ลิซ่า BLACKPINK: เด็กสาวสดใสที่ ‘จุดไฟ’ ให้โลกด้วยเสียงดนตรี ‘เคป็อป’

ลิซ่า BLACKPINK: เด็กสาวสดใสที่ ‘จุดไฟ’ ให้โลกด้วยเสียงดนตรี ‘เคป็อป’

‘ลิซ่า’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ จากเด็กสาวผู้ทำตามเสียงหัวใจตัวเอง สู่ศิลปินหญิงสัญชาติไทย ผู้ที่ไม่ว่าจะขยับไปทางไหนก็ได้รับความสนใจไปทั่วโลก

หน้าม้า นัยน์ตากลมโต รอยยิ้มสดใส และเสียงพูดน่ารัก ๆ ต่างกับเสียงแร็ปที่มีเอกลักษณ์และชัดถ้อยชัดคำ พ่วงด้วยความสามารถการเต้นที่ไม่เป็นสองรองใคร เหล่านี้คือจุดเด่นที่เป็นภาพจำของไอดอลสาวสัญชาติไทยที่ไปโด่งดังไกลถึงเกาหลี  ‘ลิซ่า’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ คือเด็กสาวจากเกิร์ลกรุป BLACKPINK ที่ได้รับความรักมากมายจากแฟนคลับทั่วโลก การันตีด้วยยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมถึงสี่สิบสามล้านคน และการที่ไม่ว่าเธอจะหยิบอะไรมาสวมใส่ หรือทำอะไร สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายเป็นไวรัลอยู่เสมอ   

ก่อนที่ลิซ่าจะกลายเป็นเด็กสาวที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามอย่างทุกวันนี้ เมื่อสิบปีก่อนหน้านี้ เธอเป็นเจ้าหนูแก่น ๆ ซน ๆ ที่มีความฝันอยู่เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น เธอฝันอยากเป็นนักร้อง - นักเต้น และเธออยากเป็นไอดอลเกาหลี 

หนูจะไปเกาหลี  

ลิซ่าเกิดที่บุรีรัมย์และเติบโตที่กรุงเทพฯ เธอเป็นเด็กหญิงท่าทางสดใสและบุคลิกซน ๆ ที่มีความชอบในการร้องและเต้นมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวของลิซ่าสนับสนุนความชอบของเธอ พวกเขาให้เธอเรียนเต้นตั้งแต่ยังเล็ก เธอเข้าร่วมการประกวดจำนวนมากพร้อมกับความฝันในใจที่ชัดขึ้นเรื่อย ๆ   “ครูก้อย หนูจะไปเกาหลี”   ถ้อยคำนี้คือสิ่งที่เด็กหญิงลิซ่าวัย 13 ปีมักจะพูดอยู่เสมอ โดยมี ‘ครูก้อย’ หรือ สุภาพรรณ ผลากรกุล ครูสอนร้องเพลงผู้อยู่เบื้องหลังนักร้อง – นักแสดงที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก เป็นผู้รับฟังและคอยสอนทักษะการร้องเพลงให้กับเด็กหญิง เพื่อที่ว่าวันหนึ่ง ‘ป๊อกแป๊ก’ (ชื่อเล่นเดิมของลิซ่า) อาจจะได้ใช้ความสามารถทำความฝันจนสำเร็จก็เป็นได้  

“รู้ว่าเขามีความสามารถนะ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะไปได้ไกลขนาดนี้”  

ปี 2010 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment) ได้เปิดออดิชันที่ประเทศไทย ‘ป๊อกแป๊ก’ เป็นหนึ่งในเด็กสาวจำนวนมากที่เข้าร่วมคัดเลือกในวันนั้น “ออดิชันเสร็จก็นั่งรอโทรศัพท์ รอแล้วรอเล่า รอทุก ๆ วันจนถึงสองเดือน พอรู้ว่าเขาเรียกเราคนเดียวก็ตกใจว่ามันเป็นไปได้ด้วยเหรอ”

พูดภาษาเกาหลีเป็นแค่ ‘อันยอง’  

