03 ก.ค. 2568 | 16:17 น.
KEY
POINTS
ในวันที่ธุรกิจไม่ได้เป็นแค่ ‘การหาเงิน’ แต่คือการตั้งคำถามว่า ทำอย่างไรจะสามารถยกระดับไปถึง ‘การสร้างคุณค่าให้กับคน’
วันที่มีแต่คนมอง ‘ธุรกิจ’ เป็นแค่การสร้าง ‘กำไร’ ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง… ที่มอง ‘ธุรกิจ’ เป็น ‘เครื่องมือในการสร้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์’
ไม่ใช่การ ‘แจกเงิน’ แต่คือการ ‘ให้งาน’ ไม่ใช่แค่ ‘การให้โอกาส’ แต่คือ ‘การออกแบบโอกาส’ ให้กับคนที่ถูกลืมในสังคม
และนี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของโมเดลธุรกิจแบบเจ๋ง ๆ ที่ทำให้ ‘ธุรกิจเพื่อสังคม’ เป็นรูปธรรมแบบจับต้องได้จริง
‘Rising Tide Car Wash’ กิจการล้างรถแบบธรรมดา ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่เป็น ‘ออทิสติก’ ได้ร่วม 100 ชีวิต
หากคุณขับรถไปที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา แล้วเจอกิจการล้างรถชื่อ ‘Rising Tide Car Wash’ อย่าเพิ่งคิดว่า “ก็แค่ร้านล้างรถธรรมดา” เพราะเบื้องหลังของฟองสบู่ กลิ่นแว็กซ์ และเสียงเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง คือโมเดลธุรกิจที่เปลี่ยนชีวิตคนกว่า 100 คนที่มีภาวะออทิสติก
จุดเริ่มต้นมาจากพ่อคนหนึ่ง ที่อยากให้ลูกสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติ
‘จอห์น ดีแอรี’ (John D’Eri) เป็นอดีตนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เค้ามีลูกชายชื่อ ‘ทอม’ (Tom) เป็นเด็กออทิสติก ในฐานะพ่อ เขากังวลว่า หากวันหนึ่งพ่อแม่ไม่อยู่ ลูกจะอยู่ในสังคมได้อย่างไร? ลูกจะพึ่งพาตนเอง และสามารถใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์คนหนึ่งได้หรือไม่?
เมื่อมองรอบกายในสังคมอเมริกัน เขาเห็นภาพเดิมซ้ำ ๆ คนที่เป็นออทิสติก เมื่อเติบโตขึ้น คนกลุ่มนี้ ไม่ได้อยู่ในตลาดแรงงาน ไม่มีใครจ้าง ไม่มีใครยอมรับ เพราะ “เขาไม่เหมือนคนทั่วไป” และนั่นทำให้จอห์นตัดสินใจ ‘เปลี่ยน’
เค้าตัดสินใจลาออกจากงานเดิม ชวนลูกชายเปิดกิจการของตัวเอง แต่ไม่ใช่กิจการเพื่อสร้างความร่ำรวยส่วนตัว กลับกลายเป็น “กิจการที่สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนอย่างลูกชายเขา” และคนอื่น ๆ ที่สังคมไม่เคยมองเห็น
คนออทิสติก “ไม่ได้ไร้ความสามารถ” พวกเขาแค่ต้องการงานที่เหมาะกับพวกเขา จอห์นและลูกชายปรึกษากัน และเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า “มีงานแบบไหนบ้างที่คนออทิสติกสามารถทำได้ดี?”
เขาศึกษาจนพบว่า คนออทิสติกหลายคนมีลักษณะเด่นคือ มีสมาธิกับรายละเอียด, ชอบกิจวัตรที่ชัดเจน ทำซ้ำ, เป็นระเบียบ และทำตามขั้นตอนได้อย่างแม่นยำ, มีความภักดี และไม่เบื่อง่าย
ฟังดูแล้วแป็นคุณสมบัติของพนักงานดีเด่นเลยใช่ไหมครับ? และมันก็ ‘ตรงเผง’ กับทักษะของงาน ‘ล้างรถ’ เพราะงานล้างรถคือการทำตามขั้นตอนที่แน่นอน ซ้ำแล้วซ้ำอีก และต้องใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่ล้างขอบล้อ ยันแว็กซ์เงาฝากระโปรง
เขาจึงออกแบบกระบวนการฝึกอบรมให้ละเอียด ตั้งแต่ขั้นตอนการล้าง การเช็ด การต้อนรับลูกค้า และสร้างระบบที่ช่วยให้คนออทิสติกสามารถเรียนรู้ตามจังหวะของตัวเอง
ที่สำคัญ… ทุกคนได้รับการปฏิบัติเหมือน ‘มืออาชีพ’ ไม่ใช่ ‘ผู้มีภาวะพิเศษ’
ผลลัพธ์ที่มากกว่า ‘งาน’ แต่คือ ‘การคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์’
ปัจจุบัน Rising Tide มีพนักงานร่วม 100 คนที่เป็นออทิสติก และพวกเขาล้างรถมากกว่า 150,000 คันต่อปี ลูกค้าจำนวนมากกลายเป็นแฟนประจำ เพราะรู้ว่าเงินที่จ่ายไปไม่ได้แค่จ่ายค่าบริการ แต่คือ ‘การสนับสนุนคุณค่าของมนุษย์’
ที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์ไม่ใช่มูลนิธิ แต่คือ ‘กิจการจริง’ ที่อยู่ได้ด้วยคุณภาพ และสำหรับพนักงานแต่ละคน งานนี้ คือจุดเริ่มต้นของ ‘การยืนด้วยขาของตัวเอง’ หลายคนจากที่ไม่เคยถูกจ้าง กลับกลายเป็นพนักงานประจำ มีรายได้ มีวินัย มีเป้าหมายในชีวิต บางคนสามารถเก็บเงินซื้ อรถ บางคนพัฒนาไปเป็นหัวหน้างาน และหลายคนกลับมาช่วย ‘ฝึก’ รุ่นน้อง generation ใหม่ ๆ
จากเด็กที่เคยถูกมองว่า ‘เป็นภาระ’ กลายเป็น ‘ต้นแบบ’ ของแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งชุมชน
ธุรกิจไม่ได้เป็นแค่เพียง ‘เครื่องจักรหาเงิน’ แต่หากเราออกแบบให้ดี มันก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการ ‘ยกระดับคุณภาพชีวิตคน’ ได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่ Rising Tide สะท้อนให้เราเห็นคือ “ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะ ‘สร้างกำไร’ หรือ ‘สร้างคน’ เพราะถ้าคิดดี ออกแบบดี มันสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง”
กรณีของ Rising Tide ยังสะท้อนอีกว่า ธุรกิจที่ดี ไม่ไช่แค่แก้ ‘Pain Point’ ของลูกค้า แต่ยังสามารถแก้ ‘Pain Point’ ของคนในสังคมได้อีกด้วย การมองเห็น ‘จุดแข็ง’ แทนที่จะมองแต่ ‘ข้อจำกัด’ คือจุดเริ่มต้นของการออกแบบโมเดลใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งคน และตลาด
เรื่อง: เพจ ‘ลุงทะเล้น’
ภาพ: www.risingtidecarwash.com