28 ธ.ค. 2563 | 12:03 น.
ในสนามฟุตบอลเขาคือนักล่าตาข่ายของ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ แต่นอกสนามเขาคือนักบุญผู้อุทิศตนเพื่อเด็กหิวโหยกว่าล้านคน มาร์คัส แรชฟอร์ด ใช้ชื่อเสียงป่าวประกาศความไม่เป็นธรรมในสังคม-กดดันรัฐบาลให้สนใจปัญหา พร้อมสัญญาในฐานะอดีตเด็กยากจนคนหนึ่งว่า เขาจะทุ่มเททั้งชีวิตที่เหลือเพื่อไม่ให้เด็กคนไหนต้องพบชะตากรรมเลวร้ายแบบเดียวกันในอนาคต
“ผมรู้ดีว่าความหิวโหยมันเป็นยังไง ผมยังจำได้ดีว่า มีหลายครั้งที่เพื่อน ๆ ชวนผมไปกินข้าวที่บ้าน เพียงเพราะพ่อแม่ของพวกเขาต้องการมั่นใจว่า ผมจะได้มีอาหารเย็นตกถึงท้องในวันนั้น”
มาร์คัส แรชฟอร์ด นักเตะศูนย์หน้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีม “สิงโตคำราม” อังกฤษ เล่าย้อนความทรงจำอันแสนรันทดในวัยเด็ก ซึ่งเพิ่งผ่านไปไม่นาน แรชฟอร์ด เกิดตรงกับเทศกาลฮัลโลวีน วันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.1997 ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เขาเติบโตในครอบครัวที่มารดาต้องทำหน้าที่แม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลส่งเสียลูก ๆ ทั้งหมด 5 คนเพียงลำพังคนเดียวด้วยงานประจำที่มีรายได้เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำของดินแดนผู้ดี ณ เวลานั้น “ครอบครัวของเราเคยใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยโครงการอาหารเช้าฟรี และอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียน รวมถึงความใจดีมีน้ำใจของบรรดาเพื่อนบ้านและโค้ช” กองหน้าวัย 23 ปี ของทีมปีศาจแดงแห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ระบุในอีเมล์ส่งถึงบรรดานักการเมืองแดนผู้ดีเพื่อเรียกร้องให้ช่วยกันโหวตขยายเวลาแจกคูปองอาหารฟรีสำหรับเด็กยากจน “โรงทานที่แจกจ่ายอาหารและซุปเพื่อผู้ยากไร้ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดสำหรับพวกเรา ผมยังจำได้ชัดเจนมาก พวกเราต้องเดินทางไปย่านนอร์เทิร์น มัวร์ (เมืองแมนเชสเตอร์) ทุกปีเพื่อรับแจกอาหารเย็นฟรีในช่วงคริสต์มาส ตอนนี้ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่แม่ส่งผมไปอยู่หอพักถูก ๆ ตอนอายุ 11 ปี มันไม่ใช่การตัดสินใจที่แม่คนไหนจะทำใจได้ง่าย ๆ เลย” เริ่มสู้เพื่อเด็กยากไร้ตั้งแต่เกิดโควิด-19 จุดเริ่มต้นที่ทำให้แรชฟอร์ด เริ่มเอาเวลานอกสนามมาทุ่มเทกับการเคลื่อนไหวเพื่อเด็กหิวโหยเกิดขึ้นวันที่ 18 มีนาคม 2020 เมื่อนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ประกาศปิดโรงเรียนทั่วประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นสัญญาณว่า เด็ก ๆ นับล้านที่พึ่งพาอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียน จะประสบปัญหาขาดแคลนอาหารรับประทานเพียงพอในแต่ละวัน “ทุกคนครับ ทั่วสหราชอาณาจักรมีโรงเรียนทั้งหมดกว่า 32,000 โรง พรุ่งนี้โรงเรียนทุกโรงจะปิดทำการ เด็กจำนวนมากที่เรียนโรงเรียนเหล่านี้มีชีวิตอยู่ได้ด้วยอาหารกลางวันฟรี ด้วยเหตุนี้ผมจึงใช้เวลา 2-3 วันที่ผ่านมาคุยกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจว่า มื้ออาหารที่หายไปนี้จะเติมเต็มได้อย่างไร” แรชฟอร์ด ทวีตข้อความแรกในโซเชียลมีเดียถึงปัญหาเด็กหิวโหยที่เขาจะอุทิศเวลาที่เหลือทั้งชีวิตแก้ไขมัน อังกฤษแม้จะเป็นประเทศร่ำรวยอันดับ 6 ของโลกวัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) แต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมยังจัดอยู่ในระดับสูง โดยปัจจุบันมีสัดส่วนประชากรที่อยู่ในกลุ่มคนยากจนร้อยละ 22 และมีเด็กในครอบครัวยากจนมากถึง 30% Food Foundation มูลนิธิเพื่อขจัดปัญหาอดอยากในอังกฤษ ระบุว่า ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 สหราชอาณาจักรมีเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านซึ่ง “ขาดความมั่นคงทางอาหารรุนแรง” ทั้งหมดร้อยละ 10 แต่ตัวเลขนี้อาจพุ่งขึ้นอีกเท่าตัวจากผลกระทบของโรคระบาด ซึ่งทำให้หลายคนตกงาน และกระทบโดยตรงต่อรายได้ของครอบครัว กดดันรัฐบาลสำเร็จได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เดือนมิถุนายน 2020 แคมเปญต่อสู้ปัญหาเด็กหิวโหยของดาวยิงปีศาจแดงเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมของอังกฤษ ประกาศจะยกเลิกคูปองอาหารฟรีสำหรับนักเรียนจำนวน 1.3 ล้านคนในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน 6 สัปดาห์ หลังก่อนหน้านั้นในเดือนเมษายน ช่วงปิดเรียนเพราะปัญหาโควิด-19 ระบาดรอบแรก รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือเดียวกันนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากแรชฟอร์ดออกมาเคลื่อนไหวด้วยการเรียกร้องผ่านโลกโซเชียล พร้อมส่งข้อความไปยัง ส.ส.ในรัฐสภา และได้รับเสียงสนับสนุนกลับมาจากสาธารณชนอย่างล้นหลาม รัฐบาลอังกฤษจึงยอมกลับลำ อนุมัติงบช่วยเหลือค่าอาหารเด็กในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนต่อไป ชัยชนะครั้งนั้นทำให้วันที่ 10 ตุลาคม 2020 สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ประมุขของอังกฤษ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดลำดับ 3 (MBE) เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขาในฐานะผู้เสียสละ “รับใช้เด็ก ๆ ที่เปราะบางในสหราชอาณาจักร ระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19” รัฐบาลอังกฤษยอมถอยครั้งที่2 แม้ได้ทั้งชื่อเสียงและเกียรติยศมาแล้ว แรชฟอร์ดยังคงไม่หยุดเดินหน้าทำตามปณิธานของตน โดยหลังเข้ารับเครื่องราชย์เพียง 3 วัน เขาเริ่มแคมเปญใหม่ด้วยการเรียกร้องให้รัฐบาลขยายเวลาให้ความช่วยเหลืออาหารกลางวันแก่เด็กยากไร้ครอบคลุมทุกช่วงวันหยุดเรียนต่อ ๆ ไปในอนาคต ขณะเดียวกันก็ขอให้ปรับหลักเกณฑ์เพื่อเพิ่มจำนวนนักเรียนที่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือด้านอาหารให้มากขึ้น แม้ตอนแรกรัฐบาลมีนโยบายชัดเจน คัดค้านการขยายเวลาอุดหนุนค่าอาหารกลางวันเด็กยากจนในช่วงปิดภาคเรียนในอนาคต แต่สุดท้ายก็ต้องยอมพ่ายให้กับข้อเรียกร้องของแข้งปีศาจแดง และแรงกดดันจากสังคมเป็นครั้งที่สอง เมื่อข้อเรียกร้องของแรชฟอร์ด มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนมากกว่าล้านคน นายกฯ อังกฤษ ยกหูโทรหาแรชฟอร์ดด้วยตนเอง หลังเกมพรีเมียร์ลีกที่แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปชนะเอฟเวอร์ตัน 3-1 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2020 เพื่อแจ้งข่าวดีว่า รัฐบาลจะอนุมัติงบกว่า 400 ล้านปอนด์ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ และครอบครัวผู้ยากไร้ ในจำนวนนี้ 220 ล้านปอนด์ จะนำไปอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันฟรีในช่วงเทศกาลวันหยุดให้กับนักเรียนยากจนเป็นระยะเวลาอีก 1 ปี ครอบคลุมเทศกาลคริสต์มาสในช่วงฤดูหนาวอันแสนยากลำบากตั้งแต่ปี 2020-2021 แรชฟอร์ดบอกว่า ความช่วยเหลือครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กๆ ได้มากเกือบ 1.7 ล้านคนในช่วง 12 เดือนที่โครงการยังอยู่ แต่เขาก็ยังไม่คลายความวิตก เพราะยังมีเด็ก ๆ อีกจำนวนมากที่ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือ แม้ครอบครัวจะจัดว่ายังมีรายได้น้อยอยู่ก็ตาม ประกาศอุทิศชีวิตที่เหลือเพื่อเด็กยากไร้ “ผมอุทิศชีวิตให้เรื่องนี้เต็มที่ และจะใช้ทั้งชีวิตที่เหลือสู้เพื่อสิ่งนี้ เพราะภายในใจของผมคิดว่า ไม่ควรมีเด็กคนไหนในสหราชอาณาจักรต้องเผชิญกับความหิวโหยอีกต่อไป” ดาวยิงปีศาจแดงประกาศกร้าว หลังได้รับการสนับสนุนจากทุกทิศทุกทาง รวมถึงจากแฟนบอลทีมคู่แข่งร่วมลีกอย่างลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พรสวรรค์ด้านลูกหนังทำให้แรชฟอร์ด เริ่มเข้าสู่วงการฟุตบอลด้วยการเป็นนักเตะเยาวชนของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ และได้เปิดตัวลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของสโมสรครั้งแรกในวัย 18 ปี ในยุคของอดีตกุนซือ หลุยส์ ฟานกัล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ปัจจุบันเขามีสัญญาอยู่กับปีศาจแดงจนถึงเดือนมิถุนายน 2023 โดยได้รับค่าเหนื่อย 200,000 ปอนด์ หรือเกือบ 8 ล้านบาทต่อสัปดาห์ รายได้ขนาดนี้พร้อมชื่อเสียงและเกียรติยศที่ถาโถมเข้ามา หากเป็นคนทั่วไปคงใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายหรูหรา แต่ไม่ใช่กับเด็กหนุ่มจากเมืองแมนเชสเตอร์ผู้นี้ เพราะนอกจากเขาจะไม่เคยลืมรากเหง้าที่มาของตนเองแล้ว ยังใช้ชื่อเสียงและเงินทองที่ได้มา เป็นกระบอกเสียงต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม หาก “อำนาจ (รวมถึงชื่อเสียงเงินทอง) ควรมาพร้อมกับหน้าที่ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่” คือคติประจำใจของซูเปอร์ฮีโรอย่าง “สไปเดอร์แมน” วีรกรรมทั้งในและนอกสนามของศูนย์หน้าทีมปีศาจแดงครั้งนี้ คงทำให้เด็กหนุ่มนาม มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นทั้งซูเปอร์ฮีโร่และนักบุญในสายตาของใครหลายคนเช่นกัน โดยเฉพาะบรรดาเด็ก ๆ ผู้ยากไร้นับล้านที่จะมีอาหารให้ประทังชีวิตอยู่ต่อไป เรื่อง: ภานุวัตร เอื้ออุดมชัยสกุล ข้อมูลอ้างอิง: https://time.com/5903453/marcus-rashford-child-food-poverty/ https://apnews.com/.../virus-outbreak-marcus-rashford... https://www.bbc.com/news/education-54841316 https://www.bbc.com/sport/football/48826737 https://www.bbc.com/sport/football/53096253