logo-pwa

เพิ่ม Thepeople

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด

‘เจสสิกา อเล็กซานเดอร์’ ผู้รับบทร่างแปลง ‘เออร์ซูลา’ จอมขโมยซีนใน ‘The Little Mermaid’

‘เจสสิกา อเล็กซานเดอร์’ ผู้รับบทร่างแปลง ‘เออร์ซูลา’ จอมขโมยซีนใน ‘The Little Mermaid’

‘เจสสิกา อเล็กซานเดอร์’ กลายเป็นนักแสดงที่ถูกพูดถึงอย่างมาก หลังภาพยนตร์ ‘The Little Mermaid’ ออกฉาย ทั้งที่รับบทเป็นตัวร้าย และปรากฏตัวในเรื่องเพียงไม่กี่นาที

  • ‘ร็อบ มาร์แชลล์’ ผู้กำกับ The Little Mermaid ต้องการให้ผู้ที่มารับบท ‘วาเนสซา’ เป็นนักแสดงที่ไม่โด่งดังมากนัก เพราะไม่อยากให้คนดูเสียสมาธิ
  • มีแฟนภาพยนตร์บางคนเข้าไปแสดงความเห็นในอินสตาแกรมของเจสสิกาในทำนองว่า เธอควรจะได้เล่นเป็นแอเรียลมากกว่า ต่อมามีรายงานว่าเจสสิกาจัดการบล็อกความเห็นเหล่านี้ไปแล้ว 

ภาพยนตร์ ‘The Little Mermaid’ ฉบับคนแสดง (live-action) ของดิสนีย์ ตกเป็นกระแสตั้งแต่ก่อนเข้าฉาย โดยเฉพาะเรื่องการคัดเลือกนักแสดงที่ทางดิสนีย์ตัดสินใจให้นักแสดงผิวดำอย่าง ‘ฮัลลี เบลีย์’ มารับบท ‘แอเรียล’ ทำลายภาพจำคนทั่วโลกที่ว่าเจ้าหญิงเงือกน้อยใต้สมุทรผู้นี้ต้องมีผิวขาวซีด ตาสีฟ้า และผมสีแดง 

กระแสโจมตีที่ว่าดิสนีย์กำลัง ‘ยัดเยียด’ ประเด็นสีผิวเข้ามาในภาพยนตร์จนเกินที่แฟนแอเรียล (จำนวนไม่น้อย) จะทานทนได้ มาแรงจนกลบตัวละครที่น่าสนใจอื่น ๆ กระทั่งภาพยนตร์เข้าฉายในโรง สปอตไลต์จึงสาดไปถึงตัวละครอื่น ๆ บ้าง หนึ่งในนั้นคือจอมขโมยซีนอย่างร่างแปลงของ ‘เออร์ซูลา’ ที่มีนามว่า ‘วาเนสซา’

การเฟ้นหาผู้รับบท ‘วาเนสซา’ 

ใน Little Mermaid เวอร์ชันแอนิเมชัน เออร์ซูลารู้ดีว่าการปล่อยให้แอเรียลเดินเฉิดฉายอยู่บนโลกของมนุษย์จะกลายเป็นปัญหาในภายหลัง เพราะแม้แอเรียลจะไม่มีเสียงร้องเพลงที่ไพเราะ เธอก็ยังสามารถทำให้เจ้าชายเอริคตกหลุมรักได้ 

เออร์ซูลาที่ต้องการแย่งชิงบัลลังก์จากราชาไทรตันโดยใช้แอเรียลเป็นเครื่องมือ จึงต้องแก้เกมด้วยการปลอมตัวเป็นหญิงสาวชื่อวาเนสซา แทรกซึมเข้าไปในอาณาจักรและร่ายมนตร์ใส่เจ้าชาย ทำให้เขาเชื่อว่าเขารักเธอ ไม่ใช่แอเรียล 

แน่นอนว่าบทของเออร์ซูลาต้องใช้นักแสดง 2 คน คนแรกต้องมารับบทแม่มดร้ายแห่งท้องทะเล ที่ครึ่งบนเป็นหญิงเจ้าเนื้อ ครึ่งล่างเป็นปลาหมึกยักษ์ ซึ่งบทบาทนี้ตกเป็นของ ‘เมลิสซา แมคคาร์ธี’ นักแสดงสาวร่างท้วมผู้เข้าชิงออสการ์จากภาพยนตร์ Can You Ever Forgive Me? 

