06 ต.ค. 2568 | 17:33 น.
KEY
POINTS
คุณเคยจินตนาการถึงชีวิตวัยเกษียณไหม?
ชีวิตที่เป็นอิสระและใฝ่ฝันถึงชีวิตที่มีความสุขในวัยบั้นปลาย นี่คือแนวคิดสำคัญของ ‘The Bird’s Nest’ หมู่บ้านที่มีเพียง 14 หลังคาเรือนในเมืองเท็กซัส
หมู่บ้านที่รับเพียงหญิงวัยเกษียณ มีหมา 9 ตัว ไม่มีดราม่า และ ‘ไม่มีผู้ชาย’
ปัจจุบันอายุของสมาชิกเฉลี่ยอยู่ที่ 60-80 ปี ตื่นเช้ามาทำสิ่งที่พวกเธออยากทำ และแลกเปลี่ยนเรื่องราวผ่านศาลาเล็ก ๆ ที่ทุกคนจะคอยเยียวยาและโอบกอดหัวใจให้กันและกัน
แม้จะไม่มีผู้ชายที่นี่ แต่ผู้หญิงเหล่านี้กลับพบ อิสระและความสุขในแบบของตัวเอง ค่อย ๆ นำทุกเสียงหัวเราะและทุกเรื่องราวมาก่อรังนกที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความเข้าใจ และความกล้าหาญ
เราเชื่อว่า ไม่ว่าอายุเท่าไร ผู้หญิงก็จะสามารถมีชีวิตวัยเกษียณที่สมบูรณ์และเต็มไปด้วยพลังของตัวเองได้
รังนกหญิงสาวเกิดจากความตั้งใจของ ‘โรบิน เยเรียน’ ที่อยากจะทำให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อิสระในวัยเกษียณ
ย้อนกลับไป โรบินก็เคยเป็นคุณแม่เต็มเวลาที่ต้องรับมือกับชีวิตที่ล้มเหลว และเพิ่งมีเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในวัย 50 ปี แม้จะทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองดาลัสอยู่ 20 ปี มีบ้านเล็ก ๆ ของตัวเอง ก่อนจะเกษียณแล้วเริ่มมองหารายได้ให้กับตัวเองเพื่อให้ชีวิตบั้นปลายมีความสุข
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอขายบ้านหลังเก่า ถอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอันน้อยนิดมาทุ่มสร้างมินิเฮาส์ (ที่หน้าตาคล้ายรถบ้าน - เป็นบ้านที่มีล้อ) 14 หลังในพื้นที่เล็ก ๆ ของเมืองเท็กซัส
“ฉันไม่ใช่คนที่มัวแต่คิดว่า ถ้าเกิด… แล้วจะเป็นยังไง ฉันรู้ว่าเงินก้อนนั้น (ค่าบ้านและเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) คงไม่ช่วยอะไรมากนักตอนเกษียณ ฉันเลยตัดสินใจทำมัน”
แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด…
เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าโรบิน คือ ผืนดินอันแห้งแล้ง ไกลตัวเมืองเกินกว่าจะหาคนมาช่วยตัดหญ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีแม้แต่ร่มไม้ มันไม่ใช่แดนสวรรค์ของใครทั้งนั้น
ถึงจะยาก แต่โรบินก็เลือกที่จะเผชิญหน้า ย้ายบ้านมาที่รังนกแห่งนี้ในปี 2021 โดยมี ‘ฮัฟฟ์’ เพื่อนของเธอที่ลากบ้านเล็ก ๆ มาอยู่ด้วยกัน
ทั้งสองคนช่วยกันขุดหลุม ปลูกต้นไม้ล้อมรอบเพื่อความปลอดภัย และเติมกำลังใจให้กันในวันที่เหนื่อยและยากลำบาก
“เธอมีความฝัน แต่มันไม่เป็นอย่างที่ฝันไว้ และเธอต้องปรับตัว” ฮัฟฟ์บอกกับเพื่อนรัก
สุดท้าย โรบินก็ทำฝันสำเร็จ เธอปรับพื้นที่ ปูถนน ติดตั้งระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบบำบัดน้ำเสีย และขอเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นสวนรถบ้าน (R.V. park)
รวมไปถึงการติดตั้งฐานคอนกรีต ขนาด 10 x 30 ฟุต จำนวน 14 จุด พร้อมเปิดเช่าให้กับหญิงวัยเกษียณในราคาเดือนละ 450 ดอลลาร์
แนวคิดเรื่อง ‘ชุมชนสำหรับผู้หญิง’ เกิดขึ้น หลังจากโรบินจัดเวิร์กช็อปสอนการใช้เครื่องมือช่างสำหรับผู้หญิงที่ The Bird’s Nest แล้วมีผู้หญิงจากหลายรัฐเดินทางมาร่วมงาน
คืนนั้น พวกเธอเริ่มพูดคุยกันรอบกองไฟ โรบินพูดขึ้นว่า “ถ้าฉันทำที่นี่ให้เป็นชุมชนสำหรับผู้หญิงล้วนล่ะ?” และทุกคนตอบพร้อมกันว่า “มันต้องเยี่ยมแน่ ๆ”
หลังจากนั้น โรบินไปออกรายการ ‘Tiny Home Expedition’ ชื่อของ The Bird’s Nest ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วยประโยคขายว่าจะเป็นชุมชนของผู้หญิงที่จะเสริมพลังกัน ทำให้ปัจจุบันมีผู้หญิงอายุระหว่าง 60-80 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงโสด หย่าร้าง หรือหม้ายทั้งหมด 11 คนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้
