‘มิมี่ คีน’ นักแสดงผู้รับบท ‘รูบี้ แมทธิวส์’ ใน ‘Sex Education’ ตัวละครสาวคลั่งรักในอุดมคติ

• มิมี่ คีน เป็นนักแสดงสาวชาวอังกฤษ ที่โด่งดังจากการรับบท ‘ซินดี้ วิลเลียมส์’ ตัวละครในซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง ‘EastEnders’ ทางช่อง BBC ก่อนที่ชาวเน็ตฟลิกซ์จะรู้จักเธอจากบท ‘รูบี้ แมทธิวส์’ ในซีรีส์ Sex Education
• รูบี้ยังคงไม่สามารถมูฟออนจากโอทิสได้เลย กระทั่งตัวละครอื่นช่วยกันกระทุ้งจนเธอได้สติ ด้วยประโยคจี๊ด ๆ โดยเฉพาะ “โอทิสทิ้งได้ทุกอย่างบนโลก ถ้าเป็นเรื่องของเมฟ” และ “ถ้าเขารักเธอ เขาจะไม่ทำให้เธอสับสน”

‘Sex Education’ ปิดฉากลงอย่างน่าประทับใจ พร้อมเสียงปรบมือจากคนดูที่พากันปลื้มปริ่มกับ ‘พัฒนาการ’ ของทุกตัวละคร ที่เติบโตทั้งด้านความคิดและหัวใจ จากซีซันแรกถึงซีซันสุดท้ายคือซีซันที่ 4

หนึ่งในตัวละครที่แฟน Sex Education พูดถึงมากที่สุดในแง่พัฒนาการคือ ‘รูบี้ แมทธิวส์’ ควีนบีแห่งโรงเรียนมัวร์เดล ที่ช่วงแรกทำตัวน่าหมั่นไส้สไตล์ตัวแม่ร้าย ๆ แต่ช่วงกลางก็เริ่มเผยให้เห็นตัวตนอีกด้านที่แบกความรับผิดชอบในครอบครัวไว้อย่างน่ายกย่อง และช่วงท้ายที่กลายเป็น ‘ไอดอล’ สำหรับคนที่ ‘รักเขาข้างเดียว’ 

บทความนี้ The People ชวนทุกคนไปถอดบทเรียนจากความรักของ ‘รูบี้ แมทธิวส์’ และทำความรู้จัก ‘มิมี่ คีน’ นักแสดงผู้ทำให้ตัวละครนี้มีมิติอย่างน่าทึ่ง 

‘รูบี้ แมทธิวส์’ ควีนบีแห่ง ‘Sex Education’

รูบี้ แมทธิวส์ ปรากฏใน Sex Education ตั้งแต่ซีซันแรกแล้ว แต่คนดูอย่างพวกเรามักมองข้ามเธอ เพราะโดนหลอกด้วยบทที่ดูเหมือนจะแบนราบมีมิติเดียว วัน ๆ เอาแต่รักสวยรักงาม จับกลุ่มซุบซิบนินทา และเที่ยวเย้ยหยันเพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ 

ประกอบกับตัวละครรูบี้เองก็มีบทน้อยมากในซีซันแรก เธอได้มีบทพูดกับตัวละครหลักในตอนที่ 5 เท่านั้น เมื่อเธอหันไปหา ‘โอทิส มิลเบิร์น’ กับ ‘เมฟ ไวลีย์’ เพื่อขอให้ช่วยระบุตัวคนที่อยู่เบื้องหลังการแชร์ภาพของเธอกับคนอื่น ๆ ในโรงเรียน 

ต่อมาในซีซัน 2 รูบี้เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เพราะในตอนที่ 6 โอทิสดันตื่นขึ้นมาโดยมีเธอนอนอยู่ข้าง ๆ และเธอเองก็ยอมรับแบบหน้าตาเฉยว่าตัวเองกับโอทิสมีอะไรลึกซึ้งกันแล้ว 

พอเริ่มมีความสัมพันธ์กับตัวละครหลักของเรื่อง คนดูก็เริ่มได้เห็นแง่มุมอื่น ๆ ของรูบี้มากขึ้น แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่ลูกสาวเศรษฐีอย่างที่หลายคนเข้าใจ แถมพ่อของเธอยังป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมนานนับปี กลายเป็นว่าเธอต้องดูแลทั้งตัวเองทั้งพ่อ ที่นับวันอาการจะแย่ลงเรื่อย ๆ

“ตัวละครนี้ทำให้คนดูเห็นว่า สิ่งที่ภายนอกดูแวววาวและสมบูรณ์แบบ ความจริงมันอาจไม่เป็นเช่นนั้น” มิมี่ให้สัมภาษณ์ถึงตัวละครที่เธอรับบท “รูบี้ต้องดูแลครอบครัว มีเรื่องหลายอย่างที่เธอต้องจัดการ โดยที่ไม่มีเพื่อนหรือคนในโรงเรียนรู้เลย” 