ขณะที่บทวาเนสซา ผู้กำกับ ‘ร็อบ มาร์แชลล์’ เสาะหาอย่างพิถีพิถัน และหานักแสดงได้ช้ากว่าบทอื่น ๆ เขาตั้งโจทย์ว่าผู้ที่จะมารับบทนี้ต้องเป็นนักแสดงที่หน้าไม่ช้ำมากนัก เพราะเขามีเมลิสซามารับบทเออร์ซูลาแล้ว เขาเลยไม่อยากได้นักแสดงดังอีกคนมาแสดงเป็นร่างแปลงของเออร์ซูลา ด้วยเกรงว่าจะทำให้ผู้ชมเสียสมาธิ 

ร็อบคิดว่าวิธีนี้จะทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่จดจำตัวละครนี้ได้ มากกว่าที่จะสนใจว่าใครคือผู้มารับบทนี้ 

“เรามีเมลิสซารับบทเป็นเออร์ซูลาอยู่แล้ว ดังนั้นการมีคนดังอีกคนมารับบทเป็นวาเนสซา จะทำให้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ” ร็อบขยายความ 

ทว่านักแสดงที่จะมารับบทเป็นวาเนสซาก็จะต้องไม่อ่อนหัดจนถูกบารมีของนักแสดงรุ่นพี่กลบจนมิด เพราะในภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยนักแสดงดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเมลิสซา รวมถึง ‘ฮาเวียร์ บาร์เด็ม’ ที่รับบทเป็นราชาไทรตัน, ดาวีด ดิ๊กส์ ผู้ให้เสียงพากย์เป็นเซบาสเตียน, อควาฟินา ผู้ให้เสียงพากย์เป็นสคัทเทิล และเจค็อบ เทรมเบลย์ ผู้ให้เสียงพากย์ฟลาวน์เดอร์ 

ระหว่างออดิชันหาหญิงสาวที่จะมารับบทวาเนสซา ร็อบเกิดสะดุดตากับเจสสิกา หลังจากที่เขาได้ฟังเสียงของเธอ 

ร็อบขอให้เจสสิการ้องเพลง ทั้งที่มันไม่จำเป็นเลย แต่กลายเป็นว่าเจสสิกาที่ไม่ได้มีอาชีพเป็นนักร้อง สามารถร้องเพลงได้อย่างไพเราะ จนตกร็อบได้สำเร็จ 

ไม่เพียงเสียงร้องที่สร้างความประทับใจให้ผู้กำกับ เจสสิกายังมีใบหน้าอันงดงามและเสน่ห์แสนดึงดูด ที่ทำเอาร็อบอดตื่นเต้นไม่ได้เวลาที่จินตนาการว่าหญิงสาวผู้นี้คือคนคนเดียวกับแม่มดร้ายแห่งท้องทะเล

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้เจสสิกาตอบโจทย์ร็อบคือ เธอไร้ซึ่งความกลัวใด ๆ 

ตัดมาที่ฝั่งเจสสิกา ตอนแรกเธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะถูกเรียกไปออดิชันบทในเรื่อง The Little Mermaid เพราะมันเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ แต่หลังจากส่งเทปที่อัดในอะพาร์ตเมนต์ของเพื่อนไป ตัวแทนก็ติดต่อกลับมาหาเธอเพื่อแจ้งให้เธอไปออดิชันบทนี้ 

แม้วันออดิชันเธอจะไม่แสดงออกถึงความกังวล แต่ความจริงแล้วเธอกำลังประหม่าสุด ๆ เธอพยายามระงับอารมณ์เต็มที่เพื่อไม่ให้ตัวเองดูตื่นเต้นเกินไป ซึ่งสุดท้ายก็ลงเอยด้วยดี เธอคว้าบทวาเนสซาไปครองได้สำเร็จ

แฟนพันธุ์แท้ The Little Mermaid

หลังภาพยนตร์ The Little Mermaid ออกฉาย ผู้ชมจำนวนมากพากันตกหลุมรักวาเนสซา แม้ว่าเธอจะปรากฏตัวในเรื่องเพียงไม่กี่นาที 

นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดึงดูด สาวผมบลอนด์คนนี้ยังมีอินเนอร์กับบทที่ได้รับเป็นพิเศษ เพราะเธอเป็นแฟนพันธุ์แท้ The Little Mermaid มาตั้งแต่เด็ก และเธอก็หลงเสน่ห์เจ้าชายเอริคมานานแล้ว

“ฉันคิดว่าเขาเป็นแฟนฉัน! ฉันคิดว่าแอเรียลต่างหากที่เป็นตัวร้าย ฉันเชื่ออย่างมากว่าผู้หญิงมีพลังแบบนี้อยู่ในตัว แล้วฉันก็พยายามคงความซื่อสัตย์ต่อตัวละคร พร้อมกับพัฒนาให้ทันสมัยขึ้นเล็กน้อย” 

น่าเสียดายที่เจสสิกาและเมลิสซาไม่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยกัน ทั้งที่ทั้งคู่รับบทเป็นตัวละครเดียวกัน แต่เจสสิกาก็ยังคงสนุกกับการถ่ายทำ เธอหลงใหลเครื่องแต่งกายในเรื่อง เพราะก่อนหน้านี้เธอได้รับแต่บทที่ไม่ต้องแต่งหน้าจัดและแต่งตัวสบาย ๆ 

พ่อแม่ของเจสสิกาเองก็ปลาบปลื้มที่ลูกสาวได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่เธอชื่นชอบตั้งแต่เด็ก เจสสิกาเล่าว่า พ่อแม่ของเธอภูมิใจและสนับสนุนเธอเต็มที่ 

“มันนับเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทุกคนทุ่มเทกับบทบาทของตัวเองมาก นี่คือมาสเตอร์คลาสทางด้านการแสดงเลยทีเดียว” 

ดราม่าสวยกว่านางเอก

เจสสิกายังเล่าถึงการทำงานร่วมกับฮัลลีด้วยว่า “ฉันหวังว่าจะได้ร่วมงานกับเธอมากกว่านี้ เธอทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายมาก”

แต่แม้จะแสดงออกนอกหน้าว่าปลื้มเพื่อนนักแสดงคนนี้แค่ไหน เจสสิกาวัย 23 ปี ก็หนีดราม่าไม่พ้น เมื่อมีแฟนภาพยนตร์บางคนเข้าไปแสดงความเห็นในอินสตาแกรมของเธอในทำนองว่า เธอควรจะได้เล่นเป็นแอเรียลมากกว่า 

พอมีการแสดงความเห็นในลักษณะเหยียดฮัลลีมากเข้า มีรายงานว่าเจสสิกาจัดการบล็อกความเห็นเหล่านี้ไปแล้ว

แม้จะยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่สำหรับคนที่ติดตามอินสตาแกรมของเธอจะเข้าใจดีเลยว่า นักแสดงสาวชาวอังกฤษผู้นี้ไม่น่าจะนิยมชมชอบเรื่องการเหยียดเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดผิวหรือการเหยียดเพศ 

ภูมิใจในความเป็นชาว LGBTQI+

ก่อนหน้านี้เจสสิกาได้โพสต์ภาพในสตอรี่พร้อมแคปชันที่แสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในเรื่องเพศของเธอ ใจความตอนหนึ่งระบุว่า “พวกเราไม่จำเป็นต้องจัดหมวดหมู่เรื่องเพศของเรา แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ภูมิใจในความเป็นไบ ในบ้านหลังนี้ เราสนับสนุน ยกระดับ และยกย่องตัวอักษร B ใน LGBTQI+”  

แต่ไหนแต่ไรมา เจสสิกาเป็นสมาชิกที่น่าภาคภูมิใจของชุมชน LGBTQI+ และเจ้าตัวก็มักใช้แพลตฟอร์มของตัวเองเพื่อช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชาว LGBTQI+ อยู่เสมอ

แม้จะอายุเพียง 20 ต้น ๆ แต่เจสสิกาก็ยืนหยัดในความเชื่อของตัวเองและไม่กลัวที่จะบอกให้โลกรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจ นอกจากสิทธิของ LGBTQI+ แล้ว เธอยังสนับสนุนในประเด็นอื่น ๆ เช่น การต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ และการต่อสู้เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น 

เป็นทั้งนักแสดงและนางแบบ

ในแง่ผลงานในโลกบันเทิง แม้จะไม่ใช่นักแสดงที่โด่งดังระดับโลก แต่ชื่อของเจสสิกาก็ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล BIFA สาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากบทบาทใน A Banquet ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่ออกฉายในปี 2021 

