11 เม.ย. 2567 | 13:05 น.
KEY
POINTS
ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีของไทย เดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปี 2573 และองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 เปิด “True Supplier Forum 2024 : Transition to Net Zero” รุกผสานความร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าหลักสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เร่งขับเคลื่อนภารกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน หรือใน Scope 3 ตามหลักการ Science Based Targets initiative (SBTi) ซึ่งกลุ่มบริษัทคู่ค้าหลักนี้เป็นหนึ่งใน 3 ประเภท (category) ที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (Scope 3) มากที่สุด โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกับคู่ค้าพันธมิตรจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในปี 2566 มีบริษัทคู่ค้ามากถึง 1,450 ราย ซึ่งล้วนผ่านการประเมินตนเองด้าน ESG ครบ 100%
ความร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าหลักนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญให้ทุกภาคส่วนได้มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ได้ใกล้ยิ่งขึ้น สร้างผลกระทบเชิงบวกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการลดการปล่อยก๊าซที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานใน Scope 1 และ Scope 2 โดยในปี 2566 ทรู สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้า รวม 42,000 เมกะวัตต์ชั่วโมง คิดเป็นจำนวนเงินที่ประหยัดได้ถึง 197 ล้านบาท จากการยกระดับเครือข่ายให้ล้ำสมัย (Network Modernization) รวมถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning ขณะที่ในปี 2567 มีแผนที่จะติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่เสาสัญญาณรวมเป็น 11,200 แห่ง และดาต้า เซ็นเตอร์รวมเป็น 6 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 64,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี เทียบเท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้สำหรับพันๆ ครัวเรือนในหนึ่งปี โดยจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 28,800 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี