‘ซูจี’ ความสวยและความสดใสเหมือนวันแรกที่โลกรัก สมฉายา 'รักแรกแห่งชาติ'

สำหรับนักแสดงหญิงเกาหลีใต้ มีไม่กี่คนที่ได้รับฉายาว่า ‘รักแรกแห่งชาติ’ หนึ่งในนั้น คือ ‘ซูจี’ นักแสดงหน้าหวานที่เคยเป็นไอดอลและมอบความสดใสให้กับคนที่เจอเธออยู่ตลอด

แม้บางครั้งคำว่า ‘รักแรก’ ที่เป็นคำชื่นชมจะกลายเป็นแรงกดดัน แต่สุดท้าย เธอก็เลือกที่จะปล่อยวางทุกอย่าง แล้วกลับมาโฟกัสที่ตัวเอง

จนมาถึงวันนี้ เธอเลือกเดินตามจังหวะของตัวเอง มีความสุขในทุกวัน เพราะเธอเชื่อว่า การลงมือทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แล้วทุกอย่างจะดีและสมบูรณ์ในสักวันหนึ่ง 

เด็กสาวเมืองกวางจูที่วิ่งตามความฝัน

ก่อนจะเป็น ‘ซูจี’ ที่ได้ฉายาว่าเป็น ‘รักแรกของเกาหลีใต้’ เธอคือพี่สาวคนโตที่เติบโตในบ้านฐานะปานกลางของเมืองกวางจู เธอต้องช่วยงานร้านอาหารของพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยหยุดวิ่งตามความฝันการเป็นศิลปินของตัวเอง

ในสมุดบันทึกผลการเรียนตอนมัธยมต้น มีคำถามหนึ่งที่ให้ซูจีเขียน ‘อาชีพในอนาคตที่เธอใฝ่ฝัน’ กับ ‘อาชีพในอนาคตที่คุณแม่อยากให้เป็น’ เธอเขียนคำตอบว่า เธออยากเป็นศิลปินหรือดารา ส่วนคุณแม่อยากให้เป็นครูสอนเต้น

เธอคือเด็กที่คว้ารางวัลการเต้นในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียนมากมาย หลังจากเลิกเรียน เธอมักจะไปซ้อมเต้นกับเพื่อน ๆ ที่ชอบเต้นเหมือนกันจนพ่อแม่แอบเป็นห่วง

พ่อของซูจีเคยให้สัมภาษณ์ว่า ด้วยความเป็นห่วง เขาเคยตามไปดูลูกสาวที่ห้องซ้อม แม้ตอนแรกจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่พอเห็นสายตาที่มุ่งมั่นของลูกสาว คนเป็นพ่อก็ใจอ่อนและยอมให้ลูกทำสิ่งที่ตัวเองรัก

“ทีมเต้นมีผู้ชายเยอะมาก แล้วก็ซ้อมกันจนดึก ผมเลยแอบตามไปที่ห้องซ้อม พอผมเห็นใบหน้าของเธอที่ซีดเซียว เหงื่อทั่วตัว ผมก็คิดว่า เด็กคนนี้จะต้องทำได้ดี ไม่ว่าอะไรก็ตาม”

หลังจากฝึกฝนตัวเองอยู่นาน เธอก็ตัดสินใจไปเข้าประกวดออดิชันรายการ Mnet Superstar K1 ปี 2009 ที่กวางจู แต่ดวงดาวก็คือดวงดาว ระหว่างที่เธอไปเข้าห้องน้ำ ซูจีบังเอิญเจอทีมงานของเจวายพี เอนเตอร์เทนเมนต์ (JYP Entertainment) และชวนเธอเข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดของค่าย

เธอฝึกซ้อมและเคี่ยวกรำตัวเองอยู่ประมาณ 1 ปี จนสุดท้าย 1 กรกฎาคม 2010 ซูจีก็ปรากฎตัวในฐานะสมาชิกวง ‘Miss A’ จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงที่เปลี่ยนชีวิตของ ‘ซูจี’ ไปตลอดกาล 

สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปตัวท็อปเจนสอง

Miss A ประกอบด้วยสมาชิก 2 สัญชาติ คือ เกาหลีใต้และจีน ทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย ซูจี, มิน, เฟย และเจีย ถือว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้รับความนิยมและถูกจับตามองมาก ๆ ในยุคของ K-Pop เจนเนอเรชันที่ 2 (เดบิวต์ปี 2005-2011)

เพราะแค่ปล่อยซิงเกิลเดบิวต์อย่าง ‘Bad Girl Good Girl’ ก็เรียกว่า ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ชื่อของ ‘Miss A’ ติดอันดับค้นหาในเว็บไซต์ต่าง ๆ และเพลงเดบิวต์ก็ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตเกาหลี เช่น  Melon, Cyworld, Mnet, Soribada, Bugs, Hanteo Online และ Monkey3

