26 ก.ย. 2568 | 18:22 น.
KEY
POINTS
ในวงการบันเทิง อาจดูเป็นเรื่องปกติที่นักแสดงจะผันตัวมาเปิดธุรกิจของตัวเอง
เหมือนกับ ‘วิน’ เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่ตอนนี้เขาเป็นนักแสดงที่สวมหมวก CEO ที่พาแบรนด์ ‘SOURI’ แบรนด์ขนมที่มี ‘มาการอง’ เป็นตัวชูโรงตีตลาดคนรุ่นใหม่ได้สำเร็จ
ด้วยบทบาทที่หลากหลาย เส้นทางของเขาอาจเต็มไปด้วยความท้าทายมากมาย แต่วินคือชายผู้พร้อมจะทดลองและเดินออกจากพื้นที่ปลอดภัย ใช้ความสามารถ แรงใจเกินร้อย ผสมกับความมุ่งมั่น ขยายและก่อจักรวาลของตัวเอง
จักรวาลที่เต็มไปด้วยตัวตน แพสชัน คนที่เขารัก และแฟนคลับ ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่า บางครั้งขอเพียงพยายาม กล้าลงมือทำอย่างตั้งใจ เราก็สามารถสร้างโลกของตัวเองได้
วินเป็นลูกคนที่ 3 ของบ้าน ‘โอภาสเอี่ยมขจร’ คุณพ่อของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับเหล็กและหวังให้ลูกชายเข้ามาช่วยงานที่บ้านหลังเรียนจบ
แม้ว่าเขาจะเคยฝันอยากเป็นสถาปนิก แต่สุดท้ายเขาก็เลือกสอบเข้าคณะเศรษฐศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตามคำแนะนำของพ่อ
“ตอนสมัยมัธยม เราอยากเป็นสถาปนิกนะ ด้วยความที่เราเล่นเกม The Sims จริง ๆ เราก็อยากเข้าเรียนคณะสถาปัตย์นะ แต่ด้วยความที่ที่บ้านทำธุรกิจ พ่อกับแม่ก็บอกว่าให้เรียนในสิ่งที่ต่อยอดธุรกิจดีกว่าไหม เราก็เลยต้องพักตรงนั้นไป และเลือกเรียนในสิ่งที่เขาอยากให้เรียน”
ถึงแรก ๆ จะไม่สนุก แต่เขาก็ต่อสู้กับตัวเอง ลบคำสบประมาทคนอื่นที่บอกว่า “วินเรียนไม่เก่ง” กอบกู้เกรดและอยู่กับสิ่งนี้มาได้จนสามารถเรียนจบและคว้าใบปริญญามาได้สำเร็จ
“ผมเรียนเศรษฐศาสตร์มาทุกสาขา ทุกแผนกของเศรษฐศาสตร์ ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีสักตัวเลยที่ผมชอบ พอไม่ชอบ ผมไม่รับเลย เรียนเทอมแรกเกรดตก จากคนที่เรียนดีมาตลอด สุดท้ายผมบอกตัวเองว่า ต้องทำให้ได้ ซึ่งมันก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ”
และถึงจะไม่อินกับเศรษฐศาสตร์ แต่สุดท้ายวินก็ได้มาค้นพบตัวเองผ่านโลกการแสดง นับตั้งแต่วันที่เขาไปบังเอิญเจอผู้จัดการนักแสดงช่อง ONE 31 และถูกชักชวนให้เข้ามาเป็นนักแสดงในสังกัด
เขาเป็นนักแสดงฝึกหัดอยู่ 1 ปี ผ่านออดิชันมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่ผ่าน ก่อนจะย้ายมาเซ็นสัญญากับ GMMTV ด้วยการรับบทนักแสดงนำเรื่องแรกใน ‘เพราะเราคู่กัน 2gether The Series’ ที่ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ
และนั่นคือจุดเปลี่ยนครั้งแรกที่เปลี่ยนชีวิต ‘วิน เมธวิน’ ไปตลอดกาล
‘2gether The Series’ เพราะเราคู่กัน คือ ผลงานเดบิวต์การแสดงของ ‘วิน เมธวิน’ ที่ทำโลกโซเชียลสั่นคลอนในยุคโควิด-19
เรื่องนี้เป็นซีรีส์ Boys’ Love ที่รีเมกจากนวนิยายเรื่อง ‘เพราะเรา… คู่กัน’ โดยวินรับบทเป็น ‘ไทน์’ หนุ่มที่คบกับสาวคนไหนก็ไม่รุ่ง เขาใฝ่ฝันว่าสักวันเขาจะได้เจอรักแท้ในมหาวิทยาลัย แต่ก็โดนเพื่อนผู้ชายที่มาตามกรี๊ด เพื่อแก้ปัญหาทุกอย่าง เขาเลยไปชวน ‘สารวัตร’ ที่รับบทโดย ไบรท์ วชิรวิชญ์ มาแกล้งเป็นแฟนจนเป็นความสัมพันธ์ที่ทำแฟน ๆ จิกหมอนกันทุกตอน
