VECCHIA ROMAGNA บรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์กว่าสองศตวรรษ

Vecchia Romagna เหล้าบรั่นดีอิตาลีที่สืบทอดตำนานนานกว่าสองศตวรรษ

Vecchia Romagna ตำนานบรั่นดีอิตาลีจาก Jean Buton ในยุคนโปเลียน สู่ความละเมียดที่สืบทอดมายาวนานกว่าสองศตวรรษ

Vecchia Romagna คือบรั่นดี Italian-born ที่ขายดีที่สุดในโลกในตอนนี้ เพราะเป็นบรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าสองศตวรรษ ที่สะท้อนผ่านความหลงใหลในศิลปะการกลั่นด้วยเทคนิค Savoir-Faire ชั้นสูง ทำให้ Vecchia Romagna เป็นเสมือนงานชิ้นเอกที่สะท้อนปรัชญา และจิตวิญญาณอันประณีตแห่งช่างศิลป์จนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

เส้นทางการเดินทางของ Vecchia Romagna ย้อนกลับไปได้นานกว่า 200 ปีที่แล้ว โดยมีหมุดหมายสำคัญในปี ค.ศ. 1820 ที่แผ่นดินอิตาลี ด้วยฝีมือของรังสรรค์ของ Jean Buton (ฌอง บูตอง) ทายาทตระกูล Buton ตระกูลนามอุโฆษที่ได้รับการยอมรับเรื่องความช่ำชองในศิลปะการกลั่นอันสูงส่งจากฝรั่งเศส 

ที่มาของความเชี่ยวชาญการกลั่นของตระกูล Buton จนอาจเรียกว่าแต่ละหยดที่กลั่นออกมาเป็นเหมือนศิลปะที่ดื่มได้นั่น มาจากสืบทอดทักษะด้วยการส่งต่อวิชาการกลั่นจากรุ่นสู่รุ่นมาตั้งแต่ปี 1700 ผ่านการพัฒนาสูตรเฉพาะ และเก็บรักษาสูตรลับนี้อย่างระมัดระวังในสมุดบันทึกอันล้ำค่าที่พวกเขาเรียกว่าหนังสือ The Buton Recipe 

ทักษะเอกอุในเรื่องนี้ทำให้พวกเขาได้รับความไว้วางใจให้รับตำแหน่งซัพพลายเออร์ของราชวงศ์นโปเลียนที่ 1 แต่เมื่อระบอบการปกครองล่มสลาย Jean Buton ทายาทตระกูลบูตองผู้ที่มีความสามารถมากที่สุดจึงได้ตัดสินใจเดินทางครั้งสำคัญไปยังอิตาลี โดยไม่ลืมที่จะนำตำราสูตรอันโด่งดังของครอบครัวเล่มนี้ติดตัวไปด้วยในครั้งนั้น VECCHIA ROMAGNA บรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์กว่าสองศตวรรษ

จากองุ่นพันปีสู่ของเหลวสีอำพัน
‘ไม่มีบรั่นดีชั้นดีที่ทำจากองุ่นธรรมดา’ เป็นคำกล่าวของกูรูด้านเมรัยที่อธิบายถึงความแตกต่างของบรั่นดีแต่ละชนิดได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่าพื้นที่หนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่เหมาะสมกับการปลูกองุ่นมาช้านานคือ ประเทศอิตาลี โดยย้อนไปเมื่อ 200 ปีที่แล้ว ณ เมืองโบโลญญา เมื่อ Buton มาที่ดินแดนแห่งนี้เมื่อปี ค.ศ. 1820 เขาได้ค้นพบว่าพื้นที่นี้เหมาะอย่างที่สุดสำหรับองุ่นขาวพันธุ์ เตรบเบียโน (Trebbiano) เลยได้ตัดสินใจก่อตั้ง Buton Distelliry ขึ้นที่นี่  VECCHIA ROMAGNA บรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์กว่าสองศตวรรษ

โรงกลั่นของเขาได้นำกรรมวิธีการกลั่นอันซ้ำซ้อนมาใช้เพื่อเปลี่ยนไวน์ที่ยอดเยี่ยมเป็นบรั่นดีที่สมบูรณ์แบบ ขั้นตอนที่ลึกล้ำนี้ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตกผลึกเป็นวิธีการกลั่นที่ลงตัวเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาก โดยวิธีนี้ถูกใช้ในการผลิต Vecchia Romagna มาจากถึงทุกวันนี้ โดยแทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงวิธีการมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี ซึ่ง 3 ขั้นตอนที่สำคัญ ได้แก่ การกลั่น การบ่ม และการผสม

