10 พ.ค. 2568 | 11:59 น.
KEY
POINTS
แม้จะไม่ใช่วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน เวลา 9.25 น. (September twenty-second, Sunday, twenty-five after nine) อันเป็นวันและเวลาที่ฝังลึกอยู่ในใจของแฟนเพลง ‘M2M’ ทั่วโลก แต่สำหรับแฟนเพลงชาวไทย เมื่อถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะหมุนกลับสู่วัยเยาว์อีกครั้ง เมื่อ ‘มาริต ลาร์เซน’ (Marit Larsen) และ ‘มาเรียน เรเวน’ (Marion Raven) ดูโอ้ป็อประดับตำนาน ได้กลับมาพบกันอีกครั้งในทัวร์ที่ชื่อว่า ‘M2M THE BETTER ENDINGS TOUR 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของเหล่าหัวใจสีม่วงนับพันดวง
นอกเหนือจากความพิเศษของการรียูเนียนในรอบ 22 ปี และการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของวง สิ่งที่ทำให้ค่ำคืนนี้ชวนให้น้ำตาคลอคือการได้ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่พวกเรากำลังหัดอ่านภาษาอังกฤษผ่านเนื้อเพลงที่ใสซื่อ เมโลดี้ที่ติดหู และเสียงร้องที่กลมกล่อมพอดีของสองสาวชาวนอร์เวย์ ที่บัดนี้เติบโตเป็นผู้หญิงวัยสี่สิบอย่างงดงาม เช่นเดียวกับแฟนเพลงที่เติบโตมาพร้อมกันอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
คอนเสิร์ตเริ่มต้นด้วยเสียงสัมภาษณ์ของสองสาวในวัยเด็ก ที่บอกเล่าอย่างอารมณ์ดีว่าพวกเธอรู้จักกันตั้งแต่อายุเพียงห้าขวบ ก่อนที่เสียงกรี๊ดจะกลบทุกถ้อยคำ ราวกับว่าเวลานั้นธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ถูกสั่นสะเทือนด้วยพลังของความคิดถึง
บนเวทีที่ประดับด้วยม่านสีเอกลักษณ์ สองสาวเปิดตัวด้วยกันยืนหันหน้าเข้าหากัน พร้อมแสงไฟไม่กี่ดวงที่ขับเน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ก่อนจะเปล่งเสียงแรกของเพลงเปิดตัว “Well I wonder, could it be...” ใช่แล้ว ใครที่ยังต่อคิวเข้าฮอลล์อยู่ในตอนนั้น ย่อมพลาด ‘The Day You Went Away’ เพลงที่เปรียบได้ดั่งไดอารีความรักแห่งยุค 2000 ไปอย่างน่าเสียดาย
ความทรงจำยังไม่ทันจาง สองสาวก็พาแฟนเพลงย้อนเวลาอย่างกระปรี้กระเปร่าใน ‘Everything You Do’ มาเรียนชวนคนดูร้องสลับท่อน วิ่งไปมาอย่างสดใสเหมือนยังอยู่ในวัยสิบแปด ไม่มีใครนึกได้เลยว่าในอีกไม่กี่วันเธอก็จะอายุครบ 41 ปีเข้าไปแล้ว
แล้วค่ำคืนนี้ก็กลายเป็นสถานีแห่งบทเพลงที่ผูกพันต่อเนื่อง ทั้ง Pretty Boy, Mirror Mirror, Don’t Say You Love Me และอีกมากมายที่ผลัดเปลี่ยนมาเยี่ยมเยือนหัวใจ พร้อมเพลงจากผลงานเดี่ยวในช่วงที่ทั้งสองต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตน
หนึ่งในช่วงเวลาที่งดงามที่สุด เกิดขึ้นเมื่อมาเรียนและมาริตหยิบกีตาร์ขึ้นมาร้อง Pretty Boy ในเวอร์ชันอะคูสติกด้วยกัน ผู้คนในฮอลล์พากันร้องคลอตามด้วยเสียงเบาที่แทบไม่อยากรบกวนเสียงของศิลปินที่รัก ราวกับเกรงว่าแม้แต่ลมหายใจก็อาจทำให้ความฝันนี้เลือนหาย
ก่อนจะเข้าเพลงนี้ มาเรียนเล่าว่า ‘pretty boy’ ในเพลงนี้เคยหมายถึงหนุ่มที่ทำให้ใจสั่น แต่ในวันนี้ ‘pretty boy’ ของเธอคือ ลูกชายตัวน้อยที่เธอพามาทัวร์คอนเสิร์ตด้วย และเธอขอมอบเพลงนี้ให้แก่เขา รวมถึงคุณแม่ทุกคน
ฟังถึงตรงนี้ ในหัวมีแต่คำว่า “งุ้ยยยยย” บ้างก็ด้วยความปีติที่ได้เห็นศิลปินในดวงใจเติบโตอย่างงดงามทั้งในฐานะนักร้องและในบทบาทของแม่ บ้างก็เพราะหัวใจมันแน่นเอ่อเกินจะพูดอะไรออกมา เมื่อหวนนึกได้ว่า เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ค่ำคืนนี้ยังไม่จบลงง่าย ๆ มาริตขโมยหัวใจผู้ชมอีกครั้งด้วย ‘I Don’t Want To Talk About It’ ที่เธอถ่ายทอดอย่างหมดหัวใจ ทุกถ้อยคำเหมือนมีน้ำหนักกว่าที่เคย โดยเฉพาะท่อน “What’s done is done, I don’t want to talk about it” ที่คงหลอนอยู่ในใจเราไปอีกหลายสัปดาห์
ในช่วงพักหายใจหายคอ สองสาวได้เล่าถึงเบื้องหลังการกลับมาครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นจากความบังเอิญอันแสนอบอุ่น วันหนึ่งรถของมาเรียนเกิดยางแบนหน้าร้านกาแฟ และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มาริตอยู่ที่ร้านพอดี ทั้งสองนั่งคุยกันนานถึง 5 ชั่วโมง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ The Better Endings Tour
ฟังแล้วก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า บางทีจักรวาลอาจมีแผนการบางอย่างเสมอ เพื่อพาเราไปพบกับสิ่งที่เราคิดว่าหายไปแล้ว
ความน่ารักที่จับใจอีกอย่างหนึ่งในค่ำคืนนั้นคือการซัพพอร์ตกันอย่างเงียบ ๆ ของทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวถึงเพลงของเพื่อนอย่างชื่นชม รวมถึงจังหวะที่มาเรียนลงไปหาแฟนคลับด้านล่าง แววตาของมาริตที่มองตามเพื่อนก็เปี่ยมไปด้วยความภูมิใจจนแทบล้นออกมา
“Ladies and gentlemen, this is my friend.” มาริตกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่มาเรียนเพิ่งร้องจบเพลง ‘It’s All Coming Back to Me Now’ ของ ‘เซลีน ดิออน’ เสียงปรบมือดังกึกก้องราวกับจะยืนยันว่า มิตรภาพแท้ย่อมไม่จางหายตามกาลเวลา
ไม่มีใครรู้ว่า ‘The Better Endings Tour’ คือบทสุดท้ายจริงหรือไม่ หรืออาจเป็นเพียงบทเริ่มต้นอีกครั้งในวัยที่ทุกอย่างไม่ต้องรีบเร่งเหมือนวันวาน แต่สิ่งที่แน่นอนยิ่งกว่าสิ่งใดคือ ความทรงจำในค่ำคืนนั้น ได้กลายเป็นของขวัญล้ำค่าของหัวใจหลายพันดวงที่ร่วมร้อง ร่วมฟัง และร่วมเติบโตเคียงข้างกันเสมอ
และในโลกที่ทุกสิ่งหมุนไปเร็วเหลือเกิน เพลงของ M2M ก็ยังคงเป็นหลักฐานว่า บางความทรงจำนั้นงดงามและล้ำค่า ไม่ว่าเราจะเติบโตมาไกลแค่ไหน หรือใช้ชีวิตห่างจากกันนานเพียงใดก็ตาม
เรื่อง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ: อินสตาแกรม M2M