ฉลอง 25 ปี งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ จัดเต็มกับการแสดงสุดอลังการ

• งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เมื่อมาถึงวาระครบรอบ 25 ปี มีการแสดง นักดนตรี ทีมงานชั้นนำของโลกมาจัดแสดงตลอด 8 สัปดาห์
• มหกรรมครั้งนี้มีตั้งแต่การแสดง Swan Lake, West Side Story ไปจนถึงออร์เคสตรา  โอเปรา และการแสดงมายากล โดยนักแสดง และทีมงานระดับโลก

งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ฉลองครบ 25 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการแสดงสุดอลังการที่นำนักแสดง นักดนตรี และทีมงานกว่า 900 ชีวิตจากทั่วทุกมุมโลก มาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวไทยทุกคนในปีนี้

พบกับการแสดง 11 ชุด ที่ครบเครื่องเรื่องศิลปะการแสดงตลอด 8 สัปดาห์ที่จะเป็นช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นที่สุดแห่งปี ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2566 และระหว่างวันที่ 2 กันยายน ไปถึง 22 ตุลาคม 2566

ไม่ว่าจะเป็นการแสดงวงออร์เคสตราเลื่องชื่อจากยุโรป วาทยกรระดับตำนาน ที่สุดของวงการดนตรีคลาสสิก บัลเลต์ยอดนิยมกับคณะบัลเลต์ระดับโลก สเต็ปฟลาเมงโก้ที่ร้อนแรง โอเปราที่ยิ่งใหญ่ ละครเพลงบรอดเวย์ในดวงใจ และโชว์มายากลระดับโลก ทั้งหมดนี้ยกมารวมกันอยู่บนเวที หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แห่งนี้เพียงที่เดียว

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 อุ่นเครื่องการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของมหกรรมฯ

พบการแสดงครั้งแรกในไทยของวงออร์เคสตราที่เก่าแก่ที่สุดจากสวิตเซอร์แลนด์ ลูเซิร์น ซิมโฟนี ออร์เคสตรา (Lucerne Symphony Orchestra) นำเสนอค่ำคืนกับเบโธเฟน เปิดด้วยบทเพลงที่ท้าทายศาสตร์และศิลป์ของนักไวโอลินอย่าง ไวโอลินคอนแชร์โต (Violin Concerto) ที่แต่งขึ้นในปีก่อตั้ง วงลูเซิร์นฯ ค.ศ. 1805 และปิดท้ายด้วยบทเพลงชื่อก้องโลก ซิมโฟนี หมายเลข 5 (Symphony No.5) อำนวยเพลงโดย วาทยกรชื่อดังระดับโลก ไมเคิล แซนเดอร์ลิง (Michael Sanderling) ร่วมด้วย นักไวโอลินเจ้าของรางวัลแกรมมี่ ออกัสติน ฮาเดอลิค (Augustin Hadelich) หนึ่งในนักไวโอลินระดับท๊อปของโลก ที่เคยได้รับการโหวตให้เป็น ‘Instrumentalist of the Year’ มาแล้ว

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2566 เปิดม่านฉลองครบรอบ 25 ปีงานมหกรรมฯ อย่างยิ่งใหญ่ 

พบคอนเสิร์ตที่คอดนตรีคลาสสิคทุกคนห้ามพลาด! กับวาทยกรระดับตำนาน Zubin Mehta ที่มาพร้อมกับวงออร์เคสตราคู่ใจ Symphony Orchestra del Maggio Musicale Fiorentino แห่งนครฟลอเรนซ์ ที่นำนักดนตรีกว่า 100 ชีวิตมาบรรเลงอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นออร์เคสตราระดับโลกที่มีฝีมือในการแสดงครบรส ด้วยเพลงยิ่งใหญ่จากไชคอฟสกี Symphony No. 4&6

วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 กับการแสดงผลงานโอเปราสุดอลังการ อาอิดา (Aida) ที่มาพร้อมกับโปรดักชั่นเต็มรูปแบบ ทั้งวงออร์เคสตราและคอรัส จากคณะละครโอเปราที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงระดับนานาชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซีย เฮลิคอน โอเปรา (Helikon Opera) เจ้าของรางวัลหน้ากากทองคำมากกว่า 10 รางวัล ที่จะพาทุกคนย้อนรอยประวัติศาสตร์ของประเทศอียิปต์ไปพบกับเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างทหารหนุ่มชาวอียิปต์และเจ้าหญิงเอธิโอเปียที่ตกเป็นเชลยสงคราม

วันศุกร์ที่ 15 และ วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ค่ำคืนที่เร่าร้อนกับการแสดงฟลาเมงโก้สองเรื่องสองรส จากคณะ กรานาดา ฟลาเมงโก บัลเลต์ (Granada Flamenco Ballet) ทูตทางวัฒนธรรมด้านฟลาเมงโกของกรานาดาในปัจจุบัน

โดยคืนแรกเป็นการแสดงที่ดัดแปลงมาจากโอเปราชื่อดังของ จอร์จ บิเซต์ (Georges Bizet) อย่าง การ์เมน (Carmen) เรื่องราวความรักสามเส้าของสาวยิปซีกับหนุ่มเลือดร้อน ได้ถูกจับมาตีความใหม่ในแบบฉบับระบำฟลาเมงโกที่เต็มไปด้วยแพชชั่น ประกอบดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของสเปนที่ท่ามกลางบรรยากาศของแสง สี เสียงที่ร้อนแรง

ต่อกันในคืนที่สองกับ แดนซ์ ฟอร์ มี (Dance for Me) การแสดงฟลาเมงโกที่ทลายขอบเขตระหว่างดนตรีและการเต้นรำ และพาคุณตกหลุมรักกับเสน่ห์ของการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรรมของยิปซี มัวร์ จากแคว้นอันดาลูเชีย ประเทศสเปน ร่วมออกแบบท่าเต้นโดย Patricia Guerrero ผู้ชนะรางวัลการประกวดเต้นระดับชาติของสเปน

การแสดงเริ่มด้วยผลงานของนักประพันธ์ชื่อดังชาวกรานาดา Federico García Lorca และปิดด้วยการเต้นส่งท้าย fin de fiesta อันเปี่ยมพลัง ที่ปล่อยให้นักเต้นทุกคนได้งัดสเต็ปโชว์ฝีมือของตัวเองอย่างสุดกำลังที่ทางมหกรรมฯ ขอท้าให้ท่านผู้ชมมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง

วันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 พบกับการแสดง The Roots โดยคณะฮิปฮอปชั้นนำของฝรั่งเศส Accrorap ที่มาเปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมนักเต้นฮิปฮอปมากความสามารถ 11 คน ที่ต่างโดดเด่นในเอกลักษณ์การเต้นของตัวเอง แต่ก็สอดประสานออกมาเป็นการแสดงร่วมกันได้อย่างกลมกลืน

ลีลาการเต้นสไตล์ฮิปฮอป ทั้ง breakdance, locking, popping ออกแบบท่าเต้นโดย ศิลปินนักปฏิวัติ Kader Attou ที่ผสมผสานกับการเคลื่อนไหวร่างกายในหลากรูปแบบ ทั้งการเล่นสเก็ต เต้นแท็ป กายกรรม ชกมวย ละครตลก หรือแม้แต่ละครใบ้ จนออกมาเป็นการแสดงที่ไม่เหมือนใคร

