ฮิโร โอโนดะ : ทหารญี่ปุ่นผู้ซ่อนตัวในป่า 29 ปี เพราะไม่เชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงแล้ว

ฮิโร โอโนดะ : ทหารญี่ปุ่นผู้ซ่อนตัวในป่า 29 ปี เพราะไม่เชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงแล้ว
“ผมเป็นเจ้าหน้าที่ และเมื่อได้รับคำสั่งแล้วทำไม่ได้ ผมจะรู้สึกอับอาย เพราะฉะนั้นผมต้องทำให้ได้” ร้อยโทฮิโร โอโนดะ (Hiroo Onoda) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ในปี 2010 ซึ่งร้อยโทคนนี้คือทหารญี่ปุ่น ผู้ใช้ชีวิตในสงคราม 29 ปี เพราะไม่เชื่อว่าสงครามสิ้นสุดลงแล้ว ฮิโร โอโนดะเข้าร่วมสงครามที่ฟิลิปปินส์เมื่อปี 1944 แม้ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้สงครามต่อฝ่ายพันธมิตรเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1945 หลังจากที่ถูกอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ แต่เขาก็ไม่เชื่อและซ่อนตัวในป่าจนถึงปี 1974 กินเวลายาวนานถึง 29 ปี   จุดเริ่มต้นของสงครามที่ยาวนาน ร้อยโทฮิโร โอโนดะ ได้เข้าร่วมกองทัพเมื่ออายุ 20 ปี เขาได้รับการคัดเลือกให้เข้าฝึกในโรงเรียนข่าวกรองกองทัพจักรวรรดิ ซึ่งที่นี่ทำให้เขาได้เรียนรู้วิธีการรวบรวมข่าวกรองและวิธีทำสงครามกองโจร ในปี 1944 ร้อยโทฮิโร โอโนดะถูกกองทัพญี่ปุ่นส่งไปยังเกาะลูปัง (Lubang) ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยภารกิจของเขาคือการทำสงครามกองโจรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับคำสั่งให้เป็นผู้นำกองทัพลูปังในสงครามกองโจร ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำภารกิจโอโนดะและสหายได้รับคำสั่งจากพันตรีโยชิมิ ทานิกุจิ ว่า “อาจต้องใช้เวลาสามปี อาจใช้เวลาห้าปี แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะกลับมาหาคุณ” ร้อยโทฮิโร โอโนดะ มีความคิดว่าควรระเบิดท่าเรือและทำลายสนามบนเกาะลูปัง แต่ภารกิจครั้งนี้กลับไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับกองพัน และหลังจากนั้นไม่นานเกาะลูปังก็ถูกโจมตีโดยกองทัพสัมพันธมิตร ร้อยโทฮิโร โอโนดะและกองทัพทหารญี่ปุ่นที่เหลือกำลังพลน้อยลงทุกที จึงตัดสินใจถอยร่นเข้าไปในบริเวณด้านในของเกาะ และแยกออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มของร้อยโทฮิโร โอโนดะ มีทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย ร้อยโทฮิโร โอโนดะ, สิบโทโชอิจิ ชิมาดะ, พลทหารคินชิจิ โคซึกะ และพลทหารยูอิจิ อาคัตสึ  พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน เสบียงที่เหลือเพียงไม่กี่อย่าง ข้าวเพียงเล็กน้อยและกระสุนปืนที่เหลืออย่างจำกัด การแบ่งปันอาหารจึงกลายเป็นเรื่องยากและทำให้เกิดการทะเลาะกัน แต่พวกเขาก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยมะพร้าวและกล้วย รวมทั้งการฆ่าวัวของชาวบ้าน   สงครามจบลง? เมื่อสิ้นสุดสงครามในเดือนตุลาคม 1945 ร้อยโทฮิโร โอโนดะและสหาย ได้รับใบปลิวที่ชาวเกาะทิ้งไว้โดยมีข้อความว่า ‘สงครามสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ลงมาจากภูเขา’ ร้อยโทฮิโร โอโนดะและสหาย ได้พิจารณาว่าใบปลิวเหล่านี้มีข้อความที่น่าสงสัย ซึ่งเขียนไว้ว่า ผู้ที่ยอมแพ้จะได้รับ ‘ความช่วยเหลือที่ถูกสุขอนามัย’และ ‘จะได้เดินทางกลับไปประเทศญี่ปุ่น’ จึงเชื่อว่านี่เป็นเรื่องหลอกลวงจากรัฐบาลที่สนับสนุนสหรัฐฯ ใบปลิว หนังสือพิมพ์ ภาพถ่าย และจดหมายจากครอบครัวที่ถูกทิ้งไว้ เสียงเพื่อนและครอบครัวที่พูดผ่านลำโพง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่น่าสงสัย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เชื่อว่าสงครามได้สิ้นสุดลงแล้วจริง ๆ หลายปีผ่านไป ร้อยโทฮิโร