‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด

‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด

‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร ผู้มีความงามระดับนางเอกละครทีวี รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด 100 ภาพ

KEY

POINTS

ก่อนหน้านี้ The People ได้นำเสนอเรื่องราวของ ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ศิลปินที่มีชื่อเสียงในหมู่นักสะสมและเหล่าภัณฑารักษ์สายเอเชีย ซึ่งใช้ภาพวาดสวย ๆ ฝีมือของตัวเอง จำนวน 100 ภาพ หมั้นหมายกับนักศึกษาสาวคนสวยที่เขาตกหลุมรักระหว่างเรียนปั้นด้วยกัน 

นักศึกษาสาวคนที่ว่า ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาที่สวยงามระดับนางเอกทีวี แต่ยังมีดีกรีเป็น ‘บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร’ และลูกศิษย์คนสนิทของ ‘อาจารย์ศิลป์ พีระศรี’

เธอคนนั้นคือ ‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ ศิลปินแห่งชาติผู้อุทิศให้วงการศิลปะมาทั้งชีวิต

บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร

‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ นามสกุลเดิม ‘ดาวราย’ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2478 เป็นหนึ่งในลูก ๆ 9 คนของพลเรือโท ศรี ดาวราย และหม่อมราชวงศ์ อบลออ สุบรรณ ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนของในหลวงรัชกาลที่ 3 

ลาวัณย์ชอบวาดภาพโดยเฉพาะภาพคนมาตั้งแต่เล็ก ในปี พ.ศ. 2495 พอจบมัธยมจากโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ทั้ง ๆ ที่ทางบ้านไม่ปลื้มที่จะให้เรียนศิลปะ ท่านก็แอบไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมศิลปากร ผลปรากฏว่าสอบได้ที่ 1 ได้เข้าเรียนสมใจ และในอีก 2 ปีต่อมาก็ได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยศิลปากรตามที่ตั้งใจไว้ 

ในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย ลาวัณย์ต้องเลือกวิชาหลักว่าจะจบไปเป็นนักปั้นหรือนักวาด เพราะได้รับคำแนะนำจาก ‘อาจารย์ศิลป์ พีระศรี’ ว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ถ้าได้ปั้นอนุสาวรีย์ใหญ่ ๆ ใครมารู้เข้าจะน่าประทับใจแค่ไหน ท่านเลยตัดสินใจเลือกเรียนปั้น

แต่ด้วยอากาศในโรงปั้นที่อับชื้นเฉอะแฉะ และงานที่หนักหนาทำให้โรคประจำตัวของลาวัณย์กำเริบจนป่วยหนัก หมอสั่งห้ามกลับไปเรียนปั้นโดยเด็ดขาด ท่านเลยจำใจต้องเปลี่ยนมาเลือกเรียนวิชาวาดภาพระบายสีเป็นวิชาหลัก 

ลาวัณย์เรียนจบในปี พ.ศ. 2503 นับเป็นบัณฑิตหญิงคนแรกของประเทศไทยที่จบจากมหาวิทยาลัยศิลปากร

เป็นล่ามแปลไทยเป็นไทยให้อาจารย์ศิลป์

ด้วยฝีมือที่เก่งกาจเกินนักเรียน ลาวัณย์ได้ผ่านการคัดเลือกให้บรรจุเข้าเป็นครูที่คณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากรตั้งแต่ก่อนจะเรียนจบแล้ว และหลังจากจบปริญญาท่านก็ยังคงทำหน้าที่นี้ต่อในตำแหน่งครูผู้ช่วยอาจารย์ศิลป์ พีระศรี เพราะอาจารย์ศิลป์เป็นฝรั่งพูดไทยไม่ชัด งานหลักอีกอย่างของลาวัณย์คือแปลไทยเป็นไทยให้คนอื่นที่ไม่คุ้นกับสำเนียงของอาจารย์ได้เข้าใจถูกต้องอย่างที่อาจารย์อยากจะสื่อสาร 

เช่นครั้งหนึ่งอาจารย์ศิลป์สอนเกี่ยวกับวัดสุทัศน์ในอียิปต์ นักเรียนต่างก็งงเป็นไก่ตาแตกว่าอียิปต์จะไปมีวัดสุทัศน์ได้อย่างไร แต่จริง ๆ แล้วอาจารย์ศิลป์ต้องการจะพูดว่า ‘วัตถุธาตุ’ ไม่ใช่ ‘วัดสุทัศน์’ 