เพื่อสวมบทเป็นไทน์ได้ดีที่สุด วินก็ทุ่มสุดตัว หนึ่งในนั้น คือ การเปลี่ยนตัวเองจากหนุ่มนักกิน หักห้ามใจตัวเอง และลดน้ำหนักไป 10 กิโลกรัมก่อนเริ่มถ่ายทำ
“พอต้องมารับบทไทน์ในซีรีส์ ‘เพราะเราคู่กัน 2gether The Series’ ตามบทไทน์ต้องตัวเล็กกว่านี้ ทุกคนเลยมีความเห็นว่าวินควรลดน้ำหนักด่วน ผมก็เลยตั้งใจเต็มที่ ต่อสู้กับความอยากทุกวัน (หัวเราะ)
“ฟังดูเหมือนเวอร์นะ แต่เรื่องกินเป็นอะไรที่ผมยอมไม่ได้จริงๆ เมื่อก่อนต่อให้แม่บ่นยังไง ผมก็ไม่สน ผมจะกิน โอเคว่าผมจะออกกำลังกายมากขึ้น แต่จะไม่ลดการกินเด็ดขาด”
เพราะแสดงเป็นครั้งแรก แต่วินก็ทำได้ดี เพราะทุกคนต่างเอ็นดูในความอึน ๆ ซึน ๆ ที่แฝงไปด้วยความน่ารัก จนทำให้เขากลายเป็นนักแสดงที่หลายคนจับตามองในฐานะดาวดวงใหม่ของวงการ
ณ ตอนนั้น ความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ เรียกว่า ใครมาฉุดไว้ก็ไม่อยู่ ยืนอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ในทุกตอนที่ออกอากาศ ยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมของวินจากช่วงออกอากาศซีรีส์ตอนแรกราว 30,000 คน แต่ความนิยมของซีรีส์ทำให้ตอนสุดท้ายที่ออกอากาศ ผู้ติดตามทะลุไปกว่า 2 ล้านคน
นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดไปสู่ภาพยนตร์และแฟนมีตติ้ง เริ่มจาก BRIGHT-WIN Global Live Fan Meeting ที่เป็นแฟนมีตติ้งในรูปแบบออนไลน์ ต่อด้วย ‘คั่นกู 2gether Live On Stage’ ที่เปิดทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึง BrightWin Manila Live แฟนมีตติ้งครั้งแรกที่ฟิลิปปินส์
ยังไม่นับรวมกับแรงซัพพอร์ตอย่างยิ่งใหญ่ด้วยช่อดอกไม้เงิน ดอกกุหลาบสีแดง 999 ดอกจากแฟนคลับชาวจีน ที่ตั้งอยู่ข้างล่างตึก GMM Grammy ในวันส่งความรัก สะท้อนว่า วินกำลังก้าวสู่นักแสดงที่รับแรงใจจากแฟน ๆ ทั่วโลก
สำหรับวิน เขาบอกว่า นี่คือสิ่งที่เกินฝัน แต่เขาก็พยายามที่จะมุ่งมั่นและสร้างสรรค์ผลงานที่ดีเพื่อแฟนคลับที่เขารักและรักเขาต่อไป
“ตอนแรกผมไม่ได้คิดว่าจะมีแฟนคลับต่างประเทศ แค่มีแฟนคลับประเทศไทยก็รู้สึกว่า มันสุดยอดมากแล้ว มันดีมาก ๆ พอมาอยู่จุดนี้ มันเกินความคาดหมายมาก และเราก็อยากทำทุกโมเมนต์ให้ดีที่สุด”
หลังจากนั้น วินก็มีผลงานผ่านหน้าจอต่อเนื่อง ทั้งเรื่อง ‘Boys Over Flowers’ ซีรีส์ที่รีเมกจากฉบับเกาหลีใต้ที่พลิกมารับบทลูกชายทายาทธุรกิจพันล้าน ‘Devil Sister’ ก็กลายเป็นหนุ่มขี้อ้อน หรือใน ‘Enigma คน มนตร์ เวท’ วินเป็นคุณครูสุดเท่ หรือ ‘Beauty Newbie’ หัวใจไม่มีปลอม เขาก็เป็นนักศึกษาสุดหล่อที่สาว ๆ กรี๊ด และเรื่องล่าสุดกับ ‘บุหงาหมื่นภมร’ ที่วินรับบทเป็นชายหนุ่มลึกลับที่มีพลังไสยศาสตร์
เพราะในฐานะนักแสดง วินมองว่า เขาจะตั้งใจทำทุกผลงานและสวมบทบาทที่เขาเลือกแล้วให้ดีที่สุด