การฉลอง 25 ปีงานมหกรรมฯ จะขาดการแสดงบัลเลต์ในใจทุกคน อย่าง สวอนเลค (Swan Lake) ไปไม่ได้ ในวันเสาร์ที่ 30 กันยายน และวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 ทางมหกรรมฯ ภูมิใจเสนอตำนานความรักของเจ้าชายซิกฟรีด และโอเด็ต หงส์ขาวต้องคำสาป ผ่านการตีความของ ฌอง คริสตอฟ ไมโยท์ (Jean-Christophe Maillot) ประกอบกับโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ และเครื่องแต่งกายสมัยใหม่ โดยคณะบัลเลต์ประจำชาติโมนาโก เลย์ บัลเลต์ เดอ มอนเต การ์โล (Les Ballets de Monte Carlo) ที่จะเสริมความลึกลับน่าค้นหาให้กับเรื่องราวอมตะเรื่องนี้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ปีนี้คอละครเพลงบรอดเวย์ ห้ามพลาด! West Side Story ละครเพลงยอดฮิตที่ดัดแปลงมาจาก Romeo & Juliet ที่จะจัดการแสดงระหว่างวันพฤหัสที่ 5 ถึง วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2566 เพียง 6 รอบเท่านั้น! โดยโปรดักชั่นใหม่ล่าสุด ที่เลือก กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายแรกที่เปิดการแสดงนี้ จัดเต็มทั้งโปรดักชั่น คณะนักแสดงจากอเมริกา และทีมงานมากประสบการณ์จากนิวยอร์ก ทั้งผู้กำกับเจ้าของรางวัลเอมมี่ อย่าง Lonny Price และ นักออกแบบท่าเต้นและที่ปรึกษาฝ่ายศิลป์ให้กับเวอร์ชั่นภาพยนตร์โดย Stephen Spielberg อย่าง Julio Monge

วันพฤหัสที่ 12 ตุลาคม 2566 เริ่มต้นวันหยุดยาวของเดือนตุลาคมด้วย การแสดงสุดพิเศษ Gala Performance การแสดงที่ร้อยเรื่องราวของความรักผ่านท่วงท่าของบัลเลต์ที่ถึงใจผู้ชมโดย คณะบัลเลต์อันดับต้นของโลก สตุตการ์ท บัลเลต์ (Stuttgart Ballet) แหล่งรวมนักบัลเลต์ชั้นนำมากกว่า 22 สัญชาติ โดยคัดการแสดงจากเรื่องคลาสสิคอย่าง Romeo & Juliet , Sleeping Beauty, Lady of Camellias, Onegin การแสดงผลงานเพลงอมตะอย่าง The Dying Swan ไปจนถึงบัลเลต์ร่วมสมัยอย่าง Blake Works และเป็นการแสดงที่รวมที่สุดของโลกศิลปะทั้งวรรณกรรม ดนตรี และการเต้นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 ร่วมตื่นตาไปกับค่ำคืนแสนมหัศจรรย์ ที่เต็มไปด้วยกลลวงที่น่าทึ่ง กับ The Magnificent Six นักมายากลหญิงอันดับต้น 6 คนจาก 6 ประเทศ จะมารวมตัวกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโลกเพื่อสร้างโชว์ระดับตำนานในประเทศไทย ก่อนโชว์จะถูกนำไปถ่ายทอดออกอากาศที่อเมริกาต่อไป

วันเสาร์ที่ 21 และ 22 ตุลาคม ปิดม่านครบรอบ 25 ปีของงานมหกรรมฯ อย่างยิ่งใหญ่กับการแสดงบัลเลต์ Anna Karenina ที่หยิบเอาวรรณกรรมอมตะของ เลโอ ตอยสตอย (Leo Tolstoy) มาผสานกับดนตรีของไชคอฟสกี้ (Tchaikovsky) โดย โบริส เอฟแมน (Boris Eifman) แห่ง เอฟแมน บัลเลต์ (Eifman Ballet) รัสเซีย บัลเลต์ที่ครบเครื่องความงามในทุกองค์ประกอบ ทั้งดนตรี ฉาก เครื่องแต่งกาย และท่าเต้นที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้อย่างทรงพลัง

11 เรื่อง 11 รสจากทั่วทุกมุมโลก งานมหกรรมฯ คัดสรรการแสดงระดับโลกที่สร้างแรงบันดาลใจมาให้คนไทยตลอด 25 ปี สำรองที่นั่งได้แล้ววันนี้ ที่ www.thaiticketmajor.com/bangkokfestivals

รายละเอียดเพิ่มเติม www.bangkokfestivals.com