ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

บทสัมภาษณ์ ‘ขยล ตันติชาติวัฒน์’ กับเส้นทางครั้งใหม่กับ ‘Kingsman’ (คิงส์แมน) บาร์เบอร์สุภาพบุรุษภายใต้แนวคิด ‘The Gentlemen’s Club’

KEY

POINTS

 

ทรงผมมันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม 
แต่มันคือตัวตนของคน ๆ หนึ่ง
มันคือสิ่งที่บอกว่าคุณเป็นใครตั้งแต่ยังไม่ต้องพูด

 

บนหัวของเรานั้นปกคลุมไปด้วยเส้นผมนับแสนเส้นที่มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บ้างหยิก ตรง หยักศก หรือขด เพื่อปกป้องหนังศีรษะจากแดดและความร้อน ทว่านอกจากบทบาทในแง่ของชีววิทยาแล้ว จะกล่าวว่าเส้นผมเหล่านั้นคือสิ่งที่สำคัญลำดับต้น ๆ เมื่อกล่าวถึงบุคลิก ลักษณะ และตัวตนของคนนั้น ๆ ก็ไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย เพราะทรงผมแต่ละรูปแบบก็สื่อสารเชื่อมโยงถึงตัวตนของบุคคลนั้น ๆ ที่แตกต่างกันออกไป การจัดระเบียบ สร้างสรรค์ และกำหนดเส้นผมนับแสนนั้นจึงเป็นศิลปะที่ละเอียดอ่อนอีกทั้งยังมีอิทธิพลต่อตัวตนของเราอย่างมหาศาล

การบำรุงดูแลและตัดแต่งเส้นผมของสุภาพสตรีก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเกี่ยวกับการออกแบบทรงผมนานาแบบ มีกระบวนการและกรรมวิธีมากมายที่จะออกแบบให้เส้นผมเหล่านั้นสื่อสารความเป็นตัวตนอย่างชัดเจนที่สุดด้วยศิลปะของความเป็นซาลอน แตกต่างจากสุภาพบุรุษที่ภาพจำมักมาพร้อมกับปัตตาเลียนหรือมีดโกนที่เข้ามาทำหน้าที่จัดแต่งเส้นผมที่ยาวรกให้เข้ารูปทรงในแบบฉบับของบาร์เบอร์

ภาพจำส่วนใหญ่เมื่อนึกถึงร้านตัดผมของสุภาพบุรุษมักเชื่อมโยงกับความง่าย กระชับ และสะดวก เป็นกิจวัตรรายเดือนไม่ต่างอะไรจากการโกนหนวดหรือเครา ในขณะเดียวกันก็มีสุภาพบุรุษบางท่านที่ต้องการความละเอียดอ่อนในการดูแลทรงผมของตน พวกเขาเลยต้องก้าวเดินเข้าไปในซาลอนของสุภาพสตรี ที่ช่างตัดผมอาจมีความเชี่ยวชาญในการใช้กรรไกรตัด-ซอยมากกว่า ความแตกต่างประการนี้อาจค่อย ๆ ทำให้ศิลปะของความเป็นบาร์เบอร์ค่อย ๆ เปลี่ยนแปรกลายเป็นความกระชับและง่ายดายมากกว่าการค่อย ๆ ละเมียดบรรจงออกแบบมงกุฎที่จะเหมาะสมกับตัวตนของสุภาพบุรุษคนนั้น ๆ มากที่สุด

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

 

 

บาร์เบอร์เป็นวัฒนธรรมหนึ่งของผู้ชาย เหมือนผู้หญิงมีซาลอน 
มันคือพื้นที่ของการพูดคุย พักใจ และรีเซ็ตตัวเองก่อนกลับไปสู้ต่อ

 

ช่องว่างตรงนี้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่บ่มเพาะให้ ‘ขยล ตันติชาติวัฒน์’ อยากจะหยิบเอาศิลปะแห่งบาร์เบอร์ในการออกแบบทรงผมมาปัดฝุ่นและผนวกเข้ากับความละเมียดบรรจงและรสชาติของสุภาพบุรุษจนกลายเป็นร้านตัดผมหน้าใหม่ที่ตัวเขาเองตั้งใจก่อตั้งเพื่อเปลี่ยนให้การตัดผมที่มุ่งเน้นเพียงความกระชับฉับไวชะลอลงด้วยความละเอียดละออ รสชาติ และบรรยากาศที่ชวนให้หวนนึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษแบบคลาสสิกและทำให้รสชาติของความเป็นบาร์เบอร์กลับมาเข้มข้นขึ้นอีกครั้ง