  1. การกลั่นไวน์ชั้นดี เป็นศิลปะชั้นสูงที่ต้องอาศัยความประณีตเพื่อให้ได้สุราที่เข้มข้นและแฝงความซับซ้อนในตัวเอง
  2. หลังจากการกลั่น ของเหลวที่ได้จะนำไปบ่มในห้องใต้ดิน ในขั้นตอนนี้จะใช้ไม้โอ๊กสองชนิดที่แตกต่างกัน ทั้งถังไม้โอ๊กฝรั่งเศส และถังไม้โอ๊กสลาโวเนีย เพื่อให้ได้กลิ่นรสที่ลงตัว
  3. ขั้นตอนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือการผสม ขั้นตอนนี้เป็นศิลปะซับซ้อนที่ต้องอาศัยการสั่งสมประสบการณ์อันยาวนาน บวกกับจินตนาการอันวิจิตรศิลป์ เพื่อรวมการกลั่นแบบต่าง ๆ จนได้ของเหลวที่มีความสมดุลที่ดีที่สุดขององค์ประกอบทั้งหมด ช่วงเวลาสำคัญของการผสม คือการ Marriage ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ โดยการผสมส่วนที่เหลือเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ในถังขนาดใหญ่เพื่อให้โตเต็มที่ก่อนบรรจุขวด

ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา Vecchia Romagna ได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยมากมายเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ของการกลั่นด้วยไวน์ชั้นดี การบ่มในถังโอ๊กจากภูมิภาคต่าง ๆ และการกลั่นในถังที่ใช้สำหรับไวน์อิตาลีชั้นเลิศ เพื่อเป้าหมายในการสร้างการจัดเก็บแบบพิเศษด้วยรสชาติเฉพาะตัวของ Vecchia Romagna

VECCHIA ROMAGNA บรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์กว่าสองศตวรรษ
เมืองแห่งบรั่นดี

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 พื้นที่ยุโรปเหมือนเป็นต้นเพลิงทำให้ความร้อนจากไฟสงครามแผดเผาออกไปรอบทิศ แม้แต่เมืองโบโลญญา ในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา อันเงียบสงบก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ 
ในปี 1943 โรงกลั่นของ Vecchia Romagna ถูกระเบิดทำลายเกือบทั้งหมด แต่โชคดีที่ห้องใต้ดินซึ่งเป็นที่เก็บรักษาน้ำอมฤตสีอำพันในถังบาริก (barrique) และถังไม้โอ๊คบางส่วนไม่เสียหาย ช่วยให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vecchia Romagna ที่สืบทอดมานานกว่าร้อยปีไม่มอดไหม้ไปพร้อมกับไฟสงคราม

เหมือนตำนานนกฟินิกซ์เกิดใหม่จากกองเถ้าถ่าน ตำนานบรั่นดี Vecchia Romagna ก็ถึงเวลาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ด้วยการก่อสร้างโรงงานสมัยใหม่ที่มีการพัฒนากระบวนการผลิตที่ทันสมัย ในปีที่ครบรอบ 150 ปี ของการก่อตั้ง สายการผลิตของ Vecchia Romagna ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจนมีขนาดใหญ่ถึง 180,000 ตารางเมตร จนที่นี่ได้ชื่อเล่นว่าเป็นเมืองแห่งบรั่นดี (La città del brandy) นอกจากจะเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตบรั่นดีอิตาลีคุณภาพเยี่ยมแล้ว ยังเป็นบรั่นดีอิตาลีอันดับหนึ่งที่จำหน่ายไปทั่วโลกในปัจจุบัน

VECCHIA ROMAGNA บรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์กว่าสองศตวรรษ
สัมผัสตำนานผ่านการชิมรส

ดื่มบรั่นดียังไงให้ถูกวิธี? คำถามที่หลายคนสงสัย เพราะแต่ละคนต่างมีวิธีการดื่มที่แตกต่างกัน บางคนเทผสมโซดา อีกไม่น้อยที่นิยมแช่เย็นจัดเพื่อความนุ่มนวล

กรรมวิธีการดื่มที่ช่วยเปิดประสบการณ์ขั้นสุดเพื่อสัมผัสตำนานบรั่นดีอิตาลีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี เริ่มด้วยการเปิดขวดทิ้งไว้เพื่อให้บรั่นดีได้สัมผัสกับอากาศเป็นการปลุกกลิ่นรสที่หลับไหลให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แล้วค่อย ๆ รินลงแก้วบรั่นดีคริสตัลที่ใสเหมือนท้องฟ้าในหน้าร้อนอย่างช้า ๆ แล้วบรรจงประคองแก้วด้วยอุ้มมือที่กระชับให้ไออุ่นจากร่างกายถ่ายเทไปยังบรั่นดี จังหวะนี้อาจยกแก้วคริสตัลให้ต้องแสงที่ช่วยให้ชื่นชมสีทองอำพันใสสะอาดอันเป็นเอกลักษณ์ของบรั่นดีชั้นยอดได้เป็นอย่างดี ซึ่งความใสของแก้วคริสตัลจะช่วยให้เห็นสีสรรอันงดงามที่ยืนยันความเป็นบรั่นดีชั้นยอดได้กระจ่าง