“ในอาชีพของนักแสดง จริง ๆ มันไม่จำเป็นต้องยึดกับสิ่งที่เราเคยเล่นมา เราสามารถทำอะไรได้หลากหลาย เล่นคั่นกูมาก็ไม่ได้แปลว่า ผมจะเป็นไทน์ตลอดไป มันก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
“ก็เลยรู้สึกว่า เราก็แค่ทำงานทุกงานที่เข้ามาที่เราเลือกให้ดีที่สุด เป็นตัวละครนั้นให้ได้มากที่สุด”
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเคยมีผลงานเพลงประกอบซีรีส์อยู่บ้าง อย่างเช่น ‘คนนั้นต้องเป็นเธอ’ ประกอบซีรีส์ ‘2gether The Series’ เพราะเราคู่กัน และ ‘ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง’ ประกอบซีรีส์ Devil Sister
ก่อนจะเดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวของค่าย Riser Music เพลง ดึกมากแล้ว (NIGHT RIDE) ft. Badmixy ที่ตอนนี้ (26 กันยายน 2568) มียอดชมมิวสิควิดีโอมากถึง 16 ล้านครั้ง
แม้วันนี้ วินยังไม่ค่อยถนัดเต้น และบอกว่ากำลังพยายามฝึกอยู่ แต่ความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาหลายด้านถือเป็นการย้ำว่าเขาไม่ใช่นักแสดงที่หยุดอยู่กับที่ แต่พัฒนาตัวเอง ขยายจักรวาลความเป็นศิลปินของตัวเองไปข้างหน้าอยู่เสมอ
ท้ายที่สุด ไม่ว่าบทต่อไปจะพาเขาไปยืนบนจอไหนหรือเวทีใด สิ่งที่คงเดิมคือมาตรฐานเดียว ทำทุกงานที่เลือกให้ดีที่สุด และปล่อยผลงานเป็นบทพิสูจน์ความอดทน ความตั้งใจ และความพยายามของเขาแทน
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ ‘วิน เมธวิน’ เป็นนักแสดงและศิลปินระดับโลก คือ การที่เขาได้รับแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador) ของ Prada ตั้งแต่ปี 2023 และได้เข้าร่วมแฟชั่นโชว์ของ Prada ในงานแฟชั่นวีคหลายครั้ง
เรียกได้ว่า เขาคือหนึ่งในคนไทยที่ได้ยืนเคียงข้างศิลปิน นักแสดง และเซเลบระดับโลกได้อย่างเหมาะสมที่สุด ทั้งชุด หน้า ผม คำที่หลายคนบอกว่า ชุดส่งหน้า หน้าส่งชุด คือ เรื่องจริง
เพราะในปี 2023 วินติดรายชื่อ ‘Forbes 30 Under 30 Asia 2023’ จาก Forbes นิตยสารธุรกิจการเงินชั้นนำของสหรัฐอเมริกาอที่คัดเลือกดาวรุ่งทั่วโลกที่กำลังได้รับความสนใจ ณ เวลานั้น
Forbes ให้เหตุผลว่า “วินคืออีกหนึ่งดาวรุ่งในปีนี้ที่เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ เขาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากบทบาทในซีรีส์เรื่อง '2gether: The Series' และซีรีส์รีเมกเวอร์ชั่นไทยอย่าง 'Boys Over Flowers' หรือที่รู้จักกันในชื่อ F4
“นอกจากนี้วินยังเป็นแฟชั่นไอคอนฝ่ายชายที่กำลังมาแรง ตั้งแต่การปรากฏตัวอย่างโดดเด่นที่สัปดาห์แฟชั่นโชว์ Milan Men's Fashion Week ในปี 2022 และปีนี้ (2023) วินยังได้รับการประกาศแต่งตั้งให้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Prada อย่างเป็นทางการอีกด้วย”