โอโนดะและสหายยังคงทำหน้าที่ในการลาดตระเวน รวบรวมข่าวกรอง หาอาหาร และโจมตีชาวบ้านในบางครั้ง เพราะเชื่อว่าเป็นศัตรูที่ปลอมตัวหรือเป็นสายลับของศัตรู  ร้อยโทฮิโร โอโนดะและสหายอาจสังหารชาวฟิลิปปินส์ไปกว่า 30 คนและบาดเจ็บอีกประมาณ 100 คนระหว่างพวกเขาซ่อนตัวอยู่บนเกาะลูปังแห่งนี้ จนกระทั่งเดือนกันยายน ปี 1949 พลทหารยูอิจิ อาคัตสึ ต้องการมอบตัวโดยไม่ได้บอกสหายคนอื่น เขาจึงใช้วิธีหลบหนีอยู่ในป่าเป็นเวลากว่า 6 เดือน ก่อนจะสำเร็จและได้เดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น ส่วนสิบโทโชอิจิ ชิมาดะได้รับบาดเจ็บจากการการปะทะกับชาวบ้าน ในปี 1953 แม้ว่าแผลจากการบาดเจ็บจะดีขึ้น แต่หลังจากนั้นอีก 1 เดือนเขากลับถูกฆ่าจากการต่อสู้ที่หาดกอนติน (Gontin) ทำให้ในตอนนี้เหลือเพียงร้อยโทฮิโร โอโนดะและพลทหารคินชิจิ โคซึกะ เท่านั้นที่ยังอาศัยอยู่ในป่า   จุดสิ้นสุดของสงครามที่ยาวนาน หลังจากการซ่อนตัวอยู่ถึง 27 ปี พลทหารคินชิจิ โคซึกะ ได้ถูกสังหารระหว่างการปะทะกับหน่วยลาดตระเวนชาวฟิลิปปินส์ ศพของเขาได้กลายเป็นหลักฐานสำคัญว่าโอโนดะอาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อส่งคนออกไปตามหา กลับไม่พบร้อยโทฮิโร โอโนดะ จนกระทั่งปี 1974 นักศึกษานามว่า โนริโอ ซูซูกิ ตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อไปตามหาร้อยโทฮิโร โอโนดะ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โนริโอ ซูซูกิ ทำภารกิจนี้สำเร็จ เขาพบกับร้อยโทฮิโร โอโนดะ และบอกกับโอโนดะว่าสงครามได้สิ้นสุดลงแล้ว ร้อยโทฮิโร โอโนดะบอกกับเขาว่า ‘เขาจะยอมกลับประเทศญี่ปุ่นก็ต่อเมื่อผู้บังคับบัญชาเขาสั่งเท่านั้น’ โนริโอ ซูซูกิจึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นเพื่อพบกับ ‘พันตรีทานิกุจิ’ อดีตผู้บัญชาการของร้อยโทฮิโร โอโนดะ แล้วออกเดินทางพร้อมกันกลับมายังสถานที่ที่นัดหมายไว้ในวันที่ 9 มีนาคม 1974 โดยพันตรีทานิกุจิได้อ่านคำสั่งที่ระบุว่า ‘การต่อสู้ทั้งหมดได้ยุติลงแล้ว’ ความรู้สึกมากมายพรั่งพรูเข้ามาในหัวของร้อยโทฮิโร โอโนดะ เขาค่อย ๆ ตั้งสติ แล้วถอดสลักไกปืนไรเฟิลของเขาและเทกระสุนออก  “ฉันจะไม่ได้ใช้ปืนไรเฟิลที่ฉันดูแลเหมือนลูกมาตลอดหลายปีนี้อีกแล้วจริง ๆ หรือ? สงครามสิ้นสุดลงเมื่อ 30 ปีที่แล้วจริง ๆ หรือ? ถ้าอย่างนั้นชิมาดะและโคซึกะตายไปเพื่ออะไร? จะดีกว่าไหมถ้าฉันตายไปกับพวกเขา?” ร้อยโทฮิโร โอโนดะกล่าว 12 มีนาคม 1974 ร้อยโทฮิโร โอโนดะ ได้เดินทางถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เขาโบกมือทักทายประชาชนที่มารอรับเขาที่สนามบินฮาเนดะ เขาได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส สำหรับความผิดที่กระทำในขณะที่เชื่อว่าเขายังคงอยู่ในภาวะสงคราม ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นแตกต่างไปจากวันสุดท้ายของเขาในประเทศนี้เมื่อปี 1944 ร้อยโทฮิโร โอโนดะจึงตัดสินใจย้ายไปยังประเทศบราซิล เพื่อค้นหาชีวิตที่สงบสุข แล้วกลับมาญี่ปุ่นอีกครั้งในปี 1984 เพื่อเปิดค่ายธรรมชาติสำหรับเด็ก ก่อนจะเสียชีวิตลงในปี 2014 หากถามว่าตลอด 29 ปีที่ผ่านมาเขาทำอะไรอยู่ในป่า ร้อยโทฮิโร โอโนดะมักจะตอบเสมอว่า “ไม่มีอะไรนอกจากทำหน้าที่ของฉันให้สำเร็จ” ไม่ว่าหน้าที่ของเขาจะสำเร็จหรือไม่ แต่ผลปลายทางที่เห็นตรงกันคือ สงครามไม่เคยให้คำตอบที่ดีงาม ไม่ว่าจะเกิดกับที่ใดก็ตาม   เรื่อง: สรายุทธ ปลิวปลอด (The People Junior)   ที่มา: https://www.historynet.com/hiroo-onoda-the-japanese-officer-who-refused-to-surrender-decades-after-wwiis-end.htm https://www.thoughtco.com/war-is-over-please-come-out-1779995 https://www.theguardian.com/world/2014/jan/17/hiroo-onoda-japanese-soldier-dies