03 ส.ค. 2568 | 17:00 น.
KEY
POINTS
เมื่อ 12 ปีก่อน ‘ฮิโรทากะ ไซโตะ’ (Hirotaka Saito) เคยเป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตเยี่ยงราชา ห้อมล้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติมหาศาล แน่นอนว่านี่คือชีวิตที่แสนสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างรอบตัวกำลังดำเนินไปได้สวย แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อธุรกิจของเขาประสบปัญหาอย่างหนัก ขาดทุนย่อยยับ หนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ไซโตะไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าเขาในวัย 42 ปี จะต้องเผชิญเหตุการณ์เช่นนี้ และเพราะไม่ได้เตรียมใจมาก่อน สมองของเขาก็พลันคิดไปต่าง ๆ นานา สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า เขาคงต้องจบชีวิตลงเสียที…
หลังจากตัดสินใจเสร็จสรรพ ไซโตะเก็บข้าวของ พร่ำโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ว่าเขาเองคือความผิดพลาด เขาเองคือคนที่ทำให้ทุกอย่างพังทลาย และเพราะเหตุนี้ จึงไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อ ขอจบทุกอย่างลงก่อนจะนำความเดือดร้อนมาให้คนอื่นเสียดีกว่า
แต่ในวันนั้น สุนัขของไซโตะที่หนักถึง 70 กิโลกรัม กลับนั่งขวางอยู่หน้าประตูบ้าน และไม่ยอมให้เขาออกไป ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เพื่อนสี่ขาตัวนี้ก็ไม่ยอมขยับแม้แต่น้อย ไซโตะยอมแพ้ กลับมานั่งทบทวนความคิดตัวเองใหม่อีกรอบ และพบว่าเขาจะไม่ยอมแพ้แบบนี้อีกแล้ว ในเมื่อสุนัขยังเห็นค่าเขาอยู่ แล้วทำไมเขาถึงทำลายคุณค่าของตัวเองขนาดนั้น หลังจากนี้ เขาจะเป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อจะได้อยู่กับเพื่อนคนนี้ไปนาน ๆ
ไซโตะขายรถเฟอร์รารีสุดหรู นำเงินไปซื้อที่ดินผืนเล็ก ๆ เพื่อเปิดเป็นศูนย์พักพิง Wansfree ตั้งอยู่ที่เมืองยาอิซุ จังหวัดชิซูโอกะ ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำหน้าที่ดูแลสุนัขที่มีพฤติกรรมรุนแรง หรือถูกทารุณกรรมจากน้ำมือมนุษย์ จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้าย และนั่นทำให้พวกมันถูกกีดกันจากสังคม
ศูนย์ดูแลสุนัขแห่งนี้เต็มไปด้วยอิสระ พวกมันจะไม่ถูกล่ามโซ่ เพียงเพราะอยากให้เพื่อนสี่ขาเหล่านี้ รับรู้ได้ว่า พวกมันเองก็สมควรได้รับความรักเช่นกัน
ผมอยากให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นที่รัก
“เพราะเมื่อผมตระหนักได้ว่าผมได้รับการช่วยชีวิตจากสุนัข ผมก็เชื่อว่าผมควรใช้ชีวิตที่เหลือไปกับการช่วยเหลือสุนัข” ไซโตะให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น
“ผมจะทุ่มเงินทั้งหมดให้กับมัน” เขากล่าวเสริม
แม้จะเริ่มต้นด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก แต่ไซโตะก็มักจะถูกสุนัขในศูนย์พักพิงกัดไม่เว้นวัน ทั้ง ๆ ที่เขาใส่ถุงมือป้องกันถึงสามชั้น แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ เพราะเข้าใจดีว่าการจะกลับมาไว้ใจมนุษย์ไได้อีกครั้ง ต้องใช้เวลาไม่น้อย
ปัจจุบัน Wansfree เป็นบ้านของสุนัข 40 ตัว และแมวอีก 8 ตัว ไซโตะกล่าวว่า เขากำลังระดมทุนจากสาธารณชนเพื่อขยายศูนย์ให้สามารถรองรับสุนัขได้ถึง 300 ตัวภายในปี 2028
“ตอนนี้ผมมีความสุขกว่าที่เคย ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้ค้นพบความจริงข้อนี้” เขากล่าว
เรื่องราวของเขาได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์
“สุนัขก็มีหัวใจและความรู้สึกเหมือนมนุษย์ พวกมันสมควรได้รับความเคารพและความรัก ผมนับถือคุณไซโตะ” ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนหนึ่งกล่าว
“ฉันยินดีจะช่วยเหลือศูนย์นี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” อีกคนหนึ่งแสดงความเห็น
นี่คือเรื่องราวของชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ที่เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา ผ่านการกระทำของสัตว์สี่ขา ที่ไม่มีแม้แต่คำพูดห้ามปราม มีเพียงขนนุ่ม ๆ ตัวอ้วนกลม และแววตาใสแจ๋ว ที่ราวกับจะสื่อออกมาว่า ไม่ว่าโลกจะเลวร้ายแค่ไหน เขาพร้อมอยู่เคียงข้าง และโอบกอดความเศร้าหมองของเจ้าของไม่ห่างไปไหน
บางทีเรื่องเรียบง่ายที่สุดอย่างการได้รักและถูกรัก อาจเป็นคำตอบของการมีชีวิตอยู่ก็ได้
เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง
อ้างอิง
Japan man sells Ferrari to fund shelter for ‘taxing’ dogs, repay pet that saved his life