และ ในปี 2025 วินสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการแฟชั่นด้วยการติดอันดับที่ 4 ของคนดังทั่วโลกที่สร้างมูลค่าทางออนไลน์สูงสุดประมาณ 3.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐในงาน Milan Fashion Week คอลเล็กชั่น Fall/Winter 2025 ของ Prada
“รู้สึกตื่นเต้น เกินฝันมาก หลายแบรนด์เราชอบตั้งแต่เด็ก ไม่คิดว่าวันหนึ่งเราจะได้ร่วมงานกับเขา ได้จับมือ ได้กอดเขา… ผมมองเห็นความคิดเยอะ ความดีเทล ทุก process ที่เราไปถึงมันถูกคิดมาหมดแล้ว บางครั้งไปก็ได้ไอเดียกลับมาด้วย” วินเคยให้สัมภาษณ์ไว้
วินไม่เพียงพาเสน่ห์ของนักแสดงไทยไปยืนท่ามกลางแบรนด์แฟชั่นระดับโลก แต่ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรมของไทยสู่สายตาโลก และทำให้เห็นว่า ศิลปินไทยสามารถยืนแถวหน้าของโลกได้จริง
นอกจากเป็นคนในวงการบันเทิงแล้ว ตอนนี้วินยังรับบทเป็นนักธุรกิจ เขามีธุรกิจธุรกิจไอศกรีม ‘Velato’ ธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นแนวสตรีท Unisex ชื่อ ‘VELENCE’ และร้านขนมหวาน ‘SOURI’ ที่ทำร่วมกับพี่สาว
แต่จุดร่วมของทุกแบรนด์มาจากความชอบของวินที่อยากจะส่งต่อความรู้สึกนั้นให้กับคนอื่น ๆ
“เราเริ่มจากสิ่งที่เราชอบก่อน แล้วอยากจะแชร์สิ่งที่ชอบให้คนอื่น ก็เลยรู้สึกว่า เราต้องชอบมันมาก ๆ ก่อน ต้องสนใจมาก ๆ อยากลุยทุกปัญหา อยากแก้ปัญหา อยากทำมันออกมาให้ดีที่สุด แล้วก็พร้อมจะเดินไปต่อกับมันได้”
แล้วดูเหมือนแบรนด์ที่จะโดดเด่นมากที่สุด ก็คือ ‘SOURI’ จากแบรนด์ที่เริ่มต้นจากกิจกรรมในครอบครัว เปิดขายออนไลน์ วันนี้กลายเป็นแบรนด์ขนมที่มากกว่า 19 สาขาทั่วประเทศ
ซึ่งคำว่า SOURI มาจากคำว่า ‘Sourire’ ที่แปลว่า ‘รอยยิ้ม’ ในภาษาฝรั่งเศส เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ เพราะเป็นความตั้งใจของแบรนด์ที่อยากเห็นลูกค้ามีความสุขหรือมีรอยยิ้มทุกครั้งที่ได้ทานขนม
“เราทำ SOURI ขึ้นมาเพราะเราตั้งใจทำจริง ๆ ไม่ได้ฉาบฉวย และเราใส่ใจในทุกขั้นตอนที่เราทำให้มันออกมาดีที่สุด”
ตอนเปิดร้าน SOURI มีมาการอง 10 รสชาติหลัก มี 3 รสชาติขายดี คือ Red Velvet, Lemon Pie และ Summer Smoothies แต่หลังจากขยายสาขาก็มีรสชาติใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับสาขานั้น ๆ เช่น รสชาติไก่ทอดหาดใหญ่ สำหรับสาขาสงขลา รสชาติโรตีสายไหม สำหรับสาขาอยุธยา เป็นต้น
อีกทั้งล่าสุดยังไปร่วมคอลแลบกับศิลปินเกาหลีอย่าง ‘RIIZE’ ด้วยการออกแบบกล่องมาการองด้วยโทนส้มสดใสสีประจำวง RIIZE และ Fatcaron 6 รสชาติพิเศษที่ถ่ายทอดผ่าน 6 คาแรกเตอร์ของ RIIZE
“ผมอยากให้พนักงานของเราเติบโต เพราะฉะนั้นพนักงานเราจะเติบโตได้ เราก็ต้องทำให้บริษัทเติบโตไปด้วยกัน… จริง ๆ เป้าหมายที่อยากทำ คือ เราอยากจะผลักดันให้ธุรกิจของไทย สินค้าของไทยไปสู่ตลาดโลกให้ได้”
ตั้งแต่เด็ก วินเป็นคนชอบท้าทายตัวเอง พุ่งชนทุกเป้าหมาย ดังนั้น ตลอดชีวิตของเขา เขาจึงเลือกที่จะสวมหมวกหลายใบ ลงมือทำและสนุกกับการรอคอยผลลัพธ์
