‘Pop Mart’ เริ่มจากร้านจิปาถะ จนเป็นช้อป Art Toys ที่เปิดตัวด้วย ‘Molly’ ซีรีส์แรกของแบรนด์

‘Pop Mart’ เริ่มจากร้านจิปาถะ จนเป็นช้อป Art Toys ที่เปิดตัวด้วย ‘Molly’ ซีรีส์แรกของแบรนด์

รู้จัก ‘Pop Mart’ จุดเริ่มต้นมาจากร้านจิปาถะ ลดสินค้าจนเหลือแค่ Art Toys และสร้างกลยุทธ์กล่องสุ่มเพื่อเอาใจคนชอบลุ้น เปิดตัวร้านครั้งแรกผ่านตุ๊กตาซีรีส์แรก ‘Molly’ จากศิลปินชื่อดังในฮ่องกง

  • ก่อนเป็น ‘Pop Mart’ เคยทำเป็นร้านขายของสารพัดนึก ซึ่งก่อตั้งโดย หวังหนิง’ (Wang Ning) หนึ่มวัย 36 ปี
  • Pop Mart กลายเป็นร้านที่ขายเฉพาะ Art Toy ในปี 2016 ไอเดียมาจากตุ๊กตาจากศิลปินคนญี่ปุ่น ‘SONNY ANGEL’
  • วันที่ 20 กันยายน Pop Mart เปิดแฟลกชิปสโตร์ในประเทศไทยสาขาแรก

บางทีการเปิดร้านหรือธุรกิจบางอย่างขึ้นมา แล้วมีทุกอย่างในร้านให้เลือกครบครันเต็มที่ก็อาจจะไม่เวิร์กเสมอไป เพราะอะไร? ลองมาอ่านเรื่องราวของผู้ก่อตั้ง Pop Mart ธุรกิจอาร์ตทอยส์ (Art Toys) ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่ปี 2010 และเพิ่งเปิดแฟลกชิปสโตร์ในประเทศไทยวันที่ 20 กันยายนนี้เอง

‘หวังหนิง’ (Wang Ning) เจ้าของธุรกิจ Pop Mart วัย 36 ปี หนุ่มเจนวายลุคเนิร์ดจากมณฑลเหอหนาน เรียกว่าเป็นบุคคลที่สร้างพลังให้กับ ‘กล่องสุ่ม’ (Blind Boxes) ได้มากทีเดียว แม้ว่าเขาไม่ใช่คนต้นคิดกลยุทธ์ธุรกิจแบบนี้ แต่ต้องยอมรับว่าเขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ปลุกกระแสให้กับอาร์ตทอยส์และกล่องสุ่มในเวลานี้มาก ๆ

เขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อของจีนว่า “การซื้อความตื่นเต้นนั้นย่อมดีกว่าการซื้อความสุขแบบอื่น” และนั่นก็นำมาซึ่งรูปแบบธุรกิจของ Pop Mart ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน

ร้านของจิปาถะที่มีครบทุกอย่าง

ก่อนที่ หวังหนิง จะเปิดร้านขายของจิปาถะ เขาก็เหมือนกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั่วไปที่เรียนจบแล้วก็หางานทำ ซึ่งเขาเคยทำงานให้กับบริษัท Sina Corporation บริษัทสื่อดิจิทัลเจ้าของแพลตฟอร์ม Weibo Wang หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเจิ้งโจว แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี หวังหนิง ตัดสินใจลาออกเพราะอยากทำธุรกิจส่วนตัว

ไอเดียเกี่ยวกับธุรกิจที่หวังหนิงอยากทำแวบเข้ามา หลังจากที่เขาเห็นโมเดลของร้านหนึ่งจากฮ่องกงชื่อว่า ‘LOG-ON’ (อารมณ์เหมือนร้าน B2S ผสมกับ LOFT ในไทย แต่เน้นขายเครื่องเขียนเยอะกว่า) ซึ่งเขามองว่า โมเดลธุรกิจแบบนี้น่าจะเป็นที่นิยมในจีน โดยเขาตั้งชื่อร้านว่า Pop Mart เปิดตัวเมื่อปี 2010 ใน Zhongguancun ของปักกิ่ง

