14 ต.ค. 2568 | 18:40 น.
ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน “ชาบูชิ” (Shabushi) เดินหน้าพัฒนาและยกระดับคุณภาพทั้งในด้านสินค้า บริการ และประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Good Taste Great Time Never End” หรือ “รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด” เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่ม “ทางเลือก” ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าและทุกโอกาสการบริโภค
กลยุทธ์สำคัญที่ถูกนำมาใช้ในปีนี้ หนึ่งในนั้นคือ “Segmentation Marketing” หรือ กลยุทธ์การตลาดแบบแยกกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน ซึ่งมุ่งทำความเข้าใจความแตกต่างด้านพฤติกรรมและทำเล (Location-Based Behavior) ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เพื่อออกแบบประสบการณ์ที่เหมาะสมและตรงใจ โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก ได้แก่ สาขาใน “ห้างสรรพสินค้า” (Department Store) และสาขาใน “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” (Hypermarket) ซึ่งแต่ละเซกเมนต์ได้รับการพัฒนาให้มีจุดขายและเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ชาบูชิ สาขาใน “ห้างสรรพสินค้า” = Lifestyle & Experience
สำหรับสาขาในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์เชิงไลฟ์สไตล์ ชาบูชิ ได้พัฒนาและเปิดตัว “ร้านดีไซน์ใหม่” เพื่อยกระดับประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นในมิติที่เหนือกว่า ทั้งด้านอาหาร บริการ และบรรยากาศ โดยชูจุดเด่นสำคัญอย่าง “Sushi-Master Station” ครัวเปิดที่ให้ลูกค้าได้ชมทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์ซูชิอย่างสดใหม่ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ ไปจนถึงการจัดเสิร์ฟอย่างประณีต ซึ่งช่วยสร้างทั้งความมั่นใจในคุณภาพและความประทับใจในทุกมื้ออาหาร
ในด้านบริการ ชาบูชิ ยังคงนำเสนอทางเลือกบุฟเฟต์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างครอบคลุม โดยมี 3 ระดับ ได้แก่
ซึ่งแต่ละคอร์สออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า ทั้งในด้านความหลากหลาย คุณภาพ และความคุ้มค่า
ปัจจุบัน ร้านดีไซน์ใหม่เปิดให้บริการแล้วในหลายพื้นที่ ประกอบด้วย ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น G (สาขานำร่อง), เซ็นทรัล ขอนแก่น, มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน, เกตเวย์ เอกมัย, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล ศาลายา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล นครศรีธรรมราช, จังซีลอน ภูเก็ต และเร็ว ๆ นี้ที่ เซ็นทรัล กระบี่ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายและปรับโฉมร้านดีไซน์ใหม่ในสาขาหลักทั่วประเทศ โดยเน้นศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อสร้างภาพจำแบรนด์ใหม่ให้ชัดเจนและทันสมัยในระดับประเทศ
ชาบูชิ สาขาใน “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” = Value & Convenience
ขณะที่สาขาในไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” และ “ความสะดวกสบาย” ชาบูชิ ได้ออกแบบกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการด้านราคาและความยืดหยุ่นในการเลือกบริโภค โดยเปิดตัวบุฟเฟต์ใหม่ “ซูเปอร์คุ้ม” 259 บาท+ (บุฟเฟต์หมูหมู) ฟินคุ้มเมนูชาบู–ชาบู เนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น และผักสดอิ่มครบ พร้อมเมนูอาหารรับประทานเล่น ผลไม้ ไอศกรีม และเครื่องดื่มรวมกว่า 50 เมนู
มาพร้อมทางเลือกอัปเกรด “คุ้มพลัส” 39 บาท+ เพียงจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย ก็สามารถเพิ่มความอร่อยด้วย 9 เมนูสุดฮิต ทั้งกุ้งสด เนื้อฮารามิ เนื้อสไลซ์ และซีฟู้ดหลากชนิด เพื่อให้ลูกค้าเลือกความคุ้มค่าตามงบประมาณและรสนิยมได้อย่างอิสระ
ขณะเดียวกัน ชาบูชิ ยังคงให้บริการบุฟเฟต์ “สุขอิ่ม” 399 บาท+ สำหรับลูกค้าประจำที่ต้องการประสบการณ์เต็มรูปแบบ ทั้งชาบู–ชาบู ซูชิ และเมนูอาหารรับประทานเล่น เช่น กุ้งเทมปุระ ผลไม้ ไอศกรีม และเครื่องดื่มรวมกว่า 70 รายการ
พร้อมให้บริการแล้วกว่า 72 สาขาทั่วประเทศ โดย ชาบูชิ สาขาในไฮเปอร์มาร์เก็ต ครอบคลุมทำเลหลัก เช่น บิ๊กซี, โลตัส และคอมมูนิตี้มอลล์ต่าง ๆ
(ดูสาขาที่ร่วมรายการได้ที่ https://oishifood.com/page/shabushi-buffet259)
ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568 เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างความคึกคักให้ตลาดร้านอาหารช่วงปลายปี