แม้ชื่อของ ‘ขยล ตันติชาติวัฒน์’ จะถูกจดจำในบทบาทสายธุรกิจ–เทคโนโลยี ผู้ขับเคลื่อนโปรเจกต์และไอเดียใหม่ ๆ ที่เชื่อมงานบริหารกับการออกแบบประสบการณ์ชีวิตเมืองกับ ‘เมทเธียร์’ (Metthier) แต่วันนี้ The People จะมาพูดคุยกับเขาในเรื่องราวของการผู้ก่อตั้ง ‘Kingsman’ (คิงส์แมน) ที่ตั้งใจชุบชีวิตศิลปะบาร์เบอร์ให้เป็น ‘The Gentlemen’s Club’ พื้นที่ที่ผสมความละเมียดของงานช่างกับบริการแบบใส่ใจ เพื่อให้ผู้ชายได้กลับมาดูแล ‘มงกุฎแห่งตัวตน’ แล้วก้าวออกไปด้วยความมั่นใจที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

 

จากความเรียบง่าย
สู่ศิลปะของสุภาพบุรุษ

 

ผู้ชายแต่ละคนมีสไตล์ของตัวเอง คนหนึ่งอาจจะมีลุคเซอร์ ๆ หน่อย อีกคนอาจจะต้องดูเนี้ยบเพราะทำงานด้านธุรกิจหรือการเมือง ผมว่าทรงผมมันสะท้อน personality ได้ชัดมาก” 

 

ในสายตาของขยล ตันติชาติวัฒน์ ‘ทรงผม’ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องความสวยงาม แต่เป็นศิลปะที่บอกได้ว่าคน ๆ นั้นคือใคร เขามองว่าการ ‘grooming’ เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องทำ แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ ‘ประสบการณ์’ ที่จะทำให้การตัดผมไม่ได้เป็นเพียงกิจวัตรอันจำเจ ทว่าเป็นช่วงเวลาที่ผู้ชายได้กลับมาใส่ใจตัวเองอีกครั้ง

ทุกคนต้องตัดผมอย่างน้อยเดือนละครั้ง แต่ผมมองว่า มันไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำเพราะต้องทำ เราควรจะรู้สึกดีที่ได้ทำ” เขาเล่า ก่อนจะขยายความว่าจุดเริ่มต้นของ Kingsman มาจากการตั้งคำถามง่าย ๆ ว่า 

 

ทำไมร้านตัดผมผู้ชายส่วนใหญ่ถึงไม่ให้ความรู้สึกพิเศษเหมือนซาลอนของผู้หญิง?

 

ในขณะที่ซาลอนถูกออกแบบให้เต็มไปด้วยรายละเอียดและการบริการแบบพิถีพิถัน ร้านบาร์เบอร์กลับกลายเป็นภาพแทนของความเร่งรีบและความสะดวก จนเสน่ห์ของการตัดผมอย่างละเมียดละไมเริ่มเลือนหาย ขยลจึงอยากคืนชีวิตให้ศิลปะนี้อีกครั้ง  ไม่ใช่แค่ให้กลับมามีรูปแบบ แต่ให้กลับมามี ‘ความหมาย

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

 

ผมอยากให้การตัดผมของผู้ชายมีเสน่ห์เฉพาะตัว อยากให้บาร์เบอร์เป็นที่พูดคุย เป็นที่พักใจ เป็นวัฒนธรรมของสุภาพบุรุษ

จากความตั้งใจนั้น Kingsman จึงถือกำเนิดขึ้นในฐานะพื้นที่ที่หลอมรวมระหว่างความพิถีพิถันแบบซาลอนกับความเรียบง่ายอบอุ่นแบบบาร์เบอร์ และทุกครั้งที่ลูกค้าเดินออกจากร้าน พวกเขาจะรู้สึกถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง

 

เมื่อร้านตัดผมไม่ใช่แค่การตัดผม

จากประสบการณ์การทำงานด้านธุรกิจและเทคโนโลยี เขาเชื่อในหลัก service design ที่ว่า “รายละเอียดเล็ก ๆ คือหัวใจของประสบการณ์ใหญ่” เพราะฉะนั้น ทุกอย่างใน Kingsman จึงถูกเลือกอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่เก้าอี้ตัดผมระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่น ไปจนถึงกรรไกรจากโรงงานซามูไร หรือครีมโกนหนวดจากอังกฤษ ทุกสิ่งถูกคัดสรรเพื่อตอบโจทย์คำเดียวที่เขาย้ำอยู่เสมอว่า “ต้องดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ผมเรียกตัวเองว่าเป็น ‘The Best Selector’ ครับ ทุกอย่างในร้านต้องผ่านการเลือกด้วยมือเราเอง ตั้งแต่เครื่องมือ ช่าง ไปจนถึงเครื่องดื่มให้ลูกค้า

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

 

แต่ความ ‘ดีที่สุด’ สำหรับเขา ไม่ได้หมายถึงราคาแพงหรือหรูหราเกินเอื้อม หากหมายถึง การออกแบบให้ประสบการณ์ทุกขั้นตอนสอดคล้องกับตัวตนของลูกค้าแต่ละคน ลูกค้าที่อยากจิบวิสกี้ก่อนตัดผมก็สามารถเลือกได้ ลูกค้าที่ต้องการความเงียบหรือความเป็นส่วนตัวก็มีห้องเฉพาะสำหรับเขา

บางคนหากต้องการยกระดับความเป็นส่วนตัวไปอีกขั้นก็สามารถที่จะมี ‘อุปกรณ์เฉพาะตัว’ ของตัวเองได้ ตั้งแต่กรรไกร มีดโกน หรือแปรงที่จัดเก็บไว้ในกล่องพิเศษ ราวกับเป็นชุดเครื่องมือประจำตัวสายลับของ Kingsman โดยมีชื่อสลักอยู่บนกระเป๋าแต่ละใบอีกด้วย

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

 

สำหรับขยล การบริการคือศิลปะ และ Kingsman คือแกลเลอรีที่รวมองค์ประกอบทั้งหมดไว้เพื่อสร้างความรู้สึกหนึ่งเดียว เขาไม่ได้อยากให้ลูกค้าแค่ตัดผมเสร็จแล้วกลับบ้าน แต่ให้รู้สึกว่าทุกวินาทีที่อยู่ในร้านคือช่วงเวลาของตัวเองจริง ๆ

ผมอยากให้คนมาที่นี่ด้วยความตั้งใจ เพื่อรับประสบการณ์ที่ดีที่สุด รู้สึกว่าทุกครั้งที่มา มันคุ้มค่าทั้งเวลาและความรู้สึก

 

The Gentlemen’s Club

คำว่า ‘ร้านตัดผม’ อาจจะเล็กเกินไปในการนิยาม เพราะ Kingsman คือพื้นที่ที่ออกแบบขึ้นเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะ สถานที่ที่คุณสามารถเข้ามาแล้วสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว ความสบาย และความสงบ ห้องบริการถูกจัดวางให้เป็นสัดส่วน สายตาภายนอกไม่รบกวน จังหวะเสียง เพลง และแสงถูกคุมให้พอดีเพื่อให้รู้สึกเหมือนอยู่ในพื้นที่ของตัวเองจริง ๆ

ห้องตัดผมของ Kingsman มีทั้งสองรูปแบบ แบบที่แยกเดี่ยวโดยมีผ้าม่านกั้น และแบบที่สุภาพบุรุษสองคนสามารถรับบริการไปพร้อม ๆ กันได้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว มิตรสหาย หรือแม้แต่เพื่อนธุรกิจ ที่ได้มาพูดคุย สานสัมพันธ์ หรือตกลงงานกัน ขยลยกตัวอย่างว่าบางคนเมื่อเติบโตขึ้นอาจมีโอกาสพูดคุยกับพ่อของตัวเองน้อย การมาตัดผมร่วมกัน ก็เหมือนการได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกัน และได้พูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ ที่อาจจะไม่มีโอกาสบ่อยนัก 

สิ่งนี้เปรียบเสมือนการสร้าง Quality Time ระหว่างพ่อกับลูก หรือแม้แต่การใช้เวลาร่วมกันระหว่างคนสามรุ่น ตั้งแต่ปู่ พ่อ ไปจนถึงลูก นอกจากนั้นเราก็ไม่ได้มีแค่บริการตัดผม แต่ยังมีบริการอื่น ๆ อย่าง Hair Detox, Hair Spa, หรือ Hair Coloring ที่ทำให้เราได้มีโอกาสมาพบปะสานสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและดูแลตัวเองไปพร้อมกันมากขึ้น

บรรยากาศของ Kingsman ถูกทำให้มีมิติของ ‘คลับ’ ผ่านวิธีต้อนรับและมารยาทการบริการ ช่างสื่อสารได้ลื่นทั้งไทยและอังกฤษ ช่วยแนะนำทรงผมที่เหมาะกับบุคลิก ใครอยากผ่อนคลายก่อนเริ่มตัดก็สามารถจิบวิสกี้หนึ่งแก้วเพื่อปรับอารมณ์ ทั้งหมดนี้ตั้งใจให้ช่วงเวลาที่อยู่ในร้านเป็นช่วงที่คุณไม่ต้องเร่งรีบ

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

 

ความเป็นคลับในความหมายของขยลไม่ได้วัดด้วยความหรูหรา แต่ด้วยความละเมียดของรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกได้รับการเคารพในตัวตนของเขาเอง เหมือนกับการได้ปรับสมดุลจังหวะชีวิตที่สอดไส้อยู่ในกิจกรรมธรรมดา ๆ อย่างการ ‘ตัดผม

การเลือกสถานที่ตั้งอย่าง ‘Velaa Langsuan’ ก็รับใช้แนวคิดเดียวกัน พื้นที่สงบ เดินถึงง่าย รายล้อมด้วยชุมชนที่มีกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ทำให้การมา Kingsman เป็นจุดหมายที่มอบประสบการณ์ครบถ้วนภายในพื้นที่เดียว หรือแม้แต่เป็นสถานที่เพื่อตระเตรียมความพร้อมก่อนจะมีนัดดินเนอร์สำคัญหรือเดินทางไปพบปะร่วมงานเป็นลำดับต่อไป

ผมเลยมองว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านตัดผมแล้ว มันคือที่ที่ทำให้ผู้ชายได้ดูแลตัวเองในหลากหลายมิติ มันคือการ grooming

 

ทำไมต้อง KINGSMAN?

เวลาที่ได้ยินชื่อ Kingsman หลายคนอาจนึกถึงภาพของสายลับผู้สง่างามจากภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน แต่สำหรับขยล ความหมายของมันลึกและจริงกว่านั้น เขาเลือกชื่อนี้เพราะอยากให้สะท้อน “จิตวิญญาณของสุภาพบุรุษผู้รับใช้ในอุดมการณ์ของความดีงาม” ไม่ใช่ความหรูหราโอ่อ่า หากคือความภาคภูมิในหน้าที่ของตัวเอง เหมือน ‘อัศวินของพระราชา’ (Kingsmen) จากประเทศอังกฤษที่ทำสิ่งเล็ก ๆ ให้ดีที่สุดในทุกวัน 

จากแนวคิดนั้น Kingsman ถูกวางให้เป็นแบรนด์ที่เชื่อในปรัชญา Offering the Best หรือการมอบสิ่งที่ดีที่สุด ทุกองค์ประกอบในร้านจึงเกิดจากการคัดเลือกอย่างละเอียด ตั้งแต่เครื่องมือ วัสดุ ไปจนถึงประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ ขยลอธิบายว่า “สิ่งสำคัญไม่ใช่จำนวนบริการ แต่คือการคัดสิ่งที่ดีที่สุดมารวมกัน แล้วค่อยเติมสิ่งที่ลูกค้าอยากได้มากกว่าเดิม” แนวคิดนี้ทำให้ Kingsman เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ เรียนรู้จากลูกค้าจริง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’

 

ในมุมของเขา Kingsman ไม่ได้เป็นเพียงร้านตัดผมหรือคลับสำหรับผู้ชาย แต่คือ ‘สถานีผ่อนคลาย’ เล็ก ๆ สำหรับคนเมืองที่เต็มไปด้วยจังหวะชีวิตเร่งรีบอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนจุดพัก ที่ผู้ชายจะได้ช้าลงเล็กน้อย ได้จัดระเบียบความคิดก่อนกลับไปใช้ชีวิตต่อ 

ชีวิตคนเรามีแต่จะเร็วขึ้น ผมอยากสร้างที่ที่ช่วยให้เขากลับมาช้าลงได้บ้าง แล้วออกไปด้วยพลังใหม่

ท้ายที่สุด ขยลไม่ได้คาดหวังให้ Kingsman เป็นเพียงธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในตัวเลข แต่หวังให้มันเป็น “พลังเล็ก ๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตคนได้” เขาเชื่อว่า การดูแลตัวเองไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือจุดเริ่มต้นของพลังบวกที่ส่งต่อไปยังคนรอบข้าง 

จากศิลปะของการจัดแต่งเส้นผมนับแสนนั้น สู่การออกแบบ ‘มงกุฎแห่งตัวตน’ ให้สุภาพบุรุษแต่ละคนได้ค้นพบความมั่นใจในแบบของตัวเอง Kingsman คือการชุบชีวิตศิลปะแห่งบาร์เบอร์ให้กลับมามีความหมายอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ในแง่ความงาม แต่ในฐานะพื้นที่ที่ช่วยให้ผู้ชายได้ดูแลตัวเองทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณของคำว่า ‘สุภาพบุรุษ’ อย่างแท้จริง

 

ขยล ตันติชาติวัฒน์ : ชุบชีวิตศิลปะบนมงกุฎสุภาพบุรุษกับ ‘Kingsman’