นอกจากนี้ การเข้าร่วมรายการเพลงที่ประกาศให้คนทั้งเกาหลีใต้และทั่วโลกรู้จัก Miss A ก็ทำให้ทั้งสี่สาวได้รับคำชมว่าแสดงและร้องสดได้ดีสมฉายา ‘เกิร์ลกรุ๊ปตัวแทนเอเชีย’ 

เรียกว่าเพียงปีแรกของการเดบิวต์ก็ปังสุด ๆ เพราะช่วงปลายปี Miss A ก็เดินทางรับรางวัลอย่างต่อเนื่องจากเพลง Bad Girl Good Girl ไม่ว่าจะเป็นรางวัลเล็กหรือใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น รางวัล Digital Song Bonsang จาก Golden Disc Awards ครั้งที่ 25 และรางวัล Song of the Month จาก Cyworld Digital Music Awards 

แต่รางวัลที่การันตีความสำเร็จ คือ การที่ Bad Girl Good Girl พาพวกเธอขึ้นรับรางวัลแดซัง สาขา Song of the Year รวมถึงได้รางวัล ‘ศิลปินหญิงหน้าใหม่’ (New Female Artist Awards) จากงาน Mnet Asian Music Awards ที่มาเก๊าในปี 2010 ได้สำเร็จ

ต่อจากนั้น ไม่ว่าจะออกเพลงอะไร แฟน ๆ ก็ต่างรอคอย และยังเป็นเพลงระดับตำนานที่เหล่าแฟนเพลงเกาหลียังคงคิดถึง เช่น Good-bye Baby, I don’t need a man, Hush หรือ Breath เป็นต้น

“เหมือนกับเราเพิ่งร้อง Shut up Boy กันไปเมื่อวานเลย เวลาผ่านไปเร็วมาก ๆ เลย ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่มาหาพวกเราจากทุกที่เลย แม้ว่าฝนจะตกหรือหิมะตก พวกเราจะตั้งใจทำงานให้หนักขึ้นที่จะทำให้ทุกคนมีกำลังใจใช้ชีวิตมากขึ้น” ซูจีพูดถึงแฟนคลับที่รัก Miss A ในวาระครบรอบ 1,000 วัน 

ถึงอย่างนั้น ช่วงหลังสมาชิกแต่ละคนก็เริ่มออกผลงานเดี่ยวกัน อย่างเจียและเฟยก็ปล่อยเพลงเดี่ยว ส่วนซูจีเองก็หันไปทำงานแสดงมากขึ้น ทำให้ผลงานเพลงของวงน้อยลง กระทั่งปี 2017 เจียและมินไม่ต่อสัญญากับ JYP ทำให้  Miss A กลายเป็นตำนาน 

แม้วันนี้ Miss A จะไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันแล้ว แต่ชื่อของพวกเธอยังคงเป็นเกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานที่อยู่ในความทรงของแฟน ๆ ตลอดมา

นักแสดงที่เป็นรักแรกของเกาหลีใต้

เอาเข้าจริง หลังจากผ่านพ้นขวบปีแรกของการเป็นไอดอล ซูจีก็มีโอกาสเข้ามาชิมลางการแสดงในบทบาทของ ‘โกแฮมี’ ในซีรีส์ Dream High ที่ออกอากาศในปี 2011 ร่วมกับศิลปินหน้าใหม่หลายคน ทั้งอดแทคยอน อูยองจาก 2PM ฮัมอึนจองจาก T-ARA รวมถึง ‘ไอยู’ ด้วย

แล้วซีรีส์เรื่องนี้ก็กลายเป็นซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงสุดอันดับ 1 ในช่วงเวลาออกอากาศ และผลงานเรื่องแรกก็ยังทำให้เธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดง จนสามารถคว้ารางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัล KBS Drama Awards ปลายปีนั้นมาครองได้

Dream High ผ่านไป ซีจูก็มาลองเล่นภาพยนตร์ครั้งแรกในเรื่อง Architecture 101 โดยเธอรับบท ‘ซอยอน’ ที่ทำให้หลายคนนึกถึง ‘รักแรก’ อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถทำลายสถิติ Box Office มียอดผู้ชมสูงถึง 4.1 ล้านคน สร้างปรากฏการณ์ว่า หนังรักก็ได้รับความนิยมได้  เลยทำให้สื่อเกาหลีใต้ตั้งฉายาให้ซูจีเป็น ‘รักแรกแห่งชาติเกาหลี’ อีกคน หลังจากที่ซนเยจินหรือจอนจีฮยอนก็เคยได้ฉายานี้เช่นกัน

