‘มงต์บลองค์’ เปิดตัวแคมเปญระดับโลก ‘The Journey: Let’s Write’ 

‘มงต์บลองค์’ เปิดตัวแคมเปญระดับโลก ‘The Journey: Let’s Write’ 

‘มงต์บลองค์’ เปิดประตูสู่การเดินทางบทใหม่ของการเขียน ด้วยแคมเปญระดับโลก ‘The Journey: Let’s Write’ ที่เนรมิต The Glass House ปาร์คนายเลิศ ให้กลายเป็นโลกแห่งเรื่องเล่าและงานฝีมืออันประณีต ผ่านประสบการณ์ Immersive ที่พาผู้ร่วมงานย้อนรอยร้อยกว่าปีของแบรนด์ ตั้งแต่ Chamonix ถึง Hamburg และจาก Florence มาสู่กรุงเทพฯ เพื่อย้ำว่าความหมายของการเขียนคือการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด การเดินทางกลับสู่ตัวตนของเราเอง

ค่ำคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน The Glass House ปาร์คนายเลิศ ถูกแปลงโฉมให้เป็นดินแดนแห่งการเดินทางและการเขียน เมื่อ ‘มงต์บลองค์’ (Montblanc) แบรนด์งานฝีมือชั้นสูงจากเยอรมนี เปิดตัวแคมเปญระดับโลก ‘The Journey: Let’s Write’ พร้อมจัดงานเฉลิมฉลองสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Montblanc Voyage of Panorama’ ถ่ายทอดพลังของการเล่าเรื่อง ผ่านประสบการณ์แบบ Immersive ที่ผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของแบรนด์ไว้อย่างกลมกลืน

มงต์บลองค์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1906 จากแนวคิดของ ‘ออกุสต์ เอแบร์ชไตน์’ (August Eberstein) และ ‘อัลเฟรด เนเฮไมอัส’ (Alfred Nehemias) ผู้ต้องการพัฒนาปากกาหมึกซึมที่มีมาตรฐานสูงและใช้งานได้อย่างเชื่อถือได้ ก่อนที่บริษัทจะเติบโตขึ้นภายใต้ฐานปฏิบัติการที่ฮัมบูร์ก เมืองที่ยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องเขียนของแบรนด์จนถึงปัจจุบัน

ปี 1913 คือหมุดหมายสำคัญ เมื่อ มงต์บลองค์ เปิดตัวสัญลักษณ์ ‘ดาวหกแฉก’ สีขาว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากปลายยอดเขา Mont Blanc ที่ปกคลุมด้วยหิมะ กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้ใช้ทั่วโลกจดจำ

ต่อมาในปี 1924 การเปิดตัวรุ่น ‘Meisterstück’ ทำให้แบรนด์ก้าวขึ้นสู่สถานะไอคอนระดับโลก ด้วยงานฝีมือประณีต ความเที่ยงตรง และการประกอบด้วยมือที่ยังคงเป็นหัวใจของการผลิตมาจนถึงปัจจุบัน

จากรากฐานด้านเครื่องเขียน มงต์บลองค์ ขยายไปสู่งานเครื่องหนังที่ฟลอเรนซ์ และเรือนเวลาที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ละหมวดผลิตภัณฑ์ยังคงยึดหลักเดียวกัน คือ “เลือกสถานที่ที่ดีที่สุด และช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญที่สุดสำหรับงานนั้น” ทำให้แบรนด์ค่อย ๆ สร้างจักรวาลของงานฝีมือครบวงจรที่มีความหมายลึกกว่าความหรูหรา

ภายในงาน Voyage of Panorama ประสบการณ์ของแขกผู้มีเกียรติเริ่มต้นกันที่ ‘โถงสถานีรถไฟจำลอง’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์สั้น ‘Let’s Write’ ของผู้กำกับระดับโลก ‘เวส แอนเดอร์สัน’ (Wes Anderson) ผลงานที่เต็มไปด้วยสีสัน จินตนาการ และอารมณ์ขัน ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในมิลานเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา

‘มงต์บลองค์’ เปิดตัวแคมเปญระดับโลก ‘The Journey: Let’s Write’ 

ไฮไลต์ของค่ำคืน คือดินเนอร์แบบ Immersive ที่สร้างฉากรถไฟจำลอง ‘Voyage of Panorama’ พาผู้ร่วมงานเดินทางผ่านสี่สถานที่สำคัญในประวัติแบรนด์ เริ่มจาก Chamonix – แหล่งแรงบันดาลใจของสัญลักษณ์ยอดเขา, Hamburg – บ้านของเครื่องเขียนมงต์บลองค์, Florence – แหล่งงานเครื่องหนังชั้นสูง และ Bangkok – เมืองเจ้าภาพ และเส้นทางของแบรนด์ในเอเชีย

ระหว่างมื้ออาหาร พนักงานรถไฟที่รับบทเป็น conductor storyteller ถ่ายทอดเรื่องราวแต่ละเมืองอย่างมีชั้นเชิง ทำให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสความหมายของ ‘การเดินทาง’ มากกว่าการเคลื่อนที่ แต่คือการย้อนกลับสู่ต้นกำเนิดและก้าวสู่บทใหม่ของแบรนด์

ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็น ปากการุ่นลิมิเต็ดเอดิชันจาก Masters of Arts, Writers Edition, และ Great Characters, นาฬิการุ่น Montblanc 1858 Automatic Date 0 Oxygen และ คอลเล็กชันเครื่องหนัง Fall/Winter 25 เช่น Writing Traveller Document Case, Companion Crossbody และ Backpack

‘มงต์บลองค์’ เปิดตัวแคมเปญระดับโลก ‘The Journey: Let’s Write’ 

นอกจากนี้แขกยังร่วมกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ The Journey: Let’s Write ได้แก่ การจดบันทึกการเดินทางแบบ Travel Journaling และการเขียนจดหมายถึงตัวเองในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ซึ่ง มงต์บลองค์ จะจัดส่งคืนให้ในอนาคต เป็นการย้ำว่าการเขียนไม่ใช่เพียงการบันทึก แต่คือการทบทวนตัวตนในช่วงเวลาที่โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน

การจัดงานครั้งนี้ตอกย้ำบทบาทของเอเชีย โดยเฉพาะกรุงเทพฯในฐานะตลาดสำคัญของแบรนด์ที่เติบโตต่อเนื่อง ทั้งในหมู่ผู้ประกอบการ สร้างสรรค์ และผู้ใช้ที่เห็นคุณค่าของงานเขียนและงานฝีมือ

การปรากฏตัวของ ‘ฌ็อง-เซบาสเตียง เฌอร็องโด’ (Jean-Sebastien Gerondeau) ประธานมงต์บลองค์ภูมิภาคเอเชียใต้ ที่เดินทางมาร่วมงานและกล่าวเปิดงานด้วยตนเอง ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ในการวางกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งใน ‘สถานีสำคัญ’ ของการเดินทางระดับโลก

ค่ำคืนนั้น จึงไม่ใช่เพียงงานเปิดตัวแคมเปญ หากเป็นบทสรุปของเส้นทางที่เริ่มต้นจากเวิร์กช็อปเล็กๆ ในปี 1906 สู่แบรนด์ที่มีบทบาทในวัฒนธรรมร่วมสมัยระดับโลก มงต์บลองค์ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า ‘ความหรูหรา’ ไม่ได้เกิดจากราคา แต่เกิดจากความหมายที่อยู่เบื้องหลังวัตถุแต่ละชิ้น ความตั้งใจของช่างฝีมือ และคุณค่าของการเขียนซึ่งยังคงร่วมสมัยเสมอ

แคมเปญ The Journey: Let’s Write จึงเป็นคำชวนให้ผู้คนกลับมามอง ‘การเขียน’ ในฐานะพื้นที่ของการค้นหาตัวตน และเป็นการเดินทางที่ยังไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ฮัมบูร์ก ฟลอเรนซ์ หรือกรุงเทพมหานคร