‘T&B’ เปิดตัวอภิมหาโปรเจกต์ ‘ทรานส์ลูเซีย’ เมตาเวิร์สแห่งความสุขที่รวมในที่เดียว

เป็นระยะเวลายาวนานมากกว่า 6 ปี ที่บริษัท T&B MEDIA GLOBAL (THAILAND)  ได้มุ่งหน้าสร้างสรรค์และผลิตซีรีส์และอนิเมชันที่มีคุณภาพระดับโลก ที่ริเริ่มตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2559 โดย ‘ดร. แตน’ หรือ ‘ดร. ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์’ ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานซีรีส์อนิเมชันสัญชาติไทยที่ดังไกลไปถึงสหรัฐอเมริกาอย่าง ‘เชลล์ดอน’ (Shelldon)

มาจนถึงปัจจุบันนี้ ปณิธานของ T&B Media Global ที่มุ่งส่งต่อ นำเสนอ และคัดสรรคุณภาพมาสู่สายตาผู้บริโภคนานาชาติ รวมถึงชาวไทยก็ยังคงหนักแน่นคงเดิม นอกจากจะผลิตผลงานของค่ายตนเองแล้ว T&B ก็ยังได้มีการร่วมผลิตและนำเข้าภาพยนตร์จากนานาชาติเพื่อให้ชาวไทยได้เชยชมคอนเทนต์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพอีกด้วย

คุณภาคภูมิ ตันตนันตา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท T&B Media Global (Thailand) ก็ได้กล่าวว่าจุดยืนที่สำคัญของ T&B คือการนำเสนอความบันเทิงแบบ 360 องศา กล่าวคือความบันเทิงมากด้านที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตั้งแต่ภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงแพลตฟอร์มที่ซัพพอร์ตเหล่าเกมเมอร์ จนมาถึงเทคโนโลยีที่ถือเป็นเมกาโปรเจกต์ที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปในบทความนี้

“ในทุก ๆ วัน แม้ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป เราจะไม่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี แต่เราจะนำหน้า”

และแน่นอนว่าความกว้างขวางด้านคอนเทนต์คงไม่ใช่สิ่งเดียวที่บริษัทมอบความบันเทิงสามารถคำนึงถึง เพราะอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ‘เทรนด์’ หรือ ‘กระแส’ ที่โดยเฉพาะกับโลกทุกวันนี้ที่ผันแปรไปเร็วจนยากที่จะตามทัน ด้าน คุณจิรญา ทองเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาดและงานขาย บริษัท T&B Media Global (Thailand) Co. จึงได้ออกมาบอกวิสัยทัศน์ทางด้านแผนภาพรวมการตลาดว่า

“เราจะไม่ตามเทรนด์ แต่เราจะเป็นผู้นำเทรนด์”
 

คุณจิรญายังอธิบายต่ออีกว่าในยุคสมัยแห่งโลกดิจิทัลที่แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะมาจากภูมิภาคหรือประเทศไหน ๆ ก็เชื่อมต่อกันได้เพียงปลายนิ้วมือ แนวทางการตลาดหรือการนำเสนอคอนเทนต์ยิ่งต้องขยับตามให้เท่าทัน ด้วยเหตุนี้เวลามองในด้านของแนวทางการขาย T&B จึงมองเป็นสเกลระดับโลก (Global) ไม่ใช่แค่ในระดับประเทศ (Domestic)

นอกจากเรื่องราวทิศทางในภาพรวมของ T&B แล้ว ก็ได้มีเมกาโปรเจกต์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากรออยู่ นั่นก็คือ ‘ทรานส์ลูเซีย’ ซึ่งบทความนี้จะพาไปแนะนำให้รู้จักกันต่อไป

เพราะความสุขสามารถหลอมรวมกันอยู่ได้ในที่เดียว จึงได้เกิดเป็นแนวคิดการพัฒนาอาณาจักรเมตาเวิร์สภายใต้คอนเซ็ปต์ Translucia: Infinite Universe of Interconnected  Metaverses ศูนย์รวมเมตาเวิร์สแห่งความสุขนับอนันต์เอาไว้ภายในที่ ๆ เดียว

