‘คอนนี ฮาน’ นักรบแจ๊สผู้ทวงคืน ‘ความเร้าใจ’

‘คอนนี ฮาน’ นักรบแจ๊สผู้ทวงคืน ‘ความเร้าใจ’

คอนนี ฮาน (Connie Han) นักเปียโนหญิงผู้ถูกขนานนามว่า ‘เทพธิดานักรบแห่งวงการแจ๊ส’ กำลังทวงคืนความเร้าใจให้ดนตรีแจ๊สยุคใหม่ ด้วยสไตล์ดิบแรงที่ผสานความแม่นยำแบบคลาสสิกและการด้นสดแบบบ็อพ เธอไม่เพียงรักษาเปลวไฟของมรดกแจ๊ส แต่ยังท้าทายระบบเก่า สร้างแรงกระเพื่อมในวงการดนตรีทั่วโลก

KEY

POINTS

ในยุคที่ดนตรีแจ๊สร่วมสมัยกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเริ่มแปรสภาพเป็นสถาบัน (Institutionalized) จนสูญเสียความขบถ, ความเร่าร้อน และความเร้าใจแบบดั้งเดิม นักเปียโนหญิง ‘คอนนี ฮาน’ (Connie Han) ก็ปรากฏตัวขึ้นดุจสายฟ้าฟาด เธอร่วมตอกย้ำภาวะดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า ดนตรีแจ๊สได้กลายเป็น ‘หมัน’ (sterile and safe) ไปเรียบร้อยแล้ว

การมาถึงของ ฮาน เป็นปรากฏการณ์ที่ท้าทาย สื่อ Variety Magazine ได้ให้คำจำกัดความเธอในฐานะ ‘หนึ่งในนักดนตรีแจ๊สร่วมสมัยที่มีพรสวรรค์และมีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด’ ส่วน Downbeat Magazine ก็ขนานนามเธอว่า เป็น ‘เทพธิดานักรบแห่งวงการแจ๊ส’ (The Jazz Warrior-Goddess)

ฉายาเหล่านี้ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากรากฐานอันหนักแน่น ในฐานะนักเปียโนผู้ตีความเพลงคลาสสิกแจ๊ส ด้วยสไตล์อันร้อนแรง ซึ่งตั้งอยู่บนความขัดแย้งที่ลงตัว ระหว่าง ‘ความแม่นยำ’ (Precision) ที่ได้จากขนบเปียโนคลาสสิกในวัยเด็ก กับ ‘การด้นสด’ (improvisation) และ ‘อารมณ์ดิบ’ (Irrepressible emotion) ที่เป็นมรดกทางจิตวิญญาณมาจากศิลปินแจ๊สในตำนาน อย่าง ‘เฟร็ดดี ฮับบาร์ด’ (Freddie Hubbard) และ ‘เคนนี เคิร์กแลนด์’ (Kenny Kirkland) 

ภารกิจของเธอชัดเจน ด้านหนึ่งคือการสืบทอด ‘เปลวไฟ’ ที่แท้จริงของมรดกโพสต์-บ็อพ แจ๊ส และอีกด้านหนึ่ง คือการทำลาย ‘เถ้าถ่าน’ ของขนบโบราณที่กำลังกลายเป็นซากแห่งอดีต

การถือกำเนิดของนักรบ

คอนนี ฮาน เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1996 ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เป็นบุตรีของนักดนตรีอาชีพชาวจีน ศาสตราวุธชิ้นแรกที่เธอได้รับ คือวินัยอันเข้มข้น มารดาเป็นครูสอนเปียโนคลาสสิก ผู้ให้ความสามารถทางเทคนิคที่จำเป็นในการรับมือกับแจ๊ส ในฐานะงานศิลปะที่ไม่สมบูรณ์แบบ