หรือเวลาที่อาจารย์ศิลป์พูดถึงอนุสาวรีย์ ‘คนขี้หมา’ อาจารย์ต้องการจะพูดถึงอนุสาวรีย์ ‘คนขี่ม้า’ ส่วนชื่อนักเรียนบางครั้งอาจารย์ศิลป์ก็ออกเสียงไม่ถูกอย่างเช่น ชื่อ ‘นงเยาว์’ อาจารย์ก็มักจะเรียกว่า ‘นมยาว’ อยู่บ่อย ๆ 

ลูกศิษย์คนสนิทรู้ใจอาจารย์

อาจารย์ศิลป์ พีระศรี เวลาปกติจะเป็นคนใจดีสุด ๆ แต่เวลาโกรธ ก็ดุสุด ๆ เช่นเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะลาวัณย์ลูกศิษย์คนสนิทนั้นรู้มุมและทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี 

เช่นในเช้าวันหนึ่งอาจารย์ศิลป์มาเล่าในชั้นเรียนให้ลูกศิษย์ฟังว่าได้ไปดูหนังเรื่อง ‘แฟนตาเซีย’ มา สนุกอย่างงู้นอย่างงี้ ลูกศิษย์พอได้ฟังก็ทำตาลอยอ้าปากหวอไม่รู้ว่าดีอย่างไร เพราะไม่ได้ไปดูด้วย อาจารย์ศิลป์เห็นอย่างนั้นเลยแจกสตางค์ให้นักเรียนไปดูหนัง แสบแต่จริง แทนที่เหล่าลูกศิษย์บังเกิดเกล้าจะรอหลังเลิกเรียนแล้วค่อยไปดูหนัง ลาวัณย์และผองเพื่อนกลับพร้อมใจกันโดดเรียนไปดูหนังกันทั้งบ่ายนั้นเลย 

อาจารย์ศิลป์มาพบห้องเรียนว่างเปล่าไม่มีสิ่งมีชีวิต ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กะว่าเจอหน้าลูกศิษย์แก๊งนี้อีกทีจะดุซะให้เข็ด แต่ลาวัณย์และเพื่อน ๆ ก็ทำการบ้านมาดี พอเจออาจารย์ศิลป์อีกทีเลยชิงตัดหน้าชวนคุยเรื่องราวรายละเอียดและความประทับใจจาก ‘แฟนตาเซีย’ เสียก่อน ทำให้อารมณ์อาจารย์เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี พ้นภัยไปได้อย่างฉิวเฉียด 

‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด

‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด

สวยระดับดารา แต่ชอบศิลปะมากกว่า

ในเรื่องหน้าที่การงาน นอกจากจะเป็นครูในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว ลาวัณย์ได้สอนศิลปะให้กับคนดูทั่วประเทศออกอากาศเป็นประจำทางทีวีช่อง 4 บางขุนพรหมอยู่นับสิบปี และด้วยรูปโฉมงดงามระดับซุป’ตาร์ ท่านยังเคยได้รับบทเป็นนางเอกละครทีวีเรื่อง ‘ไอด้า’ อีกด้วย 

ลาวัณย์แสดงไปแค่เรื่องเดียวก็ไม่รับงานละครอีก ทั้ง ๆ ที่มีผู้กำกับติดต่อทาบทามมาอีกมากมาย เพราะท่านไม่อยากจะเป็นดาราแต่มีใจรักที่จะเป็นจิตรกรและครูสอนศิลปะมากกว่า 

ในสมัยก่อนเมืองไทยมีทีวีแค่ช่องเดียว ฉะนั้นถ้าบ้านไหนมีทีวี รับประกันว่าบ้านนั้นต้องเคยเห็นลาวัณย์แน่นอน

‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด

หมั้นด้วยภาพวาด 100 ภาพ

ลาวัณย์สมัยสาว ๆ นั้น ต้องบอกว่ามีเสน่ห์สุด ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก เพราะท่านออกจะสวย เก่ง และดังซะขนาดนั้น หัวกระไดบ้านลาวัณย์นี้ไม่เคยแห้ง หนุ่ม ๆ ทั่วทั้งสารทิศต่างแวะเวียนมาแจกขนมจีบอยู่อย่างไม่ขาดสาย 

