลให้โรนัลโดหยิบขวดน้ำอัดลมออกจากหน้าโต๊ะแถลงข่าว ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อในฟุตบอลยูโร 2020 (+1) จนกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล   เมนูโปรดระหว่างเล่นทีมชาติ เมนูที่เชฟอิตาลีบรรยายมาสอดคล้องกับข้อมูลที่หลุยส์ ลาบราดอร์ เชฟผู้ดูแลอาหารการกินให้กับนักเตะทีมชาติโปรตุเกสเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในปี 2018 โดยเขาบอกว่า อาหารที่โรนัลโดไม่เคยขาด คือ ผลไม้สด โฮลเกรน ลีนโปรตีน และสลัด ทุกเช้าเขามักดื่มน้ำผลไม้คั้นสด โดยเฉพาะสาลี่ แอปเปิล และสัปปะรด ขณะเดียวกันก็ชอบดื่มกาแฟไปพร้อมกับการกินโฮลเกรน ระหว่างฝึกซ้อม หรือลงแข่งขัน กัปตันทีมชาติโปรตุเกสจะดับกระหายด้วยเครื่องดื่มเกลือแร่แบบไอโซโทนิกชนิดพิเศษ ซึ่งมีน้ำตาลน้อยกว่าที่วางขายในท้องตลาด เครื่องดื่มชนิดนี้มีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน และวิตามินบี 12 ช่วยลดความเหนื่อยล้า เมนูอาหารที่โรนัลโดชื่นชอบ คือ ปลาหลากหลายชนิด โดยเฉพาะตระกูล sea beam (ปลาทรายแดง) swordfish (ปลากระโทงดาบ) และ sea bass (ปลากระพงขาว) ส่วนเมนูเนื้อจะเป็นเนื้อย่างที่เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดจานโต อาหารประจำชาติโปรตุเกสจานโปรดของโรนัลโด คือ บาคัลเยา (Bacalhau à brás) ทำจากปลาคอด ที่คลุกเคล้ากับหัวหอม มันฝรั่ง ไข่ และมะกอกดำ เมื่อต้องการของหวาน เขาจะกินดาร์คช็อกโกแลต และไม่ลืมดื่มไวน์แดง 1 แก้วในมื้อค่ำเพื่อเติมสีสันให้ชีวิต   เชฟส่วนตัวของเมสซี เมื่อเกมฟุตบอลยุคใหม่แค่ใช้ทักษะและความสามารถเฉพาะตัวอย่างเดียวไม่พอ การดูแลร่างกายให้แข็งแรง มีพละกำลัง และความฟิตอยู่เสมอมีความสำคัญมากขึ้น เชฟส่วนตัวจึงเป็นอาชีพที่มีความต้องการมากขึ้นเช่นกัน ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนตินา ที่อายุน้อยกว่าโรนัลโด 2 ปี และเป็นคู่แข่งที่สื่อมักนำมาเปรียบเทียบกันก็เป็นอีกคนที่ใช้บริการเชฟส่วนตัวจากอิตาลีไม่ต่างจากโรนัลโด อินดิเพนเดนต์ สื่อของอังกฤษ เคยรายงานเมื่อปี 2016 ว่า จูเลียโน่ โปเซอร์ นักโภชนาการชาวอิตาลี เริ่มทำงานให้กับเมสซีในปี 2014 และช่วยให้อดีตซูเปอร์สตาร์ของบาร์เซโลน่า ลดน้ำหนักได้ถึง 3 กก.  วิธีที่เขาใช้ คือ การเกลี้ยกล่อมให้เมสซีเลิกกินพิซซ่า และหันมาเน้นอาหารหลัก 5 เมนู คือ น้ำเปล่า น้ำมันมะกอกชั้นดี ธัญพืชไม่ขัดสี ผักสด และผลไม้  “สิ่งที่มีประโยชน์สูง คือ ถั่วและเมล็ดต่าง ๆ” โปเซอร์กล่าว พร้อมเตือนอันตรายของการกินน้ำตาลว่า “มันเลวร้ายที่สุดสำหรับกล้ามเนื้อ ยิ่งเขาอยู่ห่างจากน้ำตาลมากเท่าไรยิ่งเป็นเรื่องดี “แป้งสาลีอีกอย่างก็เป็นปัญหาใหญ่ เพราะทุกวันนี้มันยากที่จะหาข้าวสาลีซึ่งไม่ปนเปื้อนสารพิษได้” นอกจากนี้ การบริโภคเนื้อ ซึ่งเป็นเมนูหลักของชาวอาร์เจนตินาที่เขาบอกว่ากินกันมากเกินไป ก็ทำให้ระบบย่อยอาหารในร่างกายทำงานหนัก เขาจึงแนะนำให้เมสซีกินเนื้อให้น้อยลง  นับตั้งแต่เมสซีจ้างโปเซอร์มาดูแลโภชนาการ ผลงานในสนามฤดูกาล 2015/16 ของเขาดีขึ้นผิดหูผิดตา สามารถทำประตูให้บาร์ซ่า 98 ลูก จากการลงสนาม 102 นัด ไม่แพ้ฟอร์มอันร้อนแรงของโรนัลโด   ไม่เลิกเล่นจนกว่าอายุเลย 40 โรนัลโด เจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก (บัลลงดอร์) 5 สมัย ย้ายจากยูเวนตุส กลับมาอยู่แมนฯ ยูไนเต็ด ในวัย 36 ปี ด้วยร่างกายที่ยังสมบูรณ์แข็งแรง เขาเคยตั้งเป้าจะไม่ยอมแขวนสตั๊ดจนกว่าอายุทะลุหลัก 40 ปีขึ้นไป จอร์จิโอ บาโรเน กล่าวถึงเคล็ดลับในการดูแลร่างกายของนักเตะเจ้าของความสูง 187 ซม. น้ำหนัก 83 กก. ผู้นี้ว่า นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว โรนัลโดยังรักษาวินัยในการฝึกซ้อม และรักษาสมดุลกับการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี “แน่นอนการกินอาหารที่ดีต้องมาควบคู่กับการหมั่นฝึกซ้อม แต่การพักผ่อนก็เป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญไม่แพ้การฝึกซ้อมและโภชนาการ รวมถึงการพักผ่อนในช่วงบ่าย ส่วนมื้อค่ำควรกินให้เร็วขึ้น อย่าให้ดึกจนเกินไป” บาโรเนแนะความสำคัญของ 3 ปัจจัยในการเป็นนักกีฬาที่ดี ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมบอกลาโรนัลโด เมื่อทั้งคู่ไม่ได้ร่วมงานกันอีกหลังจากกัปตันทีมชาติโปรตุเกสตัดสินใจย้ายจากอิตาลี กลับไปค้าแข้งที่อังกฤษ “คริสเตียโน คือ แชมเปี้ยนในทุกเรื่อง เขาเป็นทั้งมหาบุรุษ คุณพ่อผู้ยิ่งใหญ่ และครอบครัวที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม” จอร์จิโอ บาโรเน เชฟผู้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ วัย 36 ปี กล่าวถึงลูกค้าซูเปอร์วีไอพีที่เขาเคยร่วมงานกันมา 3 ปี ก่อนจะทิ้งท้ายคำคมให้คนทั่วไปใส่ใจสุขภาพแบบเดียวกับยอดนักเตะรายนี้ว่า... “คุณต้องดูแลร่างกายตัวเองให้เหมือนกับดูแลรถเฟอร์รารี”   เรื่อง: ภานุวัตร เอื้ออุดมชัยสกุล ภาพ: Instagram Giorgio Barone   ข้อมูลอ้างอิง: https://www.mirror.co.uk/sport/football/cristiano-ronaldos-former-chef-reveals-24910096 https://www.marca.com/en/football/international-football/2020/09/11/5f5b5b6746163f2eb48b4636.html https://www.independent.co.uk/sport/football/european/lionel-messi-barcelona-forward-s-nutritionist-reveals-the-diet-behind-the-world-s-greatest-player-a7006706.html https://www.infobae.com/america/deportes/2018/05/23/la-dieta-que-mantiene-en-plenitud-a-cristiano-ronaldo-de-cara-a-la-final-de-la-champions-league/