เพราะคำว่า ‘รักแรก’ มันจะสื่อถึงความสดใสและความบริสุทธิ์ แต่ซูจีเคยให้สัมภาษณ์ว่า แม้หลายคนจะเรียกเธอว่ารักแรก แต่ในฐานะศิลปินและนักแสดง เธอจะทำให้เห็นว่า ‘ซูจี’ เป็นผู้หญิงที่มีหลากหลายด้านเพื่อก้าวข้าวคำว่ารักแรกให้ได้

“รักแรกแห่งชาติเป็นฉายาที่ดีมาก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ฉันต้องก้าวข้ามทุกครั้งที่เลือกงาน ถ้ามัวแต่กังวลว่า ‘ภาพลักษณ์ฉันต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้’ สุดท้ายคงทำอะไรไม่ได้เลย 

“ฉันอยากให้ทุกคนเห็นว่าฉันก็มีหลายด้าน  และในเมื่อฉายานี้มาจากภาพยนตร์อยู่แล้ว ฉันเลยไม่ได้คิดว่าจะต้องทำตัวให้ตรงกับภาพของรักแรกแห่งชาติ”

เธอยังคงเป็นไอดอลควบคู่กับนักแสดงมาตลอด อีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ก็คือ การรับบทนำในซีรีส์แนวแฟนตาซีโรแมนติกเรื่อง ‘Gu Family Book’ ประกบคู่กับ ‘อีซึงกิ’ ในปี 2013 ที่มีเรตติ้งสูงถึง 14.5% แล้วก็เป็นผลงานที่ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงที่สังคมเกาหลีใต้จับตามองในฐานะดาวดวงใหม่ของวงการ

แต่ชื่อเสียงที่เข้ามาไม่ทันตั้งตัว แง่หนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับซูจีนี่เป็นความกดดันที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ 

“ความนิยมทำให้ฉันกดดัน เพราะฉันเชื่อว่า ความฮอตไม่มีทางคงอยู่ตลอดไป หลายคนบอกว่าฉันกำลังเป็นกระแส แต่ตัวฉันเองก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ฉันได้รับความรักก็จริง แต่พอคิดว่าสักวันหนึ่งความนิยมนั้นอาจหายไป ก็รู้สึกหวาดกลัว”

แม้จะความหวาดกลัว แต่เธอเลือกเดินหน้าต่อไป หลังจากวง Miss A ปิดตัวลง เธอก็เดินหน้าทำงานการแสดงและผลงานเดี่ยวแบบเต็มสูบ 

ฝั่งการเป็นนักร้อง เธอปล่อยเพลงออกมาต่อเนื่องตลอดปี 2017 ถึงปี 2025 เพราะเธอเคยบอกว่า ถึงจะเป็นนักแสดง ตัวตนของเธอ คือ การเป็นนักร้อง 

ส่วนฝั่งซีรีส์ ทุกเรื่องที่เธอรับเล่นก็ได้รับความนิยมและเป็นผลงานที่อยู่ในดวงใจใครหลายคน ทั้ง Uncontrollably Fond ปี 2016  และ While You Were Sleeping ปี 2017 

หลังจากนั้น เธอก็หมดสัญญากับเจวายพี เอนเตอร์เทนเมนต์ ไปเซ็นสัญญากับ Management SOOP ที่ดูแลนักแสดงแถวหน้าเกาหลีอย่างกงยู แล้วกราฟความนิยมก็พุ่งสูงขึ้นจากผลงานที่โดดเด่น เช่น เรื่อง Vagabond ปี 2019 ที่หลายคนรอภาค 2 อยู่ทุกวัน  Start-Up ปี 2020 Anna ปี 2022 Doona! และ Wonderland ปี 2023 รวมถึงล่าสุดกับ Genie, Make a Wish ที่พุ่งทะยานขึ้นอันดับ 1 รายการยอดนิยมใน Netflix ประเทศไทย (ข้อมูลวันที่ 10 ตุลาคม 2025)

วันนี้ซูจีไม่ได้มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แค่ตั้งใจทำทุกผลงานออกมาให้ดีที่สุด ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เธอปล่อยให้คนอื่นเป็นคนตัดสิน

“ฉันไม่ได้ตั้งเป้าหมายใหญ่โต แค่เต็มที่ในทุก ๆ ช่วงเวลาเท่านั้นเอง ทุกครั้งที่ทำงาน ฉันคิดเสมอว่า ‘ถ้าเราตั้งใจทำให้ดีที่สุดในแต่ละวัน เดี๋ยวมันก็ออกมาดีเอง’ แค่เตรียมพร้อมในการมากองถ่าย ทำงานให้ดี แล้วปิดท้ายวันนั้นให้ดี เท่านี้ก็พอ”