แต่ลาวัณย์ไม่ได้สนใจจะหาคู่ครองที่ตำแหน่งหน้าที่หรือทรัพย์สินเงินทอง ท่านชอบผู้ชายที่เก่ง ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ศิลปินที่มากความสามารถจึงเป็นผู้โชคดีท่านนั้น 

ท่านเล่าว่าสมโภชน์ไม่ใช่คนมีฐานะอะไร เงินจะซื้อแหวนเพชรให้ก็ไม่มี ลาวัณย์เลยขอของหมั้นเป็นภาพวาด 100 ภาพแทน ทั้งคู่แต่งงานกันและมีทายาท 2 คน

สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงเป็นแฟนคลับ

ในเรื่องศิลปะ ผลงานของลาวัณย์ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางไม่แพ้ตัวคนวาด ลาวัณย์ได้เข้าร่วมงานแสดงศิลปะทั้งงานเล็กงานใหญ่อยู่เสมอ ๆ จนครั้งหนึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมทั้งสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จฯ มาเปิดงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ในงานมีผลงานศิลปะต่าง ๆ ขนเอามาโชว์กันนับร้อย ๆ ชิ้น ผลงานมากมายในงานนั้นเป็นแนวนามธรรมที่ดูไม่ค่อยจะรู้เรื่อง พอสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงเห็นผลงานของลาวัณย์ที่เป็นภาพเหมือนบุคคล ดูสวยงาม แสดงอารมณ์ และเข้าใจง่ายก็รู้สึกถูกพระทัย จึงให้ลาวัณย์เข้าเฝ้าฯ และตรัสกับลาวัณย์ว่า “รู้ไหมฉันเป็นแฟนอาจารย์ด้วย” เพราะทรงคุ้นหน้าคุ้นตาลาวัณย์จากรายการทางทีวี หลังจากนั้นท่านก็เลยมีโอกาสได้ถวายงานในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงอยู่เสมอ ๆ โดยการวาดภาพตามพระกระแสรับสั่งเพื่อนำไปประดับตกแต่งในพระตำหนักน้อยใหญ่ และเป็นผู้ถวายคำแนะนำในด้านศิลปะให้กับทั้ง 2 พระองค์ 

ผจญมรสุมทางการเมือง

ชีวิตของลาวัณย์นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ท่านต้องพบกับมรสุมทางการเมืองอยู่บ่อยครั้งในช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 และ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ลาวัณย์ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการ และเป็นพวกฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ทั้งที่ตัวท่านเองก็ยังสงสัยว่าไปเกี่ยวข้องอะไรกันด้วย มิหนำซ้ำหลังจากนั้นไม่นานยังมีเหตุขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัยศิลปากรอีก ลาวัณย์จำใจต้องออกจากมหาวิทยาลัยไปตั้งหลักอยู่พักใหญ่ ถือเป็นช่วงชีวิตที่ยากลำบาก ไม่มีรายได้เลี้ยงปากท้องและครอบครัว แต่โชคยังดีที่สวรรค์มีตาด้วยความช่วยเหลือของผู้ใหญ่และมิตรสหาย ลาวัณย์ได้กลับเข้ามาสอนที่มหาวิทยาลัยศิลปากรอีกครั้ง และร่วมสร้างบัณฑิตอยู่ในรั้วศิลปากรจวบจนท่านเกษียณอายุ

‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด ‘ลาวัณย์ อุปอินทร์’ บัณฑิตหญิงคนแรกจากรั้วศิลปากร รับหมั้น ‘สมโภชน์ อุปอินทร์’ ด้วยภาพวาด

ศิลปินแห่งชาติผู้อุทิศให้วงการศิลปะมาทั้งชีวิต

ทุกวันนี้ลาวัณย์ยังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นเดียวกับที่ท่านทำมาเสมอ ๆ ถึงแม้จะมีโรครุมเร้าทำให้มือสั่นวาดภาพยากลำบากกว่าเมื่อก่อน แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำงานศิลปะ และเผยแพร่ความรู้ให้กับสังคมและลูกศิษย์ลูกหานับพันนับหมื่นเป็นเวลาเกือบทั้งชีวิต จึงสมควรแล้วที่ท่านจะได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2559 เป็นปูชนียบุคคลแบบอย่างให้กับศิลปินรุ่นหลังได้ดำเนินรอยตาม

 

เรื่อง : ตัวแน่น
ภาพ : https://theartauctioncenter.com/