“มันเจ๋งมากเลยนะ นี่คือสิ่งที่น่าทึ่งสำหรับคนที่เติบโตมาในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อังกฤษอย่างฉัน มันมีความหมายสำหรับฉันมาก ภาพยนตร์หลายเรื่องที่ฉันได้เล่นก่อน A Banquet ล้วนเป็นภาพยนตร์อิสระฟอร์มเล็ก ๆ และตอนนี้ฉันก็ได้เล่นเรื่อง The Little Mermaid ที่ทำให้ฉันได้ก้าวมาถึงจุดนี้ ทำให้ฉันได้พิสูจน์ตัวเองว่า ฉันสามารถเล่นเป็นตัวละครที่เข้มข้นและซับซ้อนได้”

อยากเป็นนักแสดงตั้งแต่ 5 ขวบ 

เจสสิกา อเล็กซานเดอร์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 1999 เธอเกิดและโตที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และการเติบโตในเมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้มีส่วนทำให้เธอมีจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์และมีความหลงใหลในศิลปะการแสดง

สาวลอนดอนผู้นี้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแสดงตั้งแต่อายุแค่ 5 ขวบ เธอเคยเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “มันฟังดูซ้ำซากน่าเบื่อ แต่ในใจของฉันไม่เคยสงสัยเลย เพราะฉันไม่เก่งเรื่องอื่นสักเท่าไร ฉันไปออดิชันมาหลายร้อยครั้งและไม่เคยได้บทอะไรเลย”

กระทั่งอายุได้ 14 ปี เจสสิกาได้รับบทเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์สั้นเรื่อง Necktie ที่ออกฉายในปี 2013 ซึ่งประสบการณ์ในช่วงแรกนี้ได้ปูทางให้เธอเดินเข้าสู่อาชีพด้านการแสดงที่สดใส

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้เล่นซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง Penny on M.A.R.S. ทางช่องดิสนีย์ของอิตาลี เมื่อปี 2018 โดยรับบทเป็น ‘ลูซี คาร์เพนเตอร์’ ใน 2 ซีซั่นแรก ซึ่งเป็นช่องทางให้เธอได้ฉายแววความเก่งกาจและพรสวรรค์

ต่อมาจึงได้แสดงในซีรีส์เรื่อง Get Even และได้โชว์ฝีมือจนได้รับคำชมอย่างล้นหลามในภาพยนตร์เรื่อง A Banquet 

ก่อนหน้านี้เธอได้แสดงร่วมกับ ‘แมทธิว แดดดาริโอ’ ในภาพยนตร์เรื่อง Into The Deep และล่าสุดก็ได้รับเลือกให้แสดงในซีรีส์เรื่อง Fallen

หลังการถ่ายทำ A Banquet เจสสิกายอมรับว่าตัวเองเป็นพวกซาดิสต์เล็ก ๆ เพราะเธอชอบพาตัวเองไปสู่การแสดงที่เจ็บปวด เธอยอมรับว่า “ฉันมักจะไล่ตามความรู้สึกนั้นเสมอ มันสนุกมากที่ถูกครอบงำและกำลังจะเป็นบ้า และได้ปลดปล่อยปีศาจในตัวออกมา”

เจสสิกายังมีความสามารถนอกเหนือจากการแสดง ในปี 2018 เธอได้เริ่มต้นอาชีพนางแบบ ปัจจุบันเธอเซ็นสัญญากับ United Agents, Next Models และ Public Eye Communications ซึ่งแสดงถึงทักษะและความสนใจที่หลากหลายของเธอ

แต่เพียงเพราะเจสสิกาหาเลี้ยงชีพด้วยการอยู่หน้ากล้อง ไม่ได้หมายความว่าเธอต้องการให้กล้องอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา หากพิจารณาจากหลาย ๆ อย่างแล้ว เธอเป็นคนที่ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง เธอไม่ได้ให้สัมภาษณ์มากมาย และการปรากฏตัวทางโซเชียลมีเดียของเธอส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับงาน 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ หลัง The Little Mermaid ออกฉาย และมีคนจำนวนมากอยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้น 

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง: 

graziamagazine

hollywoodlife

ew.com

collider

thepinknews