ช่วงปี 2014 ที่หวังหนิงเริ่มมองแผนธุรกิจใหม่เพราะอยากลดต้นทุนและเพิ่มกำไรมากกว่านี้ และนี่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจ Pop Mart ไปตลอดกาล เพราะจุดเล็ก ๆ ที่มาจากอาร์ตทอยส์ที่เป็นสินค้าขายดีที่สุดของปีนั้น ทำให้หวังหนิงตัดสินใจลดสินค้าลงให้เหลือแค่อาร์ตทอยส์

และอาร์ตทอยส์ที่ได้รับความนิยมในร้านของเขาช่วงนั้นก็คือ ‘SONNY ANGEL’ จากศิลปินของคนญี่ปุ่น แถมตอนนั้นก็เป็นการขายแบบกล่องสุ่มด้วยในร้าน Pop Mart

หวังหนิงเล่าในบทสัมภาษณ์ (ภาษาจีน) ว่าเขาสังเกตเห็นว่าการขายอาร์ตทอยส์สามารถเรียกความสนใจลูกค้าชาวจีนได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายแบบกล่องสุ่ม ซึ่งเป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ และตัวเขาเองก็สนใจเพราะชอบความตื่นเต้น ชอบสินค้าที่ต้องลุ้นอยู่แล้ว เรียกว่าวันนั้นคือจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของ Pop Mart เลยก็ว่าได้

Pop Mart ในยุคที่มีแค่อาร์ตทอยส์

ในปี 2015 - 2016 เรียกว่าเป็นปีที่ ‘หวังหนิง’ เริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง เขาศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเทรนด์ของอาร์ตทอยส์ทั่วโลก เพื่อปรับโมเดลธุรกิจ และสิ่งแรก ๆ ที่เขาทำก็คือ การสำรวจความคิดเห็นของคนจีนบน Weibo ว่านอกจาก SONNY ANGEL ชอบตุ๊กตาแบรนด์ไหนอีก

คำตอบที่คนตอบเยอะที่สุดก็คือ ‘Molly’ ผลงานของศิลปินชาวฮ่องกงชื่อดัง ‘Kenny Wang’ ซึ่งเอกลักษณ์ของน้อง Molly ก็คือ ตาโตแก้มป่อง เปิดตัวในฮ่องกงตั้งแต่ปี 2006 โดยศิลปินผู้นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากในงานการกุศลแห่งหนึ่ง เขาได้พบเจอกับเด็กหญิงคนหนึ่งโดยบังเอิญ (เขาลืมถามชื่อ) แต่ตราตรึงจนต้องสร้างเป็นคาแรคเตอร์การ์ตูน เพราะเด็กหญิงคนนั้นมีดวงตาสีเขียวโดดเด่น ผมสั้นสีทอง และแต่งกายเป็นนักจิตรกรตัวจิ๋ว

‘Pop Mart’ เริ่มจากร้านจิปาถะ จนเป็นช้อป Art Toys ที่เปิดตัวด้วย ‘Molly’ ซีรีส์แรกของแบรนด์

หวังหนิงได้ติดต่อไปหา ‘Kenny Wang’ ทันทีที่รู้คำตอบเพื่อทาบทามให้น้อง Molly มาร่วมงานกับ Pop Mart ซึ่งเขาได้ขอซื้อลิขสิทธิ์ตุ๊กตา ‘Molly’ และเริ่มวางจำหน่ายกล่องสุ่มครั้งแรกจาก Pop Mart ที่ชื่อว่า ‘Molly 12 Zodiac’ ในปี 2017 เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ Pop Mart ผันตัวเองมาทำกล่องสุ่มและเล่นกับสินค้าอาร์ตทอยส์เต็มตัว ทั้งยังกระแสตอบรับล้นหลามจนทำรายได้ระหว่างปี 2017 - 2019 ไปถึง 1,600 ล้านหยวน

ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนปี 2020 หวังหนิงตัดสินใจเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งมูลค่าหุ้นของ Pop Mart ก็ทะยานขึ้นไปแตะ 147,200 ดอลลาร์ฮ่องกงในปี 2021 แล้วดูท่าว่าจะไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วย

ไม่แปลกใจที่เราเห็น Pop Mart ขยายออกนอกประเทศจีน ซึ่ง ‘สิงคโปร์’ เป็นประเทศแรกที่เปิดตัวนอกแผ่นดินจีน จากนั้นก็มีมาเลเซีย และในไทย ที่เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ (ชั้น 1) ซึ่งในงานแถลงเปิดตัว ‘จัสติน มูน’ ประธาน Pop Mart International ได้กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

‘Pop Mart’ เริ่มจากร้านจิปาถะ จนเป็นช้อป Art Toys ที่เปิดตัวด้วย ‘Molly’ ซีรีส์แรกของแบรนด์

โดยเขาพูดว่า ไทยเป็นประเทศที่อยู่อันดับ 3 ที่นิยมซื้อสินค้าของ Pop Mart (รองจากจีน และสหรัฐอเมริกา) และครั้งนี้สำหรับ Pop Mart เมืองไทยได้ตกแต่งร้านเสมือนว่าเรากำลังเดินอยู่ในงานนิทรรศการผลงานศิลปะ ที่มีผลงานจากศิลปินหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งของคนไทยที่มาจัดแสดงโชว์ร่วมกัน

ซึ่งใน Pop Mart ไทยสาขาแรก มีคอลเลกชันพิเศษเยอะมาก ๆ ถือเป็นผลงานระดับโลกเลยก็ได้ เช่น ดีซี, ดิสนีย์, วอร์เนอร์, แฮร์รี พอตเตอร์ แล้วก็ผลงานของศิลปินคนไทย ‘มด - นิสา ศรีคำดี’  หรือที่คนอื่นเรียกเธอว่า ‘มอลลี่’ เป็นคาแรคเตอร์ Crybaby เด็กหญิงขี้แยที่กำลังเป็นที่นิยมในเวลานี้

แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ‘Skullpanda’ (สคัลแพนด้า) ของศิลปินชาวจีนที่ชื่อว่า ‘Xiongmao’ คาแรคเตอร์หญิงสาวหน้าบึ้งที่มีลูกกลม ๆ 2 ลูกข้างหูเด่นชัด เธอได้แรงบันดาลใจมาจากดาวเคราะห์นอกโลก ซึ่งเหตุผลที่ครั้งนี้ Pop Mart เลือก Skullpanda เป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ดึงดูดในวันเปิดตัวร้านวันแรก อาจเป็นเพราะว่า Xiongmao เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในจีนเวลานี้ และก็เป็นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ยอดนิยมที่คนไทยซื้อในออนไลน์ด้วย

‘Pop Mart’ เริ่มจากร้านจิปาถะ จนเป็นช้อป Art Toys ที่เปิดตัวด้วย ‘Molly’ ซีรีส์แรกของแบรนด์

โดยซีรีส์ของ Skullpanda ที่เป็นกิมมิคก็คือรุ่น SKULLAPANDA Hoar Frost Thailand Limited ที่มีเพียง 140 ชิ้น และมีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น ซึ่งคาแรคเตอร์ไฮไลต์มีราคาสูงถึง 6,690 บาท อย่างไรก็ตาม ภายในร้านมีสินค้าคาแรคเตอร์อื่นอีกเพียบที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึง 30,000 บาท โดย ‘จัสติน มูน’ บอกว่าเป็นราคาที่ถูกกว่าจีนถึง 5 - 7% แต่จะสูงกว่าในสิงคโปร์ประมาณ 10%

ทั้งนี้ จัสติน มูน ยังแย้ม ๆ ด้วยว่า ในอนาคตอาจไม่ใช่แค่อาร์ตทอยส์ แต่ Pop Mart จะต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมอื่นด้วย เช่น อนิเมะ และเกม (ซึ่งเปิดตัวในจีนแล้ว)

เรามองว่าเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองมาก ใครจะคิดว่าคนไทยจะเป็นนักสะสมที่น่าสนใจอีกชาติหนึ่งในเอเชีย ดูจากภาพที่ Pop Mart เปิดแฟลกชิปสโตร์ วันแรกมีคนสนใจและรอซื้อตั้งแต่คืนวันที่ 19 กันยายน จนเกือบจะต้องเลื่อนการเปิดร้านไปแล้วรอบหนึ่ง เห็นคนแล้วช็อกไปเลย!

 

ภาพ : Pop Mart

อ้างอิง (เพิ่มเติม) :

SCMP

Forbesindia

Forbes

Brandtrends

Sohu