ขณะที่เราเริ่มเปลี่ยนจากความชิงชังหันมาเห็นใจเธอนั้น ในช่วงท้ายของซีซัน 2 เราก็ได้เห็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างโอทิสกับรูบี้ด้วย

ต่อมาในซีซัน 3 ความสัมพันธ์ระหว่างโอทิสกับรูบี้เบ่งบานสุด ๆ กลายเป็นว่าหนุ่มที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘คนขี้แพ้’ กับ ‘สาวฮอต’ ประจำโรงเรียน มีเคมีเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ จนแฟนซีรีส์ทำเป็นลืมไปเลยว่าโอทิสหลงรักเมฟหัวปักหัวปำแค่ไหน 

แต่สุดท้ายทั้งตัวรูบี้และแฟนซีรีส์ก็อกหักพร้อมกัน เมื่อโอทิสไม่ยอมบอกรักตอบรูบี้ และเริ่มกลับไปใกล้ชิดกับเมฟมากขึ้น 

มาถึงซีซัน 4 ความหวังที่แฟนคู่จิ้นรูบี้ - โอทิส มีอยู่อย่างริบหรี่ก็ลุกโชนขึ้น เมื่อรูบี้กับโอทิสย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกัน ขณะที่เมฟจากไปเรียนต่อที่อเมริกา

ซีซันนี้รูบี้ไม่เพียงแต่ต้องพยายามมูฟออนจากความรักข้างเดียว เธอยังต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองได้รับ ‘การยอมรับ’ ในโรงเรียนใหม่ ซึ่งนับเป็นเรื่องยากกว่าเด็กทั่วไปหลายเท่าในฐานะที่เคยเป็นถึง ‘คนดัง’ ในโรงเรียนเดิม 

แต่ระหว่างทางที่รูบี้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่า เธอคู่ควรกับการมีเพื่อนดี ๆ เธอยังทำให้พวกเราเห็นด้วยว่า เธอเป็น ‘แฟนเก่า’ ที่น่ารักแค่ไหน 

เธอเสนอตัวช่วยโอทิสในการเปิดคลินิกให้คำปรึกษาเรื่องเพศ แม้ว่ามันจะมาพร้อมเงื่อนไขบางอย่าง แต่เราก็สัมผัสได้ว่าเธอเต็มใจและยินดีช่วยเหลือโอทิสเต็มที่ ขณะเดียวกันก็พยายามปากแข็งกลบเกลื่อนความรู้สึก ทั้งที่คนดูสัมผัสได้ชัดเจนเลยว่า เธอรู้สึกอุ่นใจมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้โอทิส 

แต่รูบี้ก็ไม่ได้พยายามเรียกร้องหรืองอนง้อให้โอทิสกลับมา แม้ว่าความห่างไกลระหว่างโอทิสกับเมฟจะเป็นใจมากก็ตาม นั่นไม่ใช่เพราะเธอหมดรักโอทิสแน่นอน แต่เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจฝืนใจอดีตคนรักได้ 

รูบี้ยังคงไม่สามารถมูฟออนจากโอทิสได้เลย กระทั่งตัวละครอื่นช่วยกันกระทุ้งจนเธอได้สติ ด้วยประโยคจี๊ด ๆ โดยเฉพาะ “โอทิสทิ้งได้ทุกอย่างบนโลก ถ้าเป็นเรื่องของเมฟ” และ “ถ้าเขารักเธอ เขาจะไม่ทำให้เธอสับสน” 

แฟนซีรีส์รู้ในใจลึก ๆ อยู่แล้วว่า รูบี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้คู่กับโอทิส แต่เธอเป็นตัวละครที่ถูกออกแบบมาให้เราเข้าใจและยอมรับในธรรมชาติของความรัก ที่มีทั้ง ‘สมหวัง’ และ ‘ไม่สมหวัง’ 

และเมื่อไรก็ตามที่เราสามารถมูฟออนออกมาจากจุดที่หัวใจเจ็บปวดได้ เราก็จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยเมล็ดพันธุ์แห่งความรัก ที่รอวันผลิดอกออกผลยามเมื่อเจอกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นใจ

‘มิมี่ คีน’ นักแสดงผู้รับบท ‘รูบี้ แมทธิวส์’ 

รูบี้จะกลายเป็นที่รักของคนดูไม่ได้เลย หากไม่ได้นักแสดงสาวชาวอังกฤษอย่าง ‘มิมี่ คีน’ มาเป็นผู้รับบท