ผลลัพธ์ของการตั้งใจทำทุกวันให้ดี

ย้อนกลับไป ปี 2013 ช่วงที่ซูจีกำลังได้รับความนิยมมาก ๆ มีหลายแบรนด์ติดต่อมาเข้ามาให้เธอเป็นพรีเซนเตอร์จนเรียกว่า ‘สาว 10,000 ล้านวอน’ 

ฉายาต่าง ๆ ที่ได้รับ ทำให้ซูจีต้องคอยระมัดระวังในทุกการกระทำ หลักฐานที่ชัดเจนว่า สิ่งที่เธอแบกไว้หนักเกินกว่าที่เด็กผู้หญิงวัย 19 ปีในเวลานั้นเกินจะรับไหว คือ การร้องไห้ออกมาระหว่างให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวของซีรีส์เรื่อง Gu Family Book

“ทุกครั้งที่ถ่ายโฆษณา ฉันยิ่งรู้สึกถึงความรับผิดชอบมากขึ้น เลยระวังตัวในการวางตัวและการกระทำมากขึ้นค่ะ” เธอพูดก่อนที่น้ำตากลั้นไหวจะไหลออกมา

แต่ชั่วโมงบินในวงการที่มากขึ้น ก็ทำให้เธอค่อย ๆ ปล่อยวาง วางทุกฉายา วางทุกความคาดหวัง แล้วกลับมาโฟกัสที่ใจของตัวเอง 

“ที่ผ่านมา ฉันเอาแต่ทำงานไล่ตามเป้าหมายมาตลอด แต่สุดท้ายฉันมารู้ว่าการมองหาช่วงเวลาเล็ก ๆ ที่ทำให้มีความสุขในชีวิตนั้นสำคัญกว่า” 

ปี 2025 ซูจีกำลังเป็นหญิงสาววัย 30 ปี แต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย คือ ซูจียังเป็นนักแสดงที่สวย ชอบร้องเพลง พกรอยยิ้ม และมอบความสุขให้คนอื่นเสมอมา เหมือนวันแรกที่หลายคนรู้จักเธอ

“ฉันรอจะเป็นคนวัย 30 มาตลอด ทั้งคาดหวังและสงสัยว่าฉันตอนโตกว่านี้จะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ฉันสบายใจมากขึ้น ไม่ได้รู้สึกว่าอะไรเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้เลยตั้งตารอวัย 40 แล้ว

“ผลงานที่ผ่านมา ฉันพอใจมาก ทุกงานเป็นงานที่อยากทำ ฉันเป็นพวกทุ่มเต็มที่เลยไม่เสียใจ เพราะชอบทำทีละอย่างไปเรื่อย ๆ ทำแต่ละวันให้ดี แล้วมันก็เสร็จสมบูรณ์ด้วยความพยายามของเราในแต่ละวัน”

ตลอด 15 ปีบนเส้นทางบันเทิงของซูจี เธอไม่ได้วิ่งแข่งกับใคร แต่วิ่งไปข้างหน้าด้วยจังหวะของตัวเอง ตั้งใจใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในทุกวัน นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ความงามและความสวยของเธอยังเฉิดฉายเสมอ

 

ภาพ : อินสตาแกรม skuukzky

 

อ้างอิง

[TF포커스] 수지 & JYP, 9년간의 성장 히스토리 / The Fact

[인터뷰①]`안나` 수지 "인생캐릭터 호평, 꿈같고 행복해요" / 스타투데이

수지 1위, 진정한 CF퀸 인증 ‘광고 호감도 돋보적’ / 스타투데이

수지, 부모님께 '카페+고급차+집' 선물(명단공개) / 스포츠투데이

구가의 서 시청률 14.5% 기록… 6주 연속 월화극 1위 '수성' / 경인일보

미쓰에이, 성공 데뷔전 후 5일만에 음원 차트 싹쓸이 / dailian

'청불2' 수지, 중3 생활기록부 공개 '수상경력 秀' / starnews

[NC인터뷰] 수지 "'원더랜드'로 박보검 다시 봤죠…30대엔 열심히 피부과 다닐거예요" / NC TV

청춘불패 시즌2 - Invincible Youth 2 EP41 # 005 / KBS Entertain

miss A Officially Disbands After 7 Years / soompi

Special edition of ‘Architecture 101’ to be released / Korea JoongAng Daily

Suzy opens up on life views / Herald Pop

[Special Clip] "Suzy's letter to say A" from miss A 1000 Days LIVE Chat Event / miss A