ลิซ่าร่ำลาครอบครัว เด็กหญิงจากประเทศไทย – บ้านเกิดของเธอมาเกาหลีด้วยวัยเพียง 14 ปีเท่านั้น ตอนนั้นลิซ่าพูดภาษาเกาหลีเป็นแค่ ‘สวัสดี’ เพียงคำเดียว “หนูโชคดีที่มีพี่เจนนี่ (สมาชิก BLACKPINK) พี่เขาเป็นคนเดียวที่พูดภาษาอังกฤษในกลุ่มเด็กฝึกหัด เวลามีเรื่องอะไรหนูก็คุยกับพี่”    นอกจากเจนนี่ ลิซ่ายังฝึกพูดภาษาเกาหลีกับจีซู (สมาชิก BLACKPINK) อยู่บ่อยครั้ง และเมื่อโรเซ่ (สมาชิก BLACKPINK) เข้ามาเป็นเด็กฝึกด้วย ความสนิทสนมของสองสาวก็ก่อตัวขึ้นท่ามกลางสมรภูมิรบขนาดย่อมของเด็กสาวหลายสิบคนที่หวังจะ ‘เดบิวต์’ เป็นศิลปินหญิงกลุ่มใหม่ของวายจี พวกเธอเป็นเพื่อนที่แชร์ชีวิตช่วงแรกรุ่นไปด้วยกัน แต่ก็เป็นคู่แข่งกันด้วย “ทุกอย่างคือการแข่งขันตลอดเวลา”   ในสารคดี BLACKPINK: Light Up the Sky ลิซ่าและโรเซ่ได้พูดถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่เบ่งบานขึ้นกลางห้องซ้อมในตึกวายจี ราวกับว่าพวกเธอยังจำวันเวลาเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

“เพราะเราทั้งคู่มาจากประเทศอื่น เวลาเจอปัญหาเราก็เลยพึ่งพาอาศัยกัน”

“มีหลายครั้งที่เราเดินออกมาจากห้อง แล้วเราก็แต่งตัวเหมือนกัน”

“เวลาหนูเจอปัญหา หนูจะมองดูโรเซ่ เธอคงเป็นแบบเดียวกัน”

“ฉันนึกว่าตัวเองเศร้ามาก แต่พอเห็นเธอ ฉันจะรู้สึกโอเค”

“ฉันคิดว่าฉันจะเป็นอย่างลิซ่า เพราะว่า (ในหมู่เด็กฝึก) เธอเป็นนักเต้นระดับท็อป”

ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ลิซ่าเป็นเด็กฝึกใต้ชายคาวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่นั่นเธอต้องฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวัน วันละ 14 ชั่วโมง โดยมีการประเมินผลเพื่อให้คะแนนและคัดคนออกทุก ๆ สิ้นเดือน  

“ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เดบิวต์ แต่เราต้องสู้กับเขาแหละ เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด ดูสิว่า I จะต้อง train ไปอีกกี่ปี เอาให้มันรู้กัน”

BLACKPINK in your area

“เราเกือบไม่ได้ปล่อย WHISTLE เป็นเพลงเดบิวต์แล้ว”  

หลังจากขลุกอยู่ในสตูดิโอเพื่ออัดเสียงผิวปากในเพลง ‘WHISTLE’ ไปร่วมพันรอบ สิงหาคม ปี 2016 วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว ‘BLACKPINK’ เกิร์ลกรุปวงใหม่ในรอบเจ็ดปีตั้งแต่วงรุ่นพี่อย่าง 2ne1    ‘WHISTLE’ ไต่ขึ้นอันดับหนึ่งได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก ด้วยความติดหูของเสียงผิวปากที่แสนจะ earworm และท่วงทำนองที่ฟังง่าย เช่นเดียวกับเพลงโปรโมตที่ปล่อยออกมาพร้อม ๆ กันอย่าง ‘BOOMBAYAH’ กับท่อนจำ ‘BLACKPINK in your area’ และ ‘BOOM BOOM BA – BOOM BOOM BA – Oppa!’ พ่วงด้วยเพลง ‘Playing With Fire’ จากอีพี ‘SQUARE TWO’ ในปีเดียวกัน ทำให้ 2016 กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้งลิซ่าและสมาชิกคนอื่น ๆ ในวง  

พวกเธอโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยบทเพลง ‘DDU-DU DDU-DU’ ในปี 2018 และ ‘Kill This Love’ ในปี 2019 ที่ประกอบไปด้วยท่าเต้นและการแสดงไร้ที่ติ บุคลิกและความเป็นตัวของตัวเองของเด็กสาวทั้งสี่จับใจผู้คนมากมาย BLACKPINK กลายเป็นแบบอย่างสำหรับเด็กสาววัยฝันหลาย ๆ คน โดยเฉพาะลิซ่า ไอดอลจากประเทศไทยวัยยี่สิบต้น ๆ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กไทยคนอื่น ๆ ที่มีความฝันเดียวกันกับเธอเมื่อครั้งยังเยาว์  

“มีคนบอกหนูว่าเขาอยากเป็นเหมือนพี่ลิซ่า! เราก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเราเป็นตัวอย่างที่ดีพอไหม หนูเป็นนักร้อง แต่ว่าหนูอยากเป็นนักร้องแบบไหน หนูจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาได้ไหม หนูจะต้องทำยังไงให้เขาไม่ผิดหวัง”

เหล่านี้คือสิ่งที่ลิซ่าเฝ้าถามย้ำ ๆ กับตัวเองเสมอ   เส้นทางในฐานะศิลปินเคป็อปเต็มไปด้วยอุปสรรคและความไม่แน่นอน เด็กสาวทั้งสี่ต่างมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นของตัวเอง หลายครั้งที่ความเหนื่อยล้าและเรื่องราวในใจทำให้พวกเธอไม่สามารถยิ้มได้ แต่ทุก ๆ ครั้งลิซ่าจะอยู่ตรงนั้นเพื่อทำให้เพื่อน ๆ ของเธอสดใสขึ้นมาใหม่เสมอ จนเธอได้ฉายาว่าเป็น happy virus ของวง  

“ลิซ่าเป็นพลังงานบวกของวง ถ้าวันไหนมีคนอารมณ์ไม่ดี เธอจะทำให้คนนั้นหัวเราะ เธอคอยทำให้เรามีชีวิตชีวา” “บางครั้งหนูรู้สึกว่าหนูแสดงออกมากไปหน่อย ไม่ก็พยายามมองแง่ดีเกินไป” “แต่มันช่วยจริง ๆ นะ” “งั้นหนูจะทำต่อไป! ทำต่อนะลิซ่า!”

เล่นกับไฟใน Coachella  

“เราจะไป Coachella เหรอ? BLACKPINK นี่นะ?”   

คือคำถามแรกที่เกิดขึ้นในใจของลิซ่าเมื่อรู้ว่า BLACKPINK จะได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของโลก สำหรับเธอนั่นเป็นเรื่องน่ายินดีพอ ๆ กับน่าแปลกใจ เพราะก่อนหน้า BLACKPINK แล้ว ไม่เคยมีเกิร์ลกรุปเกาหลีวงไหนเคยขึ้นแสดงที่นั่นมาก่อน   

แม้จะตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย แต่เธอและเพื่อน ๆ ก็พร้อมแล้วที่จะบอกโลกให้รู้ว่า BLACKPINK คือใคร และพวกเธอก็ทำออกมาได้ดีมาก สำนักข่าวตะวันตกมากมายล้วนเขียนถึงเวทีของพวกเธอ จนลิซ่าถึงกับออกปากถึงเวทีนั้นว่า “This represents BLACKPINK” เลยทีเดียว  

ปัจจุบัน ปี 2020 BLACKPINK มีอัลบั้มรวมที่ชื่อว่า ‘THE ALBUM’ ที่ประกอบด้วยเพลงฮิตอย่าง ‘How You Like That’ เพลงที่ร่วมงานกับ Selena Gomez อย่าง ‘Ice Cream’ และ ‘Bet You Wanna’ เพลงที่ร่วมกับกับแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Cardi B และนอกจากนี้ยังได้ร่วมงานกับ Lady Gaga ในเพลง ‘Sour Candy’ อีกด้วย ส่วนลิซ่าเองก็ได้รับตำแหน่งแอมบาสซาเดอร์ของแบรนด์ดัง ๆ มากมาย

ไม่ว่าจะเป็น MAC หรือ CELINE อีกทั้งยังมีงานถ่ายแบบกับนิตยสารชั้นนำอยู่เรื่อย ๆ เรียกได้ว่าทั้ง BLACKPINK และลิซ่าต่างก็เป็นแสงและสีสัน ดำ - ชมพู เฉดที่น่าจับตามองในปี 2020 พวกเขาโด่งดัง ไม่เพียงในเอเชีย แต่เป็นระดับโลก ซึ่งลิซ่าเคยพูดเอาไว้อย่างมั่นใจ เมื่อพูดถึงตัวตนในโลกดนตรีของเธอ   “นี่แหละคือสิ่งที่เราอยากทำ หนูรู้ว่าเรามาถูกทาง”  

ที่มา: สารคดี Netflix : BLACKPINK: Light Up the Sky