จากนั้นลองละเมียดบรั่นดีจิบเล็ก ๆ ทิ้งให้กระจายตัวในปากสักสองสามวินาที เพื่อให้ลิ้นสัมผัสได้แยกรสชาติอันซ่อนหลบอยู่ในบรั่นดี ก่อนจะละเมียดดื่มด่ำลงไปอย่างนุ่มนวล ขั้นตอนนี้ช่วยเปิดประสบการณ์ในเรื่องรสสัมผัสอันซับซ้อนที่ยิ่งค้างนานอยู่ในลำคอเมื่อดื่มไปแล้วนานเท่าไหร่ ยิ่งบ่งบอกได้ถึงคุณภาพที่สั่งสมผ่านระยะเวลาการบ่มที่ยาวนานเท่านั้น

Vecchia Romagna ไม่เพียงแค่เหมาะกับการดื่มแบบนี้ท (Neat) เพื่อให้เข้าถึงความบริสุทธิ์แห่งบรั่นดีอิตาลีชั้นยอดเท่านั้น แต่สามารถนำมาเป็นส่วนผสมหลักในเมนู cocktail ได้อย่างหลากหลาย เพราะรสชาติที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ของ Vecchia Romagna จะเป็นพระเอกที่ช่วยเพิ่มความรุ่มรวยให้เครื่องดื่มในแก้วหรูหราได้มากยิ่งขึ้น

VECCHIA ROMAGNA บรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์กว่าสองศตวรรษ
ไม่ว่าจะเป็นเมนู Black Collins (แบล็ค คอลลินส์) ที่ใช้ Vecchia Romagna Etichetta Nera (เอติเค็ตตา เนรา) หรือ เวคเคีย ฝาดำ เป็นพระเอก ตามด้วยบิทเทอร์ แองโกสทูรา (Angostura) ที่ขมอ่อน ๆ แต่ช่วยเพิ่มกลิ่นซิตรัสที่หวานซ่อนเปรี้ยว เติมน้ำมะนาว น้ำผึ้ง และโซดา เสิร์ฟในแก้วไฮบอล 

หรือจะเป็นเมนู Piaggio Vesper Sidecar (ปิอัจโจ เวสเปอร์ ไซด์คาร์) ที่มี เวคเคีย โรมัญญา เอติเค็ตตา เนรา ฝาดำ เป็นส่วนประกอบหลัก ผสม Amaro Montenegro ที่มีรสขมอันเป็นเอกลักษณ์ ตามด้วยน้ำผึ้ง และ น้ำเชื่อม เริ่มเขย่าทุกอย่างให้เข้ากัน เทใส่แก้วสั้นที่มีน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยส้มแห้งหันแผ่นบาง

สำหรับ Vecchia Romagna Riserva Tre botti (ริเซอวา เตร บอตติ) บรั่นดีที่ผ่านการบ่มถึงสามขั้น กลิ่นรสสัมผัสที่หนักแน่นเป็นส่วนผสมชั้นดีของ Triple Prophecy เมนูพิเศษที่ได้ชื่อจากเทพเจ้าแห่งอิตาลี เริ่มจากผสม Vecchia Romagna Riserva Tre botti ต่อด้วย Lime แต้มไซรัปวานิลลา เติมใบมินต์ และแต่งด้วย citrus twist หรือ มะนาวฝานเกลียว เสิร์ฟในแก้วโอลด์แฟชั่นทรงเตี้ยที่เตรียมนำแข็งก้อนใหญ่รอไว้ เป็นอีกเมนูที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหรา  

อีกเมนูที่แนะนำคือ Tre Botti in Manhattan (เตร บอตติ อิน แมนฮัตตัน) cocktail ที่หวานนิด ๆ แต่แฝงความร้อนแรง จากการใช้ เวคเคีย โรมัญญา ฝาทอง เติม Sweet Vermouth และ บิทเทอร์ แองโกสทูราเล็กน้อย ท๊อปด้วยโซดา แล้วคนให้เข้ากัน เสิร์ฟด้วยแก้วไฮบอล ตกแต่งด้วยส้มสไลซ์บาง และเชอร์รี่สำหรับคอกเทล

VECCHIA ROMAGNA บรั่นดีที่มีประวัติศาสตร์กว่าสองศตวรรษ
บรั่นดียิ่งเก็บไว้นานในถังบ่มยิ่งนุ่มละมุนและมีความหอมซับซ้อนอันเป็นเอกลักษณ์จากกลิ่นไม้โอ๊คที่ซึมแทรกผสมกับของเหลวสีอำพัน เหมือน Vecchia Romagna บรั่นดีชั้นเลิศจากอิตาลีที่ไม่เพียงแค่ความประณีตในการผลิต แต่ยังมีเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 200 ปี ตั้งแต่ยุคของนโปเลียน โบนาปาร์ต เรืองอำนาจทั่วยุโรป จวบจนในวันที่ ฌอง บูตอง เริ่มผลิตบรั่นดีขวดแรก

การเดินทางอันยาวนานของ Vecchia Romagna บรั่นดีอิตาลีจากฝีมือ ฌอง บูตอง ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคือ ความนุ่มละมุนแต่แฝงด้วยความหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vecchia Romagna บรั่นดีอิตาลี ที่ส่งผ่านตำนานจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นบรั่นดีอันดับหนึ่งของอิตาลีจวบจนทุกวันนี้