ขณะเดียวกัน ผู้หญิงใน The Bird’s Nest ไม่ใช่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา และก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยากจนที่สุด แต่เป็นหญิงเกษียณจากงานต่าง ๆ หรือเป็นภรรยาหรือแม่ของใครสักคนที่ต้องการอิสระ
การอยู่ที่นี่มันเรียบง่ายและเป็นพื้นที่ปลอดภัย ภายใต้กฎสำคัญ คือ ‘ห้ามดราม่า’
แต่ละวันทุกคนจะต้องสร้างกิจวัตรของตัวเอง อย่างโรบินเธอจะตัดหญ้า เก็บดอกทานตะวัน และออกไปกินข้าวกับเพื่อนบ้าน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันใน ‘ศาลา’ ที่พวกเธอเรียกว่า ‘ห้องครัว’
“เราจะมารวมตัวกันทุกเย็น ทุกคืนเลยก็ว่าได้ เพื่อพูดคุย ทักทายกัน และดูว่าวันนั้น แต่ละคนเป็นยังไงบ้างถ้ามีปัญหาอะไรก็ตาม ทุกคนพูดออกมาตรง ๆ แล้วจะจบการบอกว่า ‘อย่าโกรธกันนะ นี่เป็นแค่มุมมองของฉัน”
แล้วถึงจะไม่มีผู้ชายก็ไม่ได้แปลว่า เธอจะเกลียดผู้ชาย แต่ก็เป็นมติของสมาชิก The Bird’s Nest ร่วมกัน เหตุผลหลัก คือ ความปลอดภัย ทั้งทางกายภาพและจิตใจ
หลายคนบอกว่า การสนทนาเรื่องส่วนตัวอาจเปลี่ยนไป พวกเธอจะไม่สามารถพูดคุยเรื่องบางเรื่อง เช่น การเข้าห้องน้ำเมื่อจาม หรือเรื่องวัยทอง การคลอดลูก และสามารถเลือกไม่ใส่บรา
อีกทั้งยังเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า ผู้หญิงก็ทำได้
การจะเข้ามาเป็นสมาชิกของ ‘The Bird’s Nest’ ทุกคนต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกและสัมภาษณ์อย่างเข้มข้น ดังนั้นพวกเขาต้องดูแลตัวเอง พึ่งพาตัวเองได้ เชื่อใจ เคารพ และเอาใจใส่กัน
“เราเพิ่งมีเพื่อนบ้านคนหนึ่งผ่าตัดเข่า พวกเราก็ช่วยกันผลัดกันพาไปกายภาพบำบัด ทำอาหารให้ ไปซื้อเรารับรู้กันได้เลย ใครเดินออกมาแล้วดูไม่โอเค ทุกคนจะถามว่า ‘เธอเป็นอะไรไหม’”
“ฉันอยากให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ดีและอยากให้ทุกคนมีความสุข”
ว่ากันว่า เราอาจสบายใจกับคนแปลกหน้ามากกว่าคนที่เรารู้จักคุ้นเคย
ดูเหมือนหมู่บ้านรังนกแห่งนี้ก็จะใช้ทฤษฎีนั้น สำหรับโรบินที่เป็นคนริเริ่ม เธอเองก็ยังตกใจที่ได้มองเห็นมุมมองใหม่ ๆ ของตัวเอง คือ การรับฟังและใส่ใจเพื่อนบ้าน
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเป็นคนมี empathy แต่พอมาอยู่ที่นี่ ฉันว่าฉันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ถ้ามีคนถาม ฉันจะตอบตามตรง ฉันเองก็เคยทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี แต่ฉันบอกพวกเขาว่า นี่เป็นเพียงความรู้สึกและมุมมองของฉัน’ สำหรับฉัน นี่แหละคือมิตรภาพที่แท้จริง”
เราเองก็เชื่อว่า การพูดตรง ๆ ถึงจะทิ่มแทงใจกันบ้าง แต่มันคือความจริงที่ทำให้เราเติบโต
วันนี้โรบินยังเ็นเจ้าของหมู่บ้านที่รับฟังและดูแลสมาชิกของตัวเองอยู่ทุกวัน คอยคิดกิจกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทั้งเก็บเบอร์รี่ ไปซื้อของที่ Walmart ไปว่ายน้ำ หรือชวนสร้างเล้าไก่
แล้วเธอก็หวังว่า หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เธอทุ่มสุดตัวจะเป็นโมเดลให้คนวัยอื่นมาสร้างพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง โอบกอดอิสระ และเรียนรู้ที่จะเข้าใจกัน
สำหรับสมาชิกทุกคน The Bird’s Nest ไม่เป็นแค่บ้าน แต่เป็นครอบครัวที่คอยดูแลกัน พูดกันตรง ๆ แบ่งปันอาหาร เสียงหัวเราะ และใช้เวลาร่วมกัน
โรบินจึงไม่เคยเสียใจ และบอกกับตัวเองว่า เธอคิดถูกแล้วที่สร้างรังนกของหญิงวัยเกษียณขึ้นมา รังที่ไม่มีใครตัดสิน
รังนกที่สอนให้รู้ว่า…แม้จะอยู่เพียงลำพัง ผู้หญิงก็สามารถมีอิสระ มีความสุข และสร้างครอบครัวของตัวเองได้
ภาพ : อินสตาแกรม @thebirdsnesttexas