02 ธ.ค. 2568 | 15:26 น.

หลังชาวบ้านยังลำบากหนักแม้น้ำลดจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชีวิต ทรัพย์สิน และการดำรงชีพของประชาชนจำนวนมาก เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และบริษัทในเครือจึงระดมทุกภาคส่วนเข้าร่วมภารกิจช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง แม้น้ำในหลายพื้นที่ลดระดับลงแล้ว แต่สภาพบ้านเรือนและทรัพย์สินที่เสียหาย จึงทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงมีพนักงานซีพีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ครั้งนี้
ดังนั้น ภายใต้ภารกิจ "ซีพีอาสาร้อยเรียงความดีช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้" ซีพีจึงได้ผนึกกำลังทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ อาทิ ซีพีเอฟ, ซีพี ออลล์, ซีพี แอ็กซ์ตร้า, ทรู คอร์ปอเรชั่น และ เพอร์เฟค คอมพาเนียน ข้าวตราฉัตร เดินหน้าสนับสนุนการช่วยเหลือในทุกมิติ ตั้งแต่การจัดส่งวัตถุดิบอาหารสด อาหารปรุงสุกพร้อมทาน ไข่ไก่ เครื่องปรุง เบเกอรี่ น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย มือถือ ซิม True สำหรับการสื่อสาร รวมถึงรถ–เรือ–และอุปกรณ์กู้ภัย เพื่อสนับสนุนโรงครัวของหน่วยงานรัฐ ภาคีเครือข่าย และมูลนิธิต่าง ๆ พร้อมกันนี้ยังสนับสนุนภารกิจโดรนบรรทุกของ โดยทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อลำเลียงสิ่งของจำเป็นสู่ชุมชนที่ถูกตัดขาดจากน้ำท่วม รวมถึงเร่งกระจายถุงยังชีพจากซีพีอาสากว่า 6,000 ชุด สู่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบในหลายจังหวัด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชนให้สามารถประคับประคองชีวิต และเริ่มต้นฟื้นฟูบ้านเรือนได้โดยเร็ว
ล่าสุด ผู้บริหารพร้อมพนักงานซีพีอาสาจากทุกกลุ่มธุรกิจ ยังคงดำเนินภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้หลังน้ำลด นำโดย นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และศิลปินจิตอาสา อย่าง นายวิวิศน์ บวรกีรติขจร หรือ ตี่ เอเอฟ และ นายทิฏฐินันท์ อ้นปาน หรือ เบสท์ The Voice ร่วมแพ็คถุงกำลังใจเพิ่มอีกจำนวน 1,000 ชุด โดยถุงกำลังใจ (ถุงยังชีพ) ทั้งหมดนี้ทีมงานซีพีอาสาคัดเลือกสิ่งของจำเป็นและบรรจุลงถุงอย่างประณีต ซึ่งประกอบไปด้วย ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด ถุงดำ ผ้าอเนกประสงค์ แปรงขัดพื้น และหน้ากากอนามัย พร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างไม้กวาดทางมะพร้าวอีก 2,000 ด้าม เพื่อส่งต่อให้กับผู้ประสบภัย พนักงานเครือซีพีและอาสาสมัครกู้ภัยนำไปใช้ในการฟื้นฟูบ้านเรือนต่อไป
นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า "เมื่อซีพีอาสาลงพื้นที่ เราเห็นทันทีว่าหลังน้ำลด สิ่งที่หลงเหลืออยู่ไม่ใช่เพียงคราบโคลนหรือซากข้าวของ แต่คือบ้านที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้และครอบครัวที่ยังขาดปัจจัยพื้นฐาน เราจึงเร่งระดมพนักงานจากหลายบริษัทมาช่วยกันแพ็ค 'ถุงกำลังใจ ซีพีร้อยเรียงความดี' ที่คัดมาจากความจำเป็นจริงๆ ในหน้างาน ตั้งแต่ผงซักฟอก แปรงทำความสะอาด หน้ากากอนามัย ไปจนถึงถุงขยะเพื่อให้ชุมชนสามารถเริ่มฟื้นฟูบ้านเรือนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอของขาดตลาด ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนดีเอ็นเอของคนซีพีอย่างแท้จริง เรายึดหลัก '3 ประโยชน์' มาตลอดว่าเมื่อประเทศชาติและประชาชนเดือดร้อน เราจะไม่ยืนนิ่งดูดาย ถุงกำลังใจหลายพันชุดที่ส่งไปก่อนหน้า รวมถึงอีกกว่า 1,000 ชุด ในครั้งนี้คือพลังจากเพื่อนพนักงานล้วน ๆ ที่ต้องการบอกพี่น้องภาคใต้ว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว เราจะอยู่เคียงข้างกันจนกว่าบ้านเรือนและชีวิตจะกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง"
นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ผู้บริหารสูงสุดด้านความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า "ตลอดระยะเวลาหลังเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดทีม "ซีพีอาสา" ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดภารกิจ "ซีพีอาสา" หลังน้ำลดครั้งนี้เป็นตัวอย่างของการขับเคลื่อนความยั่งยืนที่ "เริ่มต้นจากคน" ตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์"