มิมี่โด่งดังจากการรับบท ‘ซินดี้ วิลเลียมส์’ ตัวละครในซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง ‘EastEnders’ ทางช่อง BBC ก่อนที่ชาวเน็ตฟลิกซ์จะรู้จักเธอจากบทรูบี้ในซีรีส์ Sex Education

แม้ว่าในซีรีส์เธอจะรับบทเป็นสาวคลั่งรัก แต่ในชีวิตจริงเธอไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องความรักเท่าไรนัก ความรักเดียวที่เธอแสดงออกในโซเชียลมีเดียคือ ‘ความรักสัตว์’ เห็นได้จากอินสตาแกรมของเธอที่เต็มไปด้วยภาพน้องหมากับน้องแมว นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า เธอเคยขอโปรดิวเซอร์ Sex Education ให้นำสุนัขของเธอเข้าไปอยู่ในเรื่องด้วย 

มิมี่ หรือชื่อเต็มคือ ‘มิมี่ โรชาน ซาอีด’ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 1998 ที่ฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ เธอเติบโตมากับน้องชายและพ่อแม่ ซึ่งได้แก่ ‘อเล็กซิส คีน’ และ ‘ฮัสซัน ซาอีด’ 

มิมี่เติบโตมาอย่างเพียบพร้อม (ถ้าเทียบกับรูบี้) เธอไม่ต้องแบกรับปัญหาครอบครัว และได้ทำในสิ่งที่รักตั้งแต่ยังเด็ก โดยเริ่มต้นจากการเรียนศิลปะการแสดงที่ ‘Italia Conti Academy of Theatre Arts’ ในกรุงลอนดอน ซึ่งได้เปิดทางให้เธอได้เล่นละครเวทีตั้งแต่อายุแค่ 12 ปี รวมถึงยังได้แสดงในโฆษณาทางทีวีด้วย 

หลังจากนั้นเธอก็มีผลงานการแสดงทางโทรทัศน์ งานพากย์เสียงในวิดีโอเกมอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเริ่มเป็นที่รู้จักจากบท ‘ซินดี้ วิลเลียมส์’ ในซีรีส์เรื่อง EastEnders ระหว่างปี 2013 และ 2015 ซึ่งผลงานเรื่องนี้นี่เองที่ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ‘British Soap Awards’ ในสาขา ‘Best Young Performance’ เมื่อปี 2014 และในปีต่อมาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ‘Inside Soap Awards’ สาขา ‘Best Young Actor’ 

เมื่อเป็นที่รู้จักในบทรูบี้ แฟน ๆ ต่างพากันคาดเดาว่ามิมี่เป็นคนเชื้อชาติใดกันแน่ บ้างก็ว่าเธอดูเหมือนคนอิตาลีมากกว่าคนอังกฤษ บ้างก็ว่าเธอเหมือนคนตะวันออกกลาง แต่จนถึงขณะนี้มิมี่ยังไม่เคยออกมาเปิดเผยเรื่องเชื้อชาติของพ่อแม่ ซึ่งนั่นก็คงไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญหากพิจารณาจากการที่ Sex Education ได้รับการยกย่องในเรื่องการสนับสนุนความหลากหลายทางเชื้อชาติ เห็นได้จากการคัดเลือกนักแสดงอย่าง ‘เอ็นคูติ กัตวา’ (เอริก), แพทริเซีย อัลลิสัน (โอลา), ซิโมน แอชลีย์ (โอลิเวีย) และชานีล คูลาร์ (อันวาร์) 

ตอนที่ได้บทของ Sex Education มิมี่อ่านมันจบอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกชื่นชอบ ทั้งที่โดยปกติแล้วเธอเป็นคนอ่านหนังสือช้า 

บทรูบี้ไม่เพียงแต่ทำให้เธอมีชื่อเสียงในระดับโลก แต่ยังทำให้ชีวิตของมิมี่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ที่น่าผวาสุดคือเธอถูก ‘สตอล์คเกอร์’ (stalker) ตามรังควานถึงบ้าน จนทำให้เธอไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียวและคิดจะขายบ้านไปเลย 

ลองคิดกลับกันเล่น ๆ ว่า ถ้ามีสตอล์คเกอร์ตามรูบี้ แมทธิวส์ แบบนี้บ้าง เพื่อนทั้งในโรงเรียนเก่าและโรงเรียนใหม่ของเธอ คงต้องรวมพลังกันทำอะไรสักอย่างให้สตอล์คเกอร์ได้ผวา เหมือนในฉาก Girl Power ที่ตัวละครหญิงแห่มาให้กำลังใจ ‘เอมี่’ ที่ถูกลวนลามบนรถบัส 

 

ภาพ : Getty Images

อ้างอิง :

planetradio

screenrant

tuko

perthnow