“ผมว่าด้วยตัวผมเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉย มักจะหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา แล้วเป็นสิ่งที่เราสนใจและอยากทำ นั่นคือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เราทำมาโดยตลอด
“ซึ่งทุกสิ่งที่เราตัดสินใจลงมือทำ ก็จะเต็มที่กับมันเสมอ เพื่อให้ออกมาดีที่สุด และอยากรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบไหนได้บ้าง”
ก่อนหน้านี้ วินเคยมองว่า ตัวเองจะเกษียณ ถอดหมวกการเป็นคนบันเทิงในวัย 35 ปี แต่เมื่อถูกถามอีกครั้งเมื่อปี เขาตอบกับ GQ Thailand เมื่อปี 2024 ว่า ยังสนุกกับงาน และทุกก้าวเดินในวงการเป็นเหมือนไดอารี่ที่ทำให้เขากลับมาอ่าน แล้วเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
“เป็นการวางแผนเอาไว้ว่าอยากถอดหมวกออกมาเฉยๆ แต่คงไม่ใช่การนอนอยู่บ้านเพียงอย่างเดียว ต่อให้ผมแก่แค่ไหน แต่เราเป็นคนโปรดักทีฟ อยู่เฉยไม่ได้ ก็คงจะเป็นรูปแบบการเกษียณที่เราไม่ต้องเครียด เป็นการวางระบบเอาไว้ว่า ในวันที่ไม่ต้องมีผม ทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปได้”
แล้วเขาก็เชื่อว่าด้วยวัยที่เติบโตขึ้น จะทำให้เขาลุกขึ้นมากำหนดชีวิต เป็นอิสระ และมีความสุขกับการลงมือทำสิ่งใหม่ในทุกวัน
"ผมก็อยากให้ทุกคนตั้งใจทำกับสิ่งดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิต เพราะถ้าเราไม่ตั้งใจทำสิ่งเหล่านั้นให้ดี แล้วปล่อยให้โอกาสเหล่านั้นผ่านเลยไป วันหนึ่งเราอาจจะเสียใจในภายหลังและไม่มีโอกาสกลับไปแก้ไขทำสิ่งนั้นให้ดีกว่าเดิมได้ ดังนั้นเราควรจะตั้งใจทำทุกสิ่งให้ออกมาดีที่สุด"
และเราก็เชื่อว่า ไม่ว่าวินจะสวมหมวก นักแสดง ศิลปิน หรือผู้ประกอบการ เขาก็จะใช้หัวใจและความตั้งใจทั้งหมดสร้างอาณาจักรของตัวเอง
เส้นทางของเขาทำให้เรารู้ว่า แม้ระหว่างทางจะเกิดบทเรียนมากมาย แต่ความพยายาม ความมุ่งมั่น และความกล้าที่จะลงมือทำอาจพาเราไปได้ไกลกว่าที่ตัวเราคิดไว้เสียอีก
ภาพ : อินสตาแกรม winmetawin, souri.bkk
อ้างอิง
วิน-เมธวิน นักแสดงหนุ่มผู้ใช้ “หัวใจนำทาง” สร้างชื่อเสียงและธุรกิจให้เติบโต / Forbes Thailand
เปิดเส้นทางชีวิต ‘วิน เมธวิน’ ไม่หยุดพัฒนาความสามารถให้โตทันชื่อเสียง / Workpoint Today
ทริคฟิตหุ่นเฟิร์ม ‘วิน-เมธวิน’ เปลี่ยนจากสายกิน ลดน้ำหนัก 10 กิโลได้ในเดือนกว่าๆ / แพรว Magazine
'วิน-เมธวิน' ติดท็อป 5 คนดังที่สร้างมูลค่าทางสื่อสูงสุด ในช่วงมิลานแฟชั่นวีก 2025 / VOGUE THAILAND
'วิน-เมธวิน' ติดท็อป 5 คนดังที่สร้างมูลค่าทางสื่อสูงสุด ในช่วงมิลานแฟชั่นวีก 2025 / GQ Thailand
"ไบร์ท-วิน" ฮอตปรอทแตก ตีคู่ "เพราะเราคู่กัน" ยืนหนึ่งความแรงระดับโลก / sanook
"วิน เมธวิน" นักแสดงและศิลปินไทย ที่ดังไกลระดับโลก! | แฉ 2 ธ.ค. 67 [2/3] / GMM25 Thailand
“วิน เมธวิน” เปิดชื่อไลน์กลุ่มที่ไม่อยากให้คนรู้? | WOODY FM / WOODY
วิน เมธวิน "ใช้หัวใจนำทาง" สร้างชื่อเสียงและธุรกิจให้เติบโต / Forbes Thailand
https://www.tiktok.com/@souri.bkk/video/7532495445407321360 / souri.bkk