แม้จะเติบโตมากับดนตรีจีนพื้นบ้านและดนตรีคลาสสิก แต่เธอได้ค้นพบเส้นทางใหม่กับดนตรีแจ๊สในช่วงเรียนมัธยมปลาย ณ Los Angeles County High School for the Arts (LACHSA) ที่สถาบันแห่งนี้เองที่ ฮาน ขัดเกลาตัวตนในฐานะศิลปินแจ๊ส เธอได้เรียนรู้กับมือกลอง ‘บิลล์ ไวซัสกี’ (Bill Wysaske) ผู้มีบทบาทในการพัฒนา ‘Jazz IQ’ ของเธอ และช่วยให้เข้าใจถึงความจำเป็นอย่างยิ่งยวดของการเล่นด้วยจังหวะและความรู้สึกที่ดี

ด้วยอาวุธที่ครบมือ ทั้งความแม่นยำทางเทคนิคและสัญชาตญาณแจ๊สที่ถูกปลุกขึ้น อายุ 17 ปี ฮาน ตัดสินใจจะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และได้เข้าสู่วงการดนตรีอาชีพ พร้อมประกาศศักดาในฐานะคลื่นลูกใหม่ของวงการ 

อีก 6 ปีต่อมา ด้วยวัยเพียง 23 คอนนี ฮาน ก็ได้รับการยอมรับในระดับสูงสุดของวิชาชีพ เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ‘Steinway Artist’ เกียรติยศที่ยืนยันถึงความสามารถทางเทคนิคอันไร้ที่ติของเธอ

ปรัชญาแห่งเปลวไฟ

ภารกิจของ คอนนี ฮาน หยั่งรากลึกในความเชื่อที่ว่า “แจ๊สเป็นศิลปะแห่งมรดก และจำเป็นต้องให้เกียรติแก่สายเลือดทางดนตรี” เธอประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า เป็นนักอนุรักษนิยม (traditionalist) และเชื่อว่า “... ไม่สามารถเล่นดนตรีสมัยใหม่ได้ หากปราศจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในรากเหง้า”

เธอยึดมั่นในคำกล่าวของนักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกชาวรัสเซียน ‘กุสตาฟ มาห์เลอร์’ (Gustav Mahler) ที่ว่า “จารีตคือการรักษาเปลวไฟ ไม่ใช่การบูชาเถ้าถ่าน” ซึ่งหมายความว่าภารกิจของเธอ ไม่ใช่การ ‘บูชา’ หรือลอกเลียนรูปแบบดั้งเดิมที่กลายเป็น ‘เถ้าถ่าน’ ไปแล้ว แต่คือการ ‘รักษา’ และสืบทอด ‘เปลวไฟ’ อันได้แก่พลัง, ความสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณที่แท้จริง ให้คงอยู่ต่อไปในฐานะมรดกที่มีชีวิต

เปลวไฟนี้คือการซึมซับเหล่านักเปียโนที่เธอได้รับแรงบันดาลใจ อันได้แก่ อาร์ต เททัม (Art Tatum), แฮงก์ โจนส์ (Hank Jones), เออร์โรลล์ การ์เนอร์ (Erroll Garner), แมคคอย ไทเนอร์ (McCoy Tyner), ชิค คอเรีย (Chick Corea), มัลกรูว์ มิลเลอร์ (Mulgrew Miller) และ เคนนี เคิร์กแลนด์

ฮาน ยืนยันด้วยว่า “การเป็นศิลปินที่ดี ต้องเป็นนักเรียนของชีวิต ปรัชญา และหนังสือ” โดยเธอได้รับอิทธิพลจากนักเขียน อย่าง ‘โจเซฟ แคมพ์เบลล์’ (Joseph Campbell) และ ‘ไดแอน โวล์คสไตน์’ (Diane Wolkstein) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โวล์คสไตน์ ผู้ที่อธิบายตำนาน Inanna แห่งสุเมเรียนโบราณ ซึ่งกลายมาเป็นวัตถุดิบเชิงแนวคิดที่ทรงพลังให้แก่เธอ ต่อยอดมาเป็นหัวใจหลักของอัลบั้ม Secrets of Inanna ที่ถ่ายทอดการเดินทางของเทพี Inanna “ที่ลงสู่ขุมนรกเพื่อทนทุกข์และเกิดใหม่” 

‘คอนนี ฮาน’ นักรบแจ๊สผู้ทวงคืน ‘ความเร้าใจ’

สำหรับฮานแล้ว ดนตรีไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคนิค แต่คือการเดินทางเชิงปรัชญาและจิตวิญญาณ เธอเชื่อมโยงสภาวะการ “เผชิญหน้ากับความยากลำบากและความมืดมิดภายใน เพื่อที่จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีคุณภาพได้”

ยุทธศาสตร์สองแนวรบ 

คอนนี ฮาน เปิด ‘ยุทธศาสตร์สองแนวรบ’ เพื่อทวงคืนจิตวิญญาณของแจ๊สกลับคืนมา แนวรบแรก คือการพิสูจน์ตนเองผ่านผลงานดนตรีที่ไร้ข้อกังขา อย่าง อัลบั้ม Iron Starlet (2020) ภายใต้สังกัด ‘Mack Avenue’ ใบเบิกทางที่สมบูรณ์แบบ ผลงานชิ้นนี้แสดงความสามารถรอบด้าน ทั้งในแง่การเป็นนักดนตรีบ็อพที่น่าเกรงขาม, มือเปียโนเพลงแนวบัลลาดที่นุ่มนวล และเจ้าแม่เพลงกรู้ฟที่ยอดเยี่ยม

เมื่อรากฐานทางดนตรีมั่นคง เธอก้าวสู่การบรรลุเชิงปรัชญาในอัลบั้มถัดมา Secrets of Inanna (2022) ถ่ายทอดตำนานของ Inanna ที่ลงสู่ขุมนรกเพื่อทนทุกข์และเกิดใหม่ในฐานะราชินีแห่งสวรรค์และโลก โดยมีบทเพลงสำคัญอย่าง Prima Materia และ Vesica Piscis เป็นแกนกลางในการถ่ายทอด

แนวรบที่สอง คือแนวรบด้านภาพลักษณ์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับการวิพากษ์วงการแจ๊ส ที่ปัจจุบันกลายสภาพเป็นความปลอดภัยที่แน่นิ่ง นี่คือการต่อต้าน (rebellion) จาก ฮาน เธอปลุกเร้าผู้ชมให้ออกจากพื้นที่ปลอดภัย (comfort zones) ไปสู่พื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงยิ่งขึ้น  

“แจ๊สต้องการบุคลิกที่ยั่วยวนและเซ็กซี่มากขึ้น” เธอบอก พร้อมตอกย้ำว่าการที่เธอ “แต่งกายอย่างกล้าหาญและเซ็กซี่” ไม่ใช่เพียงการตลาด แต่คือการแสดงออกถึง ‘ความเป็นปัจเจก’ เพื่อทำให้แจ๊สกลับมา ‘เท่’ และ ‘ขบถ’ อีกครั้ง 

เธอเน้นย้ำด้วยตรรกะชัดเจนว่า ความสามารถของเธอเป็นสิ่งที่พิสูจน์สิทธิ์ในการแสดงออกนี้ เพื่อทลายมายาคติเก่า ๆ ที่ว่า “ผู้หญิงที่แสดงออกถึงความเป็นหญิงจะขาดความลึกซึ้งทางปัญญา” ทั้งที่ความเป็นหญิงและสติปัญญาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์

‘คอนนี ฮาน’ นักรบแจ๊สผู้ทวงคืน ‘ความเร้าใจ’

ประกายไฟในสนามรบ

เมื่อศิลปินเลือกที่จะเป็น ‘ผู้สร้างประเด็น’ (Provocateur) และปฏิเสธที่จะอยู่ใน ‘พื้นที่ปลอดภัย’ (comfort zones) การปะทะย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คอนนี ฮาน ได้พิสูจน์จุดยืนนี้ในโลกแห่งความเป็นจริง ดังที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางออนไลน์กับ ‘นิโคลาส เพย์ตัน’ (Nicholas Payton) นักทรัมเป็ตชื่อดัง ชนวนเหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ เพย์ตัน โพสต์ข้อความวิจารณ์เชิงลบเกี่ยวกับความสามารถในการเล่นสวิงของเธอ

ความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่ ไม่ได้เป็นเพียงการโต้เถียงในโลกออนไลน์ธรรมดา หากแต่เป็นภาพสะท้อนของรอยปริแตกในวงการแจ๊สร่วมสมัย ระหว่างคนรุ่นใหม่ที่เรียกร้องความเสี่ยง ความกล้าหาญ และความหลากหลาย กับโครงสร้างเก่าที่ถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อย ๆ

ชนวนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ เพย์ตัน ได้โพสต์ข้อความที่ถูกวิพากษ์อย่างหนักว่า “เป็น antisemitic (ต่อต้านชาวยิว) และมีความเกลียดชังในเชิงชาติพันธุ์–ศาสนา” ประเด็นดังกล่าวนำไปสู่การวิจารณ์อย่างรุนแรงในสังคมดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาคเครื่องลมทองเหลือง ของ Berklee College of Music สถาบันดนตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ท่ามกลางความตึงเครียดนี้ เพย์ตัน ยังได้รีโพสต์ข้อความของอดีตสมาชิกวงที่พุ่งเป้าโจมตีความสามารถของ ฮาน ในเชิงลบ ตั้งแต่เรื่องสไตล์การเล่น ไปจนถึงประเด็นที่โยงกับอัตลักษณ์ทางเพศและเชื้อชาติ การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดเสียงตอบโต้เป็นวงกว้าง ฮาน ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า เพย์ตัน “ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งทางวิชาการเช่นนั้น” จุดยืนนี้ได้รับแรงหนุนจากผู้สนับสนุนจำนวนมากในชุมชนดนตรีออนไลน์

กระแสสังคมเริ่มบานปลายจนมีผู้เริ่มแคมเปญในแพลตฟอร์มออนไลน์ เรียกร้องให้ เบิร์กลี ตรวจสอบและถอดเพย์ตันออกจากตำแหน่ง โดยมีผู้ร่วมลงชื่อมากกว่า 5,000 คนภายในเวลาไม่นาน ท้ายที่สุด ในเดือนเมษายน 2025 ทาง เบิร์กลี ออกแถลงการณ์สั้น ๆ ระบุว่า “นิโคลาส เพย์ตัน ไม่ได้เป็นพนักงานของเบิร์กลี คอลเลจ ออฟ มิวสิค อีกต่อไป” โดยปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมด้วยเหตุผลว่าเป็น “เรื่องภายในบุคลากร”

แม้ไม่ได้มีแถลงการณ์จากทั้งสองฝ่ายที่ชี้ว่าข้อพิพาทยุติอย่างไร แต่ผลลัพธ์ชัดเจน คือเพย์ตันหมดสถานภาพในสถาบัน ขณะที่ คอนนี ฮาน ไม่เพียงไม่ถอยหนี หากยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเสียงที่ท้าทายระบบเก่า เสียงที่ยืนยันว่าศิลปินหญิงเอเชียในวงการแจ๊ส ไม่ควรถูกปิดปากด้วยอคติหรือมายาคติแบบเดิม ๆ

เหตุการณ์นี้กลายเป็นหนึ่งในจุดหักเหสำคัญของวงการแจ๊สปี 2025 สะท้อนชัดว่าความขัดแย้งเกี่ยวพันกับการเมืองของอัตลักษณ์ วัฒนธรรมองค์กร และคำถามว่า “แจ๊สยุคใหม่ควรยืนอยู่ตรงไหน”

หากภารกิจของ คอนนี ฮาน คือการ ‘ปลุก’ วงการแจ๊สให้ตื่นจากความฝันอันแสนสบาย เธอคือส่วนผสมที่ลงตัวของความแม่นยำทางเทคนิค (จากคลาสสิก) จิตวิญญาณที่ดุดัน (จาก Hard Bop) และปรัชญาที่ลึกซึ้ง (จากตำนาน Inanna) 

‘เทพธิดานักรบ’ ผู้นี้ ไม่ได้เพียงแค่กำลังเล่นแจ๊ส แต่เธอกำลังร่วมกำหนดอนาคตด้วยการยืนยันที่จะ ‘รักษาเปลวไฟ’ ของดนตรีแจ๊สไว้ ไม่ใช่เพียงแค่บูชา ‘เถ้าถ่าน’ ของมันเท่านั้น

 

เรื่อง: อนันต์ ลือประดิษฐ์