ช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ แน่นอนว่าแนวคิดของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอันหนึ่งที่ใครหลายคนคงได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งกับคำว่า ‘เมตาเวิร์ส’ (Metaverse) หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า จักรวาลนฤมิต ซึ่งในสมัยก่อนเราก็คงได้แต่จินตนาการถึงมัน หรือไม่ก็ได้เห็นมันผ่านภาพยนตร์เสียมากกว่า ดังที่เราได้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One (2018)

แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีที่ดูเหมือนเป็นเรื่องของอนาคตก็ยิ่งแปรเปลี่ยนกลายเป็นเรื่องของปัจจุบันมากขึ้น ในเรื่องของเมตาเวิร์สก็เช่นเดียวกัน เราได้เห็นบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ริเริ่มปลุกปั้นไอเดียดังกล่าวออกมาให้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นทุกวัน ในประเทศไทยเองก็มีบริษัทที่เชื่อและพร้อมลงมือที่จะนำเอาเรื่องของอนาคตมาสร้างเป็นความจริงจนมันกลายเป็นเรื่องของปัจจุบันเช่นเดียวกัน

บริษัท T&B Media Global นอกจากจะลงทุนในด้านของคอนเทนต์ในฐานะผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์และซีรีส์ให้แก่ผู้ชมทั่วโลก และในฐานะผู้จัดจำหน่ายและนำเข้าภาพยนตร์มาสู่สายตาชาวไทยแล้ว พวกเขาก็ได้ลงทุนเพื่อพัฒนาด้านนวัตกรรมเช่นเดียวกัน และนวัตกรรมนั้นก็คือ ‘ทรานส์ลูเซีย’ (Translucia) นั่นเอง

“ทรานส์ลูเซียคือจักรวาลแห่งความสุข ที่เรามุ่งหมายที่จะรวมเอาจักรวาลหลาย ๆ จักรวาลเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นคอนเซ็ปต์ที่มีชื่อเรียกว่า ‘Infinite Universe of Interconnected Metaverses’”

คุณอธิศ นันทวรุณ กรรมการบริหารแห่งทรานส์ลูเซียกล่าวอธิบายจุดหมายของโปรเจกต์ที่มีนามว่าทรานส์ลูเซีย ไม่เพียงแค่เมตาเวิร์สแห่งนี้จะเป็นการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่จะพาเราทุกคนดำดิ่งไปในโลกเสมือนที่จะเปิดโอกาสในด้านต่าง ๆ อีกมากมาย แต่มันคือโลกเสมือนที่จะเป็นจุดรวมของโลกเสมือนอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถเชื่อมถึงกันได้ และเรานิยามมันว่า ‘อนันตจักรวาลศูนย์รวมเมตาเวิร์สที่เชื่อมถึงกันได้’

แต่หากวาดหวังที่จะสร้างเมตาเวิร์สเปล่า ๆ ก็คงเป็นเพียงนวัตกรรมแห่งอนาคตธรรมดาที่ไม่นานก็อาจจะถูกแทนที่ได้ แต่ทรานส์ลูเซียไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมตาเวิร์สของทรานส์ลูเซียจะไม่ได้เป็นโลกเสมือนที่สร้างขึ้นมาเพื่อก้าวทันโลกแห่งอนาคตอย่างเดียว แต่จะเป็นโลกเสมือนอันเป็น ‘โลกที่ปลอดภัย’ และเต็มไปด้วยความสุขที่จะขับเคลื่อนด้วยการทำความดี

“เราจะสร้างเมตาเวิร์สที่การทำความดีจะสามารถขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจได้จริง พร้อม ๆ กับการสร้างสังคมที่มีคุณภาพควบคู่กับการตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสถานที่นี้จะเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน รวมถึงยังเป็นสถานที่แห่งโอกาสอันไร้ที่สิ้นสุดให้กับทางด้านของธุรกิจและสังคม”

จากที่คุณอธิศได้กล่าวมาข้างต้น เราจะได้เห็นแกนหลักของทรานส์ลูเซียที่สร้างจุดต่างให้เมตาเวิร์สแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่น ๆ เพราะแทนที่จะขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นเชื้อเพลิงหลัก แต่ทรานส์ลูเซียถูกพัฒนาโดยยึดแก่นสำคัญคือปรัชญาและความสุขที่มนุษย์ต่างก็ถวิลหา ด้วยเหตุนี้คำถามสำคัญที่ทรานส์ลูเซียมุ่งหาคำตอบจึงไม่ใช่ ‘เมตาเวิร์สแบบไหนคือเมตาเวิร์สที่จะล้ำสมัยที่สุด?’ แต่เป็น ‘เมตาเวิร์สแบบไหนที่จะเป็นเมตาเวิร์สที่สังคมเราต้องการมากที่สุด?’

เพื่อที่จะให้เห็นภาพมากกว่าเดิม คุณอธิศได้อธิบายต่อถึงคุณค่าที่ทางทรานส์ลูเซียมุ่งจะมอบให้แก่ผู้ที่จะมาใช้งาน หรือ Value Proposition ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสามประการ ได้แก่ การสร้างแรงจูงใจให้เกิดสังคมที่ดี, การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี, และการเชื่อมต่อกันระหว่างโลกเสมือนกับโลกแห่งความเป็นจริง

เริ่มที่ประการแรก หากจะให้เห็นภาพคงต้องเริ่มจากคำถามที่ว่า ถ้าเราอยากเห็นความดีไหลเวียนอยู่ในสังคมอย่างอุดมสมบูรณ์ สิ่งที่เราต้องทำคืออะไร? แน่นอนว่าเราต้องสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้ผู้คนในสังคมอยากจะทำความดี ด้วยเหตุนี้ทรานส์ลูเซียจึงมุ่งหวังที่จะมอง ‘ความดี’ ให้เป็น ‘Economic Desire’ สร้างคุณค่าที่สามารถนำมาใช้ได้จริงและสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ 

เมื่อใดความดีถูกหลอมรวมเข้ากับระบบเศรษฐกิจแล้ว ความดีอันนั้นจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จูงใจให้คนมุ่งผลิตมันไปมากกว่าเดิม ในโลกปัจจุบันนี้ สิ่งที่เคลื่อนเศรษฐกิจเสมือนโลหิตก็คงต้องตอบว่าเป็นเงิน ผู้คนมุ่งทำงานเพื่อหาเงินเพื่อดำรงชีวิต แต่เมื่อทรานส์ลูเซียเปลี่ยนโลหิตที่ไหลเวียนของเศรษฐกิจจาก ‘เงิน’ ให้เป็น ‘ความดี’ แน่นอนว่าผู้คนก็ต้องมุ่งสร้างความดีตามกลไกของเศรษฐกิจอย่างแน่นอน

ประการที่สอง แม้ว่าปรัชญาทางด้านความสุขและความต้องการของมนุษย์คือแรงขับเคลื่อนหลักที่ใช้เป็นเข็มทิศนำทางให้กับทรานส์ลูเซีย แต่สิ่งสำคัญอันเป็นรากฐานที่จะขาดไปไม่ได้ของแพลตฟอร์มอย่างเมตาเวิร์สก็คือ ‘เทคโนโลยี’

โดยทรานส์ลูเซียได้ลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบบล็อกเชนเพื่อสร้างกลไกทางเทคโนโลยีที่มีเสถียรภาพได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ หรือว่าจะเป็นการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ AI (Artificial Intelligence) เพื่อให้กลไกของเมตาเวิร์สดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ตามความต้องการและเป้าหมายของทรานส์ลูเซียมากที่สุด

ส่วนคุณค่าประการสุดท้ายที่ทรานส์ลูเซียมุ่งที่จะมอบให้ผ่านเมตาเวิร์สของตนก็คือการเชื่อมโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เพราะถ้าหากทั้งสองโลกถูกแยกออกจากกันอย่างไร้สะพานเชื่อม ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะแลกเวลาของโลกปัจจุบันไปให้กับทรานส์ลูเซีย ด้วยเหตุนี้การหาจุดเชื่อมที่สมเหตุสมผลจึงเป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญที่ทรานส์ลูเซียมุ่งหาคำตอบ

ทรานส์ลูเซียจึงได้สร้างคุณค่าที่จะสามารถเชื่อมต่อโลกทั้งสองโลกเข้าด้วยกันผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะมีค่าทั้งในโลกเสมือนและโลกแห่งความจริง และจะเป็นประตูแห่งโอกาสในด้านของธุรกิจที่จะเปิดโอกาสให้คนอีกมากมายได้ลงทุนและสร้างคุณค่าที่สามารถนำมาใช้ได้จริง และจะสร้างให้เมตาเวิร์สสามารถใช้งานได้จริงอย่างยั่งยืน