"ความยั่งยืนของซีพีเริ่มจากการช่วยให้ประชาชนกลับมายืนได้ก่อน เมื่อคนยังเดือดร้อน ชุมชนและเศรษฐกิจก็เดินหน้าต่อไม่ได้ การสนับสนุนถุงกำลังใจกว่า 6,000 ถุง และการทุ่มเทของพนักงานหลายร้อยคนตลอดช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลด คือการช่วยให้สังคมฟื้นตัวอย่างแท้จริง สะท้อนการยึดหลัก 3 ประโยชน์—ประเทศ ประชาชน และองค์กร โดยที่ผ่านมาได้ร่วมทำงานกับหลายภาคี ทั้งศูนย์พักพิง หน่วยงานท้องถิ่น โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ รวมถึงภาครัฐและองค์กรจิตอาสา มีส่วนสำคัญช่วยให้การกระจายสิ่งของเป็นไปอย่างรวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มเปราะบาง และตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของพื้นที่ประสบภัยได้อย่างตรงจุด น้ำท่วมเป็นวิกฤตที่ไม่มีใครรับมือได้เพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซีพีอาสาจะยังคงทำงานเคียงข้างภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อช่วยให้ประชาชนก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้และกลับมาดำเนินชีวิตได้โดยเร็วที่สุด" นายจอมกิตติ กล่าวเพิ่มเติม
นายณัฐพล ภู่แสง หนึ่งในผู้ประสบภัยที่ได้รับผลจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ซึ่งมีบ้านอยู่ในพื้นที่ใกล้กับทะเลสาบสงขลา จังหวัดพัทลุง เผยว่า "บ้านของตนเองนั้นถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก การได้รับถุงยังชีพพร้อมกับวัตถุดิบอาหารสดจากซีพีในครั้งนี้ถือว่าช่วยต่อชีวิตให้กับตนเองรวมไปถึงลูกบ้านคนอื่นๆ ได้อีกมาก เพราะที่หมู่บ้านมีการทำโรงครัวเพื่อไว้ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากยังคงมีอีกหลายพื้นที่ที่น้ำยังท่วมขังอยู่ และเพราะมีซีพีอาสาที่เข้ามาช่วยดูแลและช่วยเหลือในยามที่เดือดร้อน ทำให้ทุกคนมีกำลังใจพร้อมที่จะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน"
นางสาวชญานี บุญสน ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และแผนงานการปฏิบัติการเพื่อสังคมและความยั่งยืนทางทะเล เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า "เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อบ้านของตนเองอย่างหนัก จนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทำให้ครอบครัวสามารถย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้ทันเวลา หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงตั้งใจกลับมาร่วมทำงานเป็น 'ซีพีอาสา' ลงพื้นที่กระจายถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย รวมถึงเพื่อนบ้านในชุมชนของตนเอง เพราะช่วงที่ลำบาก ทุกคนต่างช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ และเมื่อมีโอกาส ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความช่วยเหลือนั้นกลับคืนไป"
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า "ถุงกำลังใจที่บริษัทฯ มอบให้ ไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ยากลำบาก แต่ยังเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ผู้ประสบภัยรู้ว่ายังมีซีพีและเพื่อนพนักงานอยู่เคียงข้างเสมอ"
นายศิวกร ศรีสุวรรณศักดา พนักงานซีพีอาสา จาก True หนึ่งในซีพีจิตอาสาที่มาช่วยแพ็คถุงกำลังใจ กล่าวว่า "รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้และครอบครัวชาวซีพี เพราะตั้งแต่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้มาตั้งแต่แรกก็เข้าใจความรู้สึกที่ทุกคนต้องเผชิญกับวิกฤตที่ถือว่าหนักมาก หวังว่าการช่วยเหลือในของชาวซีพีอาสาจะสามารถบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวใต้ได้ และอยากฝากบอกเพื่อนพนักงานที่ประสบภัย หรือมีครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเข้มแข็ง และจับมือกันผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน"
นายรณชิต แจ่มศิริทรัพย์กุล พนักงานซีพีอาสา จาก ซีพีเอฟ เปิดใจว่า "รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการใช้พลังที่มีมาช่วยเหลือแม้จะอยู่ห่างไกลจากพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ส่วนตัวมีลูกน้องในทีมที่บ้านอยู่หาดใหญ่และประสบภัยในพื้นที่ด้วย ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงการจัดเก็บและซ่อมแซมบ้าน จึงอยากส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวใต้และเพื่อนพนักงานทุกคน ให้ "สู้ ๆ" และหวังว่าจะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้"