09 ก.พ. 2566 | 13:20 น.

จี๊บ เทพอาจ กวินอนันต์ CEO, LOVEiS  ENTERTAINMENT  เปิดเผยว่า ‘ในตลอด 3 ปีที่ผ่านมาทำธุรกิจค่ายเพลงไม่ง่ายเลย เพราะรายได้หลักของการทำค่ายเพลงจะมาจากงานโชว์ตัวของศิลปิน อิเวนต์ คอนเสิร์ตต่างๆ แต่ด้วยสถานการณ์เหล่านั้นทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย และต้องปรับตัวกันอยู่ทุกวันเพื่อให้ศิลปินมีผลงานนำเสนอออกไปไม่หายหน้าไปจากแฟนๆ และในขณะเดียวกันความเปลี่ยนแปลงของมีเดียต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคก็มีผลร่วมด้วยมากๆ และแน่นอนว่าการกลับมาของธุรกิจยุคหลังโควิดจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมและยังไม่ง่ายอยู่แน่ๆ แต่ในด้านของธุรกิจความสุขและบันเทิงจะดีดกลับมาแบบดีกว่าปกติ เพราะกลุ่มคนต่างโหยหาความสนุกสนานและบันเทิงให้กับตนเอง โดยในปี 65 ที่ผ่านมา ผมต้องขอบคุณทีมของ LOVEiS  ENTERTAINMENT  ทั้งหมดที่ทำงานอย่างหนัก ปรับเปลี่ยนให้ดีที่สุดในทุกสถานการณ์ และขอบคุณศิลปินทุกคนที่เต็มที่กับทุกโอกาสที่เข้ามา ขอบคุณแฟนเพลงที่ให้การซัปพอร์ตอย่างอบอุ่น เข้าใจ และเราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ในรูปแบบธุรกิจ Music Marketing & Artist Management สร้างรายรับรวมมากกว่า 300 ล้านบาท’  
        
พิรียา ถีระวัฒนาสวัสดิ์ MD, LOVEiS  ENTERTAINMENT  เผยว่า ‘LOVEiS  ENTERTAINMENT  ภายใต้การคุมบังเหียนและบริหารของพี่จี๊บ คุณเทพอาจ กวินอนันต์นั้น ผ่านมาแล้วกว่า 4 ปี และปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของบริษัท ปี 66 นี้ค่ายเราวางจุดยืนและเป้าหมายชัดเจน พร้อมเสิร์ฟงานดนตรี กิจกรรม อิเวนต์ เฟสติวัล อัดแน่นพุ่งเข้าดิจิทัลเวิลด์เต็มตัว ไม่เพียงเท่านี้!! พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ภายใต้ Unit Business ใหม่ ที่เราไม่ใช่แค่ค่ายเพลงอีกต่อไป LOVEiS  ENTERTAINMENT  เท่ากับ DigiTainment พร้อมเดินหน้าเต็มสูบทะยานสู่เป้าหมาย 500 ล้านบาท และเป็น Core Value หลักเสริมแกร่งอุตสาหกรรมบันเทิงไทย’ 
        
เปิดโผโปรเจกต์ใหม่ในปี 66 ที่รับรองว่าแฟนเพลงจะไม่ผิดหวัง
ไม่เพียงแค่ LOVEiS ENTERTAINMENT เท่านั้น ยังมีค่ายย่อยในสังกัดอีก 7 ค่ายได้แก่ marr, PROM+, HOLYFOX, LIT ENTERTAINMENT , LABo, kiddorecords, JUICEY รวมทั้งหมด 8 ค่ายด้วยกัน ที่จี๊บ เทพอาจ วางเป้าไว้ให้เป็นผู้นำสